ไม่บ่อยที่เราจะได้เห็นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใดที่ได้จะรับกระแสการยอมรับและยกย่องจาก Influencers หลากหลายเพจให้เป็นหนึ่งในโครงการที่ดีและมีความน่าสนใจมากๆ โครงการที่จะตอบโจทย์ทั้งเรื่องของ Concept การพัฒนารูปแบบการอยู่อาศัยที่เน้นเรื่องของการเติมเต็มความสัมพันธ์ของครอบครัวกับแนวคิด Intergenerational Living ไปจนถึงความคุ้มค่ากับราคาที่ทางโครงการเลือกจะนำเสนอ
ซึ่งโครงการที่ผมจะขอหยิบยกมาพูดถึงในบทความ Unit Recommended ในครั้งนี้ นั่นก็คือโครงการ MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC
MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC คือหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ที่ตัวผมเองมีความชื่นชอบและประทับใจมากๆ ตั้งแต่สมัยที่โครงการนี้เริ่มเปิดตัวโครงการ … อารมณ์แบบว่าเฝ้ารออยากให้โครงการนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จเร็วๆ อยากเห็นตอนที่โครงการนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จออกมาว่าจะสวยงามและดีมากแค่ไหน [ผมเชื่อว่าชาว INSO Class ที่เคยมีโอกาสไปชมโครงการนี้พร้อมกับผม น่าจะสัมผัสได้ว่าผมมีความประทับใจโครงการนี้เป็นทุนเดิมมากแค่ไหนเนอะ 555 ]
โดยปัจจุบันทางโครงการมียอดจองที่มากกว่า 50% [ ซึ่งถือว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆจาก Real Demand ในกลุ่ม Segment นี้ ]ในส่วนของความคืบหน้างานก่อสร้างของโครงการนี้ ตัวโครงการก็มีความคืบหน้างานก่อสร้างไปได้ประมาณ 30% [ งานก่อสร้างสามารถขึ้นงานก่อสร้างได้ถึงประมาณชั้น 10 ] ซึ่งโครงการนี้คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2024 ที่จะถึงนี้แล้วนะครับ
ในส่วนของ Concept การพัฒนาโครงการนี้ ทางโครงการเลือกจะนำเสนอรูปแบบของการอยู่อาศัยให้มีความเป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบของ The Super Luxury Intergeneration Residence โดยเน้นเรื่องของการออกแบบ Function Layout ของแต่ละ Unit Plan ภายใต้รูปแบบ Design For The Finest Intergeneration Living
เพื่อให้ทุกพื้นที่ภายในตัวห้องพัก กลายเป็นเหมือนบ้านที่ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขที่สุด มีทั้งพื้นที่ให้สำหรับทุกคนในบ้านได้ใช้เวลาร่วมกัน พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวให้แต่ละคน เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทุก Generation และยังคงความความเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury บนทำเลสุขุมวิทได้อย่างแท้จริง
ซึ่งก่อนที่ผมจะเริ่มทำการวิเคราะห์ในส่วนของ Unit Plan ต่างๆของโครงการนี้ สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจกันก่อน นั่นก็คือส่วนของการออกแบบ Floor Plan ของโครงการนี้ ทางโครงการมีการแบ่งรูปแบบการอยู่อาศัยและจัดวาง Unit Plan ในแต่ละ Floor Plan ที่มีความแตกต่างกันซึ่งเราจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ในส่วนแรกจะเริ่มต้นที่ชั้น 7 – 30 โดยในแต่ละชั้นจะมีจำนวนยูนิตในแต่ละชั้นอยู่ที่เพียง 11-12 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น [ซึ่งถือว่าได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากๆ] และในส่วนของ Floor Plan ที่อยู่ในช่วงชั้นดังกล่าวจะเป็นส่วนของ Unit Plan ที่เป็น 1 Bedroom [ขนาดพื้นที่ 47 – 56.50 sq.m.] และ 2 Bedroom [ขนาดพื้นที่ 87 – 114 sq.m.]
