Project : Origin Plug&Play สายลวด สเตชั่น by Origin [ Pet Friendly ]

ปัจจุบันต้องยอมรับเลยว่ารูปแบบการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ๆของ Developer หลากหลายเจ้าต่างพยายามที่หาจุดเด่นและ Concept ในการพัฒนาโครงการที่แตกต่างและมีความน่าสนใจมานำเสนอเพื่อให้ตอบสนองรูปแบบการอยู่อาศัยและเรียกความสนใจจาก Real Demand ในแต่ละพื้นที่

ซึ่งหากให้ผมบอกว่า Developer เจ้าไหนที่มีแนวทางการพัฒนา Concept โครงการที่มีความต่อเนื่องและเห็นถึงความพยายามในการนำเสนอรูปแบบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่แตกต่างในราคาที่จับต้องได้กับกลุ่ม Real Demand วัยเริ่มต้นการทำงาน [First Jobber] หนึ่งในนั้นชื่อของ Origin จะเป็นชื่อ Developer เจ้าแรกๆที่ผมจะนึงถึงเสมอ

โดยเราจะเห็นได้จากในส่วนของ Concept การพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ Origin Plug & Play by Origin ที่นอกจากการทางโครงการจะเลือกออกแบบพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ให้มีพื้นที่การใช้งานในรูปแบบที่หลากหลายพร้อมงานตกแต่งที่มีความหรูหราทันสมัยแล้ว ทางโครงการยังมีการเพิ่มเติมในส่วนของ Concept ความเป็น Pet Friendly เข้ามาในส่วนของการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเพื่อรองรับการอยู่อาศัยร่วมกันของคุณและน้องๆสัตว์เลี้ยงที่คุณรักให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว

แถมในส่วนของรูปแบบการอยู่อาศัยอย่างการออกแบบ Function Layout ของตัว  Unit Plan ของโครงการก็ยังมีความน่าสนใจไม่แพ้การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเช่นกัน ด้วยการนำเสนอรูปแบบ Unit Plan ที่จะให้ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆด้วยการการอยู่อาศัยในสไตล์ Duo Space กับห้องเพดานสูง Floor To Ceiling 4.2 เมตร 

ซึ่งจาก Concept การพัฒนาที่น่าสนใจมากๆของตัวโครงการภายใต้แบรนด์ Origin Plug & Play by Origin ที่ผมได้กล่าวไปตอนต้น หลายคนท่านอ่านมาถึงตอนนี้ก็น่าจะมีคำถามตามมาว่า …

” ถ้า Concept การพัฒนาโครงการจะมาดีมาเต็มขนาดนี้แล้วทำไมทางโครงการยังสามารถทำราคาขายที่ไม่สูงมากนักได้ ? ”

ก็ต้องบอกเลยว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ Origin สามารถพัฒนาโครงการให้ออกมามี Concept ตัวโครงการที่น่าสนใจและนำเสนอความแตกต่างได้มากขนาดนี้บนพื้นฐานของราคาที่ต้องตอบโจทย์กำลังซื้อของ Real Demand คนรุ่นใหม่วัยทำงานเริ่มต้นบนทำเลนั้นๆได้นั่นก็คือเรื่องของมุมมองในการเลือกทำเลที่ดินในการพัฒนาโครงการนั่นเอง

โดยการเลือกที่จะขยับไปมองหาทำเลใหม่ๆในการพัฒนาโครงการอย่างทำเลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ แต่ก็ต้องเป็นทำเลที่จะต้องตอบโจทย์ทั้งเรื่องของการเดินทางที่เข้าเมืองที่สะดวก ใกล้สถานที่สำคัญ ใกล้แหล่งงาน และที่สำคัญที่สุดต้องเป็นทำเลที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยของ Real Demand ใหม่ๆบนทำเลนั้นๆ

ซึ่งจากส่วนผสมทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมาก็ดูจะเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆกับโครงการใหม่ล่าสุดจากทาง Origin ที่ผมจะนำมาพูดถึงในบทความนี้ นั่นก็คือโครงการ Origin Plug&Play สายลวด สเตชั่น by Origin โครงการที่จะมาต่อยอดความสำเร็จจากโครงการก่อนหน้านี้ที่เตรียมจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ในช่วงต้นปีหน้านี้แล้วอย่างโครงการ The Origin E22 Station by Origin 

โดยบทความนี้ผมจะขอนำเสนอรายละเอียดต่างๆที่น่าสนใจของโครงการ Origin Plug&Play สายลวด สเตชั่น by Origin และทำการพาชมพร้อมกับวิเคราะห์ในส่วนของการออกแบบ Function Layout ห้องตัวอย่างสไตล์ Duo Space ทั้ง 3 แบบของโครงการนี้ เพื่อให้บทความนี้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจสำหรับใครที่กำลังให้ความสนใจโครงการนี้หรือกำลังมองหาที่อยู่อาศัยบนทำเลนี้นั่นเองครับ

Project Information :

ทำเลที่ตั้งโครงการ : 

ขนาดที่ดิน : 3 – 3 – 46.4 ไร่

ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย High Rise 25 ชั้น 1 อาคาร + อาคารจอดรถ จำนวน 1 อาคาร

จำนวนยูนิต : 1,044 ยูนิต + 1 ร้านค้า

Floor Plan & Facilities Area : ด้วยความที่โครงการนี้มีการออกแบบและจัดวางพื้นที่ส่วนกลางให้กระจายพื้นที่ไปในหลากหลายพื้นที่ของตัวโครงการ ดังนั้นผมจะของกล่าวถึงพื้นที่ต่างๆไปพร้อมกับส่วนของ Floor Plan ไปเลยเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพรวมของการออกแบบพื้นที่ต่างๆนะครับ

ส่วนของพื้นที่ชั้น Ground Floor จะมีส่วนของพื้นที่ Function : Main Lobby ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัวอาคาร โดยภายในจะมีอการออกแบบให้เป็น Double Volume ที่จะได้ทั้งเรื่องของความแกรนด์และความโปร่งโล่งของพื้นที่ภายในส่วนนี้

และหากใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการรองรับแขกที่จะแวะมาเยี่ยมเยือนที่โครงการ ทางโครงการยังมีการเตรียมในส่วนของพื้นที่ Function : Private Lobby และ CO – Working Space ไว้รองรับการใช้งานพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวไว้ให้ด้วยนะครับ

และส่วนของพื้นที่ที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับการอยู่อาศัยและพฤติกรรมของที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน นั่นก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Delivery Drop Off ที่ทางโครงการก็มีการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ออกมาไว้รองรับด้วยเช่นกันนะครับ 

ส่วนของพื้นที่โดยรอบของตัวอาคารนอกจากทางโครงการจะตกแต่งให้เป็นพื้นที่สีเขียวหรือสวนแล้ว บริเวณพื้นที่ด้านหลังของอาคารจอดรถทางโครงการยังมีการออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้ให้เป็นพื้นที่ Function : Multi – Sport Court ไว้รองรับสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยให้ได้มาออกกำลังกาย หรือ ใช้เป็นมุมนั่งพักผ่อนสงบๆใต้ต้นไม้ใหญ่ช่วงยามเย็น

ส่วนของพื้นที่ชั้น 2 จะมีทั้งส่วนที่เป็นพื้นที่เป็นยูนิตพักอาศัยและส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง โดยพื้นที่ส่วนกลางที่ทางโครงการออกแบบให้อยู่บริเวณชั้น 2 จะประกอบไปด้วยส่วนของพื้นที่ Function : CO – Working Space , Metting Room 

โดยการออกแบบส่วนของพื้นที่ Function : Meeting Room ทางโครงการจะมีการแบ่งพื้นที่เป็น 2 ห้องย่อย เพื่อเพียงพอต่อการใช้งานพื้นที่และผู้ที่เข้ามาใช้งานจะสามารถได้ความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนในการใช้งานพื้นที่ในส่วนนี้นั่นเองครับ