โดยถ้าเราสังเกตในรายละเอียดการออกแบบ Floor Plan เพิ่มเติมจะเห็นได้ว่าตำแหน่งการวางในส่วนของคอลิฟท์จะมีการออกแบบให้รองรับการใช้งานในรูปแบบเฉพาะโซน โดยแบ่งเป็นโซนเหนือและโซนใต้ของแต่ละชั้น
ดังนั้นความรู้สึกในความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยในแต่ละชั้นก็จะเหมือนว่ามีจำนวนยูนิตต่อชั้นที่น้อยลงไปอีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นอะไรที่ทางโครงการมีการคิดและออกแบบมาได้ดีมากๆและเข้าใจเรื่องของความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยแบบสุดๆครับ
ส่วนของ Floor Plan ช่วงที่ 2 จะเป็น Floor Plan ที่จะอยู่เหนือจากส่วนของชั้นที่เป็นพื้นที่ Sky Facilities ของตัวโครงการ ซึ่งรูปแบบการจัดวางจะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นที่น้อยลงไปอีกเรียกได้ว่า Exclusive มากๆครับ [จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดเพียง 3 ยูนิตเท่านั้น]
โดยในช่วงชั้นดังกล่าวจะมีรูปแบบของ Unit Plan ที่เริ่มต้นเป็น 2 Bedroom [ขนาดพื้นที่ 122.50 – 135.50 sq.m.] และ 3 Bedroom [ขนาดพื้นที่ 162 sq.m.] Penthouse [ขนาดพื้นที่ 180 sq.m. – 241.5 sq.m.] ซึ่งมีหลาย Unit Plan ที่มีการออกแบบ Function Layout ออกมาได้อย่างน่าสนใจมากๆและยังไม่ค่อยมีใครได้พูดถึงนะครับ
Unit Plan : Universal Design , Fully Fitted , Floor To Ceiling 3 m.
1 Bedroom : ขนาดพื้นที่ 47 sq.m. – 56.5 sq.m.
สำหรับ Unit Plan ในรูปแบบของ 1 Bedroom ของโครงการนี้จะมีด้วยกัน 2 ขนาดของพื้นที่ นั่นก็คือ 1 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 47 Sq.m. และ 56.5 Sq.m. ซึ่งหากเราวิเคราะห์ในส่วนของรูปแบบการออกแบบ Function Layout จะเห็นว่านอกจากเรื่องของขนาดพื้นที่ที่มีความแตกต่างแล้วในรายละเอียดส่วนของพื้นที่ Function การใช้งานในบางพื้นที่ก็มีความแตกต่างกันอยู่นะครับ
1 Bedroom : ขนาดพื้นที่ 47.00 sq.m.
Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 47 Sq.m. จะเป็น Unit Plan ที่มีขนาดพื้นที่เริ่มต้นของโครงการนี้
Kitchen
– เมื่อเราเปิดเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen ที่มีการกั้นฉากด้วยเฟรมกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ซึ่งทางโครงการเลือกจะออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้ให้มีขนาดของพื้นที่ไม่ใหญ่มากนักเพื่อให้ความสำคัญกับพื้นที่ Function หลักอย่างพื้นที่ Function : Dining + Living ด้านในให้เกิดความอิมแพคของพื้นที่ให้ได้มากที่สุดนั่นเองครับ
Living + Dining
– ส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining แม้เมื่อเราดูจากภาพ Unit Plan ประกอบอาจมองว่าเป็นรูปแบบตอนลึกและอาจจะทำให้มองว่าพื้นที่ในส่วนนี้อาจจะดูว่าแคบไปรึเปล่า แต่ในความเป็นจริงแล้วความกว้างของพื้นที่ในส่วนนี้จะมีความกว้างเกือบ 3 เมตรเลยนะครับ [หลายๆโครงการในปัจจุบันที่พยายามคุมขนาดของพื้นที่ทำให้ความกว้างบริเวณพื้นที่ส่วนนี้น้อยลง โครงการอื่นๆอาจได้ประมาณ 2.4 – 2.6 เมตร] ดังนั้นเวลาที่เราอยู่อาศัยจริงก็น่าจะรู้สึกได้ว่าพื้นที่ในส่วนนี้ดูมีความกว้างและโปรงโล่งมากๆ
Bedroom
– ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom จะเป็นตำแหน่งที่ถูกออกแบบให้อยู่บริเวณด้านในสุดของตัวห้อง โดยมีการกันส่วนของพื้นที่ในส่วนนี้กับส่วนของพื้นที่ Function อื่นๆ ด้วยผนังทึบเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ในส่วนของความกว้างของพื้นที่ทำออกมาได้ดีเลยครับมีสัดส่วนใกล้เคียงกับความกว้างของพื้นที่ Function : Dining + Living ด้านนอก นอกจากจะสามารถจัดวางในส่วนของเตียงนอนแบบ King Size ได้แบบสบายๆแล้วความกว้างระดับนี้ยังสามารถทำให้เรามีพื้นที่ทางเดินในส่วนบริเวณปลายเตียงอีกด้วยนั่นเองครับ [การออกแบบเรื่องของ Universal Design เรื่องของทางเดินเข้าออกถือว่าสำคัญมากๆครับ]
Bathroom
– พื้นที่ในส่วนของ Function : Bathroom จะถูกจัดวางไว้ภายในพื้นที่ส่วนของ Function : Bedroom โดยภายในจะเป็นรูปแบบ 4 Fixtuers ที่มีการแยกส่วนของพื้นที่ในแต่ละ Function ภายในกันอย่างชัดเจน
1 Bedroom : ขนาดพื้นที่ 56.50 sq.m.
Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 56.50 Sq.m. จะเป็น Unit Plan ที่ทางโครงการเลือกทำเป็นห้องตัวอย่างให้เราได้ชมกันที่สำนักงานขายนะครับ ดังนั้นในส่วนของการวิเคราะห์ผมจะมีภาพประกอบให้ชมในทุกๆรายละเอียด Function พื้นที่เลยนะครับ
Kitchen
เมื่อเปิดเข้ามาภายในห้องเราจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen ที่ถูกจัดวางไว้ด้านข้าง โดยพื้นที่ในส่วนนี้นอกจากจะเป็น Function แบบครัวปิดและเรื่องของขนาดพื้นที่ถือว่าทำออกมาได้จริงจังและเป็นสัดส่วนมากๆ โดยส่วนของเคาน์เตอร์ครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งส่วนของตู้เย็นและตู้อบไมโครเวฟทางโครงการจะทำการ Build In มาให้ตามแบบห้องตัวอย่างเป็นมาตราฐานเลยนะครับ
ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นสายทำครัวแบบจริงจังก็น่าจะชอบกับการออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้แน่นอนครับ
ในส่วนของผนังที่กันพื้นที่ระหว่างพื้นที่ Function : Kitchen กับส่วนของพื้นที่ Function อื่นๆด้านใน ทางโครงการเลือกจะใช้เป็นเฟรมกระจกขนาดใหญ่ แทนจะใช้เป็นผนังกั้นฉากทึบเพื่อเป็นการช่วยในเรื่องของแสงสว่างและความโปร่งโล่งให้กับพื้นที่ภายใน Function : Kitchen นี้นั่นเองครับ
Living + Dining + Multi-Purpose
ถัดเข้ามาด้านในจากส่วนของพื้นที่ Function : Dining + Living + Multi-Purpose ที่ทางโครงการออกแบบพื้นที่ในส่วน Function เหล่านี้ให้เชื่อมต่อกันและได้ความอิมแพคของพื้นที่แบบสุดๆ แถมความกว้างของพื้นที่ในส่วนนี้ยังมีความกว้างที่มากกว่า 3 เมตรจากขนาดของพื้นที่โดยรวมที่ขนาดพื้นที่ที่มากกว่า Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 47 Sq.m.นั่นเองครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Multi-Purpose ทางโครงการเลือกจะแต่งห้องตัวอย่างให้ที่พื้นที่ ในส่วนนี้ให้เป็นมุมโต๊ะทำงานก็ดูลงตัวอยู่นะครับ แต่หากใครที่อยากได้พื้นที่ในส่วนนี้เป็นพื้นที่ระเบียงไว้สำหรับใช้เป็นพื้นที่ซักล้างก็สามารถทำได้เหมือนกันนะครับ เพราะทางโครงการมีการจัดเตรียมในส่วนของท่อสำหรับต่อก๊อกน้ำและท่อระบายน้ำไว้รองรับการใช้งานของพื้นที่ Function นี้มาให้เช่นกันครับ
Bedroom
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom ของ Unit Plan นี้ จริงๆแล้วแม้จะมีขนาดพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ Function : Bedroom ของ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 47 Sq.m. ก็ตาม โดยในส่วนของขนาดพื้นที่มีความกว้างและลงตัวมากๆอยู่แล้ว สังเกตุได้จากขนาดพื้นที่บริเวณปลายเตียงที่มีพื้นทางเดินที่เหลือกว้างมากๆครับ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาสำหรับ Unit Plan นี้คือส่วนของพื้นที่ Function : Walk In Closet จะมีขนาดพื้นที่ที่มีความกว้างและดูลงตัวที่มากขึ้นนั่นเองครับ
Bathroom
ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom ด้วยขนาดของพื้นที่ที่มีมากขึ้นและมีความสมมาตร ดังนั้นการจัดวาง Function ต่างๆภายในก็ดูมีความลงตัวมากขึ้น และมาเป็นรูปแบบ Function 4 Fixtures เช่นเดียวกัน
บทสรุปเพิ่มเติม … ในส่วนความน่าสนใจและความแตกต่างของ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 47 sq.m. กับ 56.5 sq.m. ทั้ง 2 แบบนี้
– แน่นอนว่าความแตกต่างของพื้นที่มีผลต่อราคาของแต่ละยูนิต ซึ่งความต่างของราคาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สูงอยู่พอสมควร ดังนั้นหากใครที่มีงบประมาณที่จำกัดก็อาจเลือกเป็น 1 Bedroom : ขนาดพื้นที่ 47 sq.m.