ถัดเข้ามาบริเวณด้านหลังของตัวโครงการส่วนของ Rooftop ของอาคารจอดรถด้านหลัง ทางโครงการก็ยังออกแบบพื้นที่ส่วนนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการออกแบบให้เป็นเหมือนพื้นที่ลานกิจกรรมผสมผสานไปกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

โดยพื้นที่ในส่วนของ Rooftop Parking Garden ด้วยความที่มีขนาดพื้นที่ที่มีความอิมแพคมากๆ ดังนั้นทางโครงการจึงได้ทำการออกแบบให้พื้นที่ในส่วนนี้ให้สามารถรองรับกับกิจกรรมในรูปแบบที่แตกต่างกันไปของผู้ที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพื้นที่ Jogging Track , Work Out Space , Picnic Area , Recreation Space , Yoga Lawn และ Pet Park

ซึ่งถือว่าออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้ออกมาได้มีความสวยงามและตอบโจทย์ Function การใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้อย่างลงตัวมากๆครับ

ในส่วนของตำแหน่งห้องพักอาศัยของโครงการนี้ ด้วยความที่ทางโครงการจะมี Unit Plan ทั้งแบบที่เป็นสไตล์ Simplex และ Duo Space ซึ่งในส่วนของ Unit Plan สไตล์ Simplex ทางโครงการจะจัดวาง Unit Plan สไตล์นี้ไว้ในช่วงชั้น 3 – 10 นะครับ

ส่วนของ Unit Plan ที่เป็นสไตล์ Duo Space ที่เป็น Unit Plan ที่มี Floor To Ceiling สูง 4.2 เมตรที่เป็น Unit Plan ไฮไลท์ของโครงการนี้ทางโครงการจะออกแบบและจัดวางไว้ที่ระดับความสูง ชั้น 11 – 25 ครับ

โดยในส่วนของชั้น 25 นอกจากจะเป็นชั้นที่มียูนิตพักอาศัยและยังมีการจัดวางในส่วนของ Sky Facilities เข้ามาแทรกอยู่ที่บริเวณตำแหน่งทิศตะวันตกของตัวอาคารด้วย โดยพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นนี้จะประกอบไปด้วยส่วนของพื้นที่ Function : Sky Lounge , Sky Bar / Game Room , Sky Corridor และ Sky GYM

ส่วนของพื้นที่ Rooftop ของตัวอาคารพักอาศัย พื้นที่ในส่วนนี้ทางโครงการก็ยังมีการให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นทีโดยรวมในส่วนนี้ให้มีความอิมแพคด้วยเช่นกัน โดยแบ่งพื้นที่เป็น 4 สวนใหญ่ๆดังนี้ Swimming Pool , Rooftop Bar , Outdoor CO-Working Space และ Rest Area

หมายเหตุ : ผมชอบวิธีการออกแบบตำแหน่งการวางส่วนของพื้นที่ Swimming Pool ของโครงการนี้มากๆนะครับ นอกเหนือจากเรื่องของการเลือกตำแหน่งตัวสระว่ายน้ำให้หันไปทางทิศวิวที่สวยที่สุดของตัวโครงการแล้ว

บริเวณด้านล่างของพื้นที่ตัวสระว่ายน้ำยังเป็นตำแหน่งที่มีพื้นที่ส่วนของ Facilities อื่นๆมาขั้นกลางกับตำแหน่งชั้นพักอาศัยอีกด้วย ดังนั้นตัดปัญหาสำหรับใครที่กังวลเรืองการเลือกตำแหน่งห้องชั้นสูงแต่ก็ไม่อยากให้อยู่บริวณใต้สระว่ายน้ำได้ดีเลยนั่นเองครับ

ในส่วนของรายละเอียดการออกแบบ Floor Plan และ Facilities Area ของโครงการ Origin Plug&Play สายลวด สเตชั่น by Origin ก็จะประมาณนี้นะครับ ซึ่งเราจะเห็นได้ถึงความตั้งใจของทางโครงการที่พยายามจะออกแบบพื้นที่ในส่วนต่างๆของโครงการ ให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