อันนี้ก็เข้าใจได้ครับ … แต่ก็อาจจะต้องเสียจุดเด่นในเรื่องของ Function : Kitchen และ ความกว้างของพื้นที่ Function : Dining + Living + Multi-Purpose ไปนะครับ ซึ่งผมมองว่าหากเทียบ Unit Plan 1 Bedroom : ขนาดพื้นที่ 47 sq.m.นี้ กับโครงการอื่นๆใน Segment เดียวกันก็ยังคงน่าสนใจและตอบโจทย์การอยู่อาศัยในระดับ Segment นี้ได้ลงตัวอยู่นะครับ
– แต่หากมองว่า Real Demand ที่มีกำลังซื้อในที่อยู่อาศัยในระดับ Segment นี้ได้ ผมกับมองว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะเลือกซื้อ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 56.5 sq.m. นี้มากกว่านะครับ
เพราะผมมองว่าเป็น Unit Plan ที่มีความน่าสนใจในการออกแบบส่วนของพื้นที่ Function หลักๆอย่างพื้นที่ Function : Dining + Living + Multi-Purpose ให้ออกมามีความกว้างและอิมแพคพื้นที่มากๆซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่มีความแกรนด์ได้มากกว่านั่นเองครับ
และที่สำคัญสำหรับใครที่มองในเรื่องของ Value ในอนาคตประกอบการตัดสินใจ ยังไงผมก็แนะนำให้ต้องเลือก Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 56.5 sq.m.ไปเลยดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่านะครับ
2 Bedroom : ขนาดพื้นที่ 87 sq.m. – 135 sq.m.
สำหรับ Unit Plan : 2 Bedroom ของโครงการนี้จะเน้นการออกแบบพื้นที่ Function Layout โดยให้ความสำคัญกับเรื่องของ Space จากการเลือกจะออกแบบ Layout ให้เป็นห้องหน้ากว้างและให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่เป็น Family Time อย่างพื้นที่ Function : Living + Dining เป็นพิเศษ เพื่อให้ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยร่วมกันของทุก Generation นั่นเองครับ
โดยในส่วนของการวิเคราะห์ Function Layout ของ Unit Plan : 2 Bedroom ผมขอคัดมาทำการวิเคราะห์ให้ทั้งหมด 2 แบบ คือ Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 87.00 ตร.ม. และ 114 Sq.m. นะครับ
2 Bedroom : ขนาดพื้นที่ 87 sq.m.
Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 87 Sq.m. จะเป็น Unit Plan ที่มีขนาดพื้นที่เริ่มต้นของ 2 Bedroom ซึ่งหากเทียบกับโครงการอื่นๆที่เปิดขายในปัจจุบันบททำเลใกล้เคียงก็ยังถือว่าเป็น Unit Plan ที่มีขนาดพื้นที่ที่ใหญ่กว่าอยู่พอสมควร
Kitchen
– เมื่อเราเปิดเข้ามาภายในห้องเราจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen อยู่บริเวณด้านข้างโดยมีการออกแบบรูปทรงพื้นที่เป็นรูปตัว C เข้ามุมและมีการกั้นฉากด้วยเฟรมกระจกใสบานเลื่อนแบบเต็มความสูงของตัวห้องแบบ 3 ตอน
แถมในส่วนของผนังที่กั้นพื้นที่ Function นี้จากส่วนของพื้นที่ Function อื่นๆ ทางโครงการยังใช้เป็นเฟรมกระจกบานใหญ่ เพื่อช่วยเรื่องบรรยากาศภายในห้องให้มีของความโปรงโล่งและยังรวมไปถึงเรื่องความปลอดภัย ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน คนในครอบครัวที่อยู่บริเวณพื้นที่อื่นก็สามารถมองเห็นได้ตลอด ถือว่าทางโครงการคิดมารอบครอบมากๆครับสำหรับการออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้
Living + Dining
– ส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นนะครับ ว่าทางโครงการให้ความสำคัญกับการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ในส่วนของ Function ที่ตอบโจทย์การใช้พื้นที่เป็น Family Time เป็นพิเศษ ดังนั้นพื้นที่ในส่วนของ Function : Living + Dining นี้นอกจากจะได้ความกว้างของพื้นที่ที่มากแล้วยังได้เรื่องของ First Impression ที่มีความอิมแพคและแกรนด์มากๆด้วยเช่นกัน
Powder Room
-ส่วนของพื้นที่ Function : Powder Room ทางโครงการก็ยังมีการจัดสรรพื้นที่ส่วนของ Function นี้ไว้รองรับเพิ่มเติมเข้ามาให้ด้วยนะครับ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในกรณีที่เรามีแขกที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนภายในห้องและยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ที่เป็น Private Zone ของห้องอย่างพื้นที่ Function : Bedroom ทั้ง 2 ห้องอีกด้วยนั่นเองครับ
Bedroom
– ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom [ห้องนอนเล็ก] ในส่วนของขนาดพื้นที่มีความกว้างใกล้เคียงกับส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom แต่ด้วยขนาดของพื้นที่รวมที่จะมีขนาดที่เล็กกว่าดั้งนั้นส่วนของตำแหน่งการวางตู้เสื้อผ้าเราจะไม่ได้อารมณ์การเป็น Function : Walk In Closet และพื้นที่ในส่วนของ Function : Private Bathroom ด้านในก็จะได้เป็นแบบ 3 Fixtures เท่านั้นนะครับ
Bathroom
– พื้นที่ในส่วนของ Function : Master Bedroom ด้วยขนาดของพื้นที่ที่มีมากกว่าดังนั้นในส่วนของการออกแบบ Function ภายในก็จะได้ส่วนของพื้นที่ Function : Walk In Closet เพิ่มเติมเข้ามาเป็นแบบเข้ามุมและมีฉากกั้นพื้นที่เพื่อความเป็นสัดส่วน และส่วนของ Function : Private Bathroom ด้านในก็จะกลับมาเป็นรูปแบบ 4 Fixtures ที่มีการเพิ่มเติมส่วนของอ่างอาบน้ำกลับเข้ามาพร้อมกับเพิ่มเติมในส่วนของอ่างล้างหน้าให้เป็นรูปแบบของ His & Her เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานพื้นที่ Function นี้ของคนที่เป็นคู่รักนั่นเองครับ
2 Bedroom : ขนาดพื้นที่ 114 sq.m.
Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 114 Sq.m. สำหรับ Unit Plan นี้ที่ทางโครงการเลือกจะหยิบยกมาทำเป็นห้องตัวอย่างให้เราได้ชมกัน ซึ่งส่วนหนึ่งที่เป็นเช่นนั้นผมมองว่าสำหรับ Unit Plan นี้ในส่วนของการออกแบบมีความลงตัวมากๆและสามารถสะท้อน Concept การออกแบบเพื่อให้ตอบโจทย์ความเป็น Design For The Finest Intergeneration Living ได้ชัดเจนแบบสุดๆ
Kitchen
– เมื่อเราเปิดเข้ามาภายในห้องเราจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen อยู่บริเวณด้านข้างโดยมีการออกแบบรูปทรงพื้นที่เป็นรูปตัว C เข้ามุมและมีการกั้นฉากด้วยเฟรมกระจกใสบานเลื่อนแบบเต็มความสูงของตัวห้องแบบ 3 ตอน
แถมในส่วนของผนังที่กั้นพื้นที่ Function นี้จากส่วนของพื้นที่ Function อื่นๆ ทางโครงการยังใช้เป็นเฟรมกระจกบานใหญ่ เพื่อช่วยเรื่องของความโปรงโล่งและยังรวมไปถึงเรื่องของความปลอดภัยยกตัวอย่างกรณ์ที่เกิดเหตุไม่คาดฝันคนในครอบครัวที่อยู่บริเวณพื้นที่อื่นก็สามารถมองเห็นได้ตลอดถือว่าทางโครงการคิดมารอบครอบมากๆครับสำหรับการออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้
Living + Dining
สำหรับส่วนของพื้นที่ที่ถือว่า Function ไฮไลท์ของ Unit Plan นี้ก็คงหนีไม่พื้นที่ในส่วนของ Function : Living + Dining + พื้นที่ Multi-Purpose ที่เราจะได้ความอิมแพคจากขนาดของพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันแล้วยังได้ความกว้างของพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ที่มีความกว้างมากกว่า 7 เมตร [ประมาณ 7.5 เมตร] บวกกับการที่ทางโครงการออกแบบเฟรมกระจกมาแบบ Full Height บานใหญ่ ทำให้ภาพรวมในการอยู่อาศัยในพื้นที่ Function เหล่านี้น่าจะออกมาตอบโจทย์ได้ทั้งความหรูหราและความแกรนด์แบบสุดๆเลยครับ
โดยหากเราแยกย่อยวิเคราะห์ในส่วนของพื้นที่ Function ต่างๆ ตำแหน่งการวางพื้นที่ Function : Dining จะถูกจัดวางไว้ตำแหน่งตรงกลางของพื้นที่ในส่วนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่เด่นที่สุดของพื้นที่ Function นี้เลย ดังนั้นผู้ที่อยู่อาศัยอาจต้องให้ความสำคัญกับการเลือกโต๊ะทานข้าวและโคมไฟสวยๆมาตกแต่งก็จะเป็นการช่วยเพิ่ม Mood & Tone ของห้องให้ออกมาดูหรูหราได้จากตำแหน่งนี้เลยครับ
เพิ่มเติม … ผมเชื่อว่าคงมีใครหลายคนที่อยู่อาศัยแบบครอบครัวและมีความฝันอยากมีโต๊ะทานข้าวสวยๆอยู่ภายในห้องของตัวเอง แต่ก็มักจะติดเรื่องของขนาดพื้นที่ในการจัดวางไม่เพียงพอ ดังนั้นสำหรับ Unit Plan นี้หายห่วงได้เลยครับเพราะเราจะสามารถจัดวางโต๊ะทานข้าวสวยๆที่รองรับได้ตั้งแต่ 6 – 8 ที่นั่งได้แบบสบายๆเลยครับ
ตำแหน่งการวางส่วนของ Function : Living หากดูจากการตกแต่งห้องตัวอย่างอาจมองดูแล้วขนาดพื้นที่ในส่วนของ Function นี้อาจดูไม่กว้างมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทางโครงการมีการแบ่งสัดส่วนในการตกแต่งไปให้กับพื้นที่ในส่วนของ Function : Dining ไปพอสมควร
แต่หากเวลาที่เราอยู่อาศัยจริงก็อาจจะขยับปรับเปลี่ยนสัดส่วนของพื้นที่ในส่วนนี้ให้กว้างขึ้นได้นะครับ … ความกว้างและ Space ที่มีความอิมแพคของพื้นที่ในส่วนนี้ที่มากกว่าดังนั้นหากจะปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับรูปแบบการอยู่อาศัยของเราก็ไม่ใช่เรื่องยากนะครับ
Multi-Purpose
ส่วนของพื้นที่ Function : พื้นที่ Multi-Purpose ของห้องตัวอย่างทางโครงการมีการตกแต่งให้เป็นมุมทำงาน Work From Home หรือมุมสำหรับเรียนออนไลน์ของบุตรหลาน โดยมีการใช้เฟรมกระจกบานพับแบบประกบเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ อารมณ์แบบหากใครที่มีบุตรหลานและอยากให้ครูมาสอนพิเศษที่บ้านก็สามารถใช้พื้นที่ในส่วนนี้ได้แถมก็ยังอยุ่ในสายตาของพ่อแม่ผู้ปกครองได้อีกด้วยนะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom ทั้ง 2 ห้องของ Unit Plan นี้ทางโครงการเลือกจะออกแบบพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ออกมาเป็นรูปแบบของ Function : Master Bedroom ทั้งคู่
ดังนั้นในส่วนของทั้งขนาดของพื้นที่โดยรวมก็จะมีความใกล้เคียงกัน และ Function การใช้งานก็มีครบ Function : Bedroom + Walk In Closet + Private Bathroom [4 Fixtures] ไม่แตกต่างกันเลยนะครับ … ซึ่งการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ Function แบบนี้จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยในระยะยาวได้ลงตัวมากๆครับ
เพิ่มเติม … ในส่วนของความแตกต่างของพื้นที่ Function ที่เราอาจยกให้เป็นพื้นที่ Function : Master Bedroom ของ Unit Plan นี้ ส่วนของพื้นที่ Function : Walk In Closet และ Private Bathroom จะมีขนาดพื้นที่ที่กว้างมากกว่านิดหน่อยนะครับแต่ก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง
โดยเฉพาะกับส่วนของพื้นที่ Function : Private Bathroom ที่ภายในจะมีการกั้นฉากพื้นที่ Function ต่างๆได้อย่างชัดเจนและลงตัวมากกว่า พร้อมกับได้อ่างล้างหน้ามาเป็นแบบ His & Her ด้วยนั่นเองครับ
3 Bedroom : ขนาดพื้นที่ 162 sq.m.
สำหรับ Unit Plan : 3 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 162 Sq.m. จริงๆแล้วทั้งโครงการนี้จะมี Unit Plan Type นี้เพียง 2 ยูนิตเท่านั้น ดังนั้นหลายคนก็อาจจะไม่รู้ว่าโครงการนี้มี Unit Plan ดีๆแบบนี้อยู่ด้วย และไหนๆผมก็จะตั้งใจวิเคราะห์ Unit Plan ของโครงการนี้ในแบบครบๆแล้วก็จัดไปครับ เผื่อไว้สำหรับใครที่อาจจะมองเป็นเนื้อหาไว้เปรียบเทียบกับห้อง Combine ของทางโครงการนะครับ
Kitchen
– เมื่อเราเปิดเข้ามาภายในห้องสำหรับ Unit Plan นี้เราจะเจอกับพื้นที่ Function พื้นที่ที่เป็น Foyer ก่อนจะเข้าถึงพื้นที่ Function หลักต่างๆของตัวห้อง โดยพื้นที่ในส่วนนี้จะมีทางเดินแยกส่วนไปพื้นที่อื่นๆภายใน โดยด้านหนึ่งจะพาเราเดินไปสู่พื้นที่ Function : ห้องอเนกประสงค์หรือห้องแม่บ้าน และทะลุต่อไปถึงพื้นที่ Function : Kitchen ในรูปแบบของครัวไทยที่เน้นปรุงอาหารหนักๆ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเข้าไปสู่พื้นที่ Function หลักของตัวห้อง
Living + Dining
– เมื่อเราเปิดเขามาสู่พื้นที่ Function หลักของตัวห้อง First Impression ที่เราจะพบก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining ซึ่งสำหรับ Unit Plan นี้จะมีการตัดส่วนของพื้นที่ Function : พื้นที่ Multi-Purpose ที่เราเห้นจากห้องตัวอย่างออกไปนะครับ ดังนั้นสิ่งที่เราจะได้กลับมาแทนคือความโปรงโล่งและความกว้างของพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ที่มากกว่าแบบมากๆ
Bedroom
– ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom ที่เพิ่มเข้ามาด้วยความที่ทางโครงการเลือกจะออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้ให้มีช่องแสงดังนั้นภายในจะไม่มีส่วนของพื้นที่ Function : Private Bathroom ในตัวนะครับ ผู้ที่อยู่อาศัยก็จะต้องออกมาใช้พื้นที่ Function : Bathroom ด้านนอกแทนนะครับ … หากใครที่ต้องการพื้นที่สำหรับปรับเป็นห้องทำงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆก็สามารถปรับพื้นที่ในส่วนของ Function นี้มาตอบรับการใช้งานได้ลงตัวเลยครับ
– ส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom ทั้ง 2 ห้อง ในเรื่องของรูปแบบ Function ภายในก็ยังได้มาแบบครบๆทั้ง 2 ห้อง แต่ก็อาจจะมีความแตกต่างกันบ้างโดยตำแหน่งห้องทางขวามือจากภาพ Unit Plan ด้านบน เราจะเห็นได้ว่าพื้นที่มีความกว้างที่มากกว่าหน่อยๆนะครับ และ Function : Private Bathroom มีความลงตัวของพื้นที่ที่มากกว่าพร้อมการมีอ่างล้างหน้าเป็นรูปแบบ His & Her
Penthouse : ขนาดพื้นที่ 180 sq.m. – 241.5 sq.m. , Duplex Penthouse : ขนาดพื้นที่ 216.5 sq.m.
ในส่วนของ Unit Plan สไตล์ Penthouse ของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน โดยในส่วนของการออกแบบพื้นที่ Function ต่างๆภายใน ทางโครงการก็ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของ The Finest Intergeneration Living กับการออกแบบที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในแบบของครอบครัวและรองรับการอยู่อาศัยในทุกๆ Generation
ดังนั้นทางโครงการจึงยังคงเลือกจะออกแบบ Unit Plan กลุ่มนี้โดยให้ความสำคัญกับส่วนของขนาดพื้นที่ Function : Living + Dining เป็นหลัก ซึ่งนอกเหนือจากพื้นที่ในส่วนของ Function นี้จะได้เรื่องความอิมแพคแล้ว เรื่องของรูปทรงและขนาดความกว้างก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะส่งผลต่อความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่โปร่งโล่งมากๆนั่นเองครับ
ในส่วนของรายละเอียดการวิเคราะห์ Unit Plan : Penthouse ขนาดพื้นที่ 180 sq.m. – 241.5 sq.m. และ Duplex Penthouse ขนาดพื้นที่ 216.5 sq.m. ผมจะยังไม่ขอวิเคราะห์แบบลงรายละเอียดนะครับ แต่ของเป็นการนำภาพ Unit Plan มาลงให้ได้ชมกันพอนะครับ
เพราะผมมองว่าด้วยขนาดของพื้นที่และพื้นฐานโครงสร้างการออกแบบของตัวโครงการที่เน้นผลักดันการออกแบบ Layout ของห้องให้ออกมาเป็นห้องในรูปแบบหน้ากว้าง ดังนั้นในเชิงของ Function Layout ของ Unit Plan เหล่านี้ ยังไงเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จออกมาตอนนั้นเมื่อเราเข้าไปดูห้องจริงยังไงก็สวยอลังการแบบสุดๆแน่นอนการที่ผมจะวิเคราะห์จากภาพ Unit Plan อาจถ่ายทอดความดีงามได้ไม่ดีเท่าคุณค่าของตัวห้องเหล่านี้นั่นเองครับ [เข้าใจอารมณ์ผมเนอะครับ … อิอิ]
ในส่วนของการวิเคราะห์ Function Layout ของ Unit Plan ของโครงการนี้ก็จะประมาณนี้นะครับ โดยผมขอสารภาพตามตรงว่าจริงๆแล้วผมยังวิเคราะห์ Unit Plan ไม่ครบทุกแปลนนะครับ ซึ่งอาจจะมีข้ามบาง Unit Plan บาง Layout ไปบ้างกับ Unit Plan ที่ไม่ค่อยมีความแตกต่างจากที่เลือกมาวิเคราะห์
เพื่อให้เนื้อหาในบทความนี้มีความกระชับและไม่ให้ทุกคนรู้สึกสับสนหรือซ้ำซ้อนเกินไปนั้นเองครับ แต่หากใครมี Unit Plan อื่นๆของโครงการนี้อยากให้ผมวิเคราะห์เพิ่มเติมก็สามารถส่งมาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกับผมได้ทาง Inbox เหมือนเช่นเคยนะครับ
ในส่วนของตำแหน่ง Unit Recommended ของโครงการนี้ … ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าด้วยความที่ผมเองก็มองว่า Unit Plan ที่เป็นห้องตัวอย่างของโครงการนี้ทั้ง 2 แบบ มีความลงตัวทั้งเรื่องของการออกแบบ Function Layout อยู่แล้วและน่า Unit Plan ที่จะตอบโจทย์ตรงกลุ่มเป็นหมาย Real Demand ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในระดับ Segment นี้บนทำเลอย่างสุขุมวิท
ดังนั้น Unit Recommended : MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC ของโครงการนี้ผมจะขอเลือกตำแหน่งให้กับ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 56.50 Sq.m. และ 2 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 114 Sq.m. ก็แล้วกันนะครับ
Option A – Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 56.50 Sq.m.
สำหรับ Unit Plan นี้โดยส่วนตัวแล้วผมจะชื่นชอบตำแหน่งห้องที่หันมองออกไปทางทิศเหนือของโครงการ เพราะวิวที่ได้จะเป็นวิวของที่อยู่อาศัยแนวราบฝั่งของเอกมัย ซึ่งดูร่มรื่นจากต้นไม้สีเขียวของที่อยู่อาศัยแนวราบและเงียบสงบไม่วุ่นวาย … ดังนั้นผมจะขอแนะนำเป็น ตำแหน่ง 02 ช่วงชั้นขอเป็นตั้งแต่ชั้น 15 – 29 [ไม่ต้องเน้นชั้นสูงมากนะครับเพราะอย่างลืมว่ายิ่งชั้นสูงราคาต่อตร.ม.ก็จะสูงตามไปด้วยนั่นเองครับ]
แต่หากใครที่อยากได้ Unit Plan นี้และอยากลุ้นมองเห็นวิวฝั่งพระราม 4 – บางกระเจ้า และอยากได้ความพิเศษในความเป็นตำแหน่งห้องมุมผนังฝั่งหนึ่งไม่ติดใคร ผมก็ขอแนะนำให้เลือกตำแหน่ง 04 ในช่วงชั้นสูงๆไปเลยนะครับ 25 – 29 น่าจะได้ลุ้นวิวสวยและหนีความวุ่นวายของถนนสุขุมวิทด้านหน้าโครงการได้พอสมควรนั่นเองครับ
Option B – Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดของพื้นที่ 114 Sq.m.
สำหรับ Unit Plan นี้ ผมเลือกให้คุณค่ากับการออกแบบ Function Layout ของ Unit Plan นี้เป็นหลัก และสำหรับ Unit Plan นี้ในแต่ละชั้นทางโครงการจัดวางมามีเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น คือ ตำแหน่ง 09 หันหน้าออกไปทางทิศใต้ฝั่งของพระราม 4 – บางกระเจ้า ดังนั้นในส่วนของตำแหน่งชั้นก็ต้องเน้นช่วงชั้นสูงๆไว้ก่อนแบบที่บอกไปนะครับ แนะนำให้เลือกตำแหน่งห้องนี้ในระดับชั้น 25 – 29 ก็แล้วกันนะครับ
ก็จะประมาณนี้นะครับสำหรับบทความ Unit Recommended : MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC ในครั้งนี้ ผมหวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นบทความที่ช่วยขยายเพิ่มเติมมุมมองและรายละเอียดในเชิงของการอออกแบบ Function Layout ของ Unit Plan ในโครงการนี้ได้ละเอียดมากขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ให้สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในระดับ Luxury บนทำเลยอดนิยมตลอดการอย่างสุขุมวิทได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
เพิ่มเติม …
ตอนนี้ทางโครงการ MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC กำลังมีแคมเปญพิเศษส่งท้ายปี … สิทธิพิเศษมีไปจนถึง 31 ธันวาคม 2565
สำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการนี้สามารถแวะเข้าไปชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายของโครงการกันได้นะครับ
สามารถโทรนัดหมายได้ที่ Call Center : 1265 หรือลงทะเบียนได้ที่ https://mqdc.link/3ASar0K
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม
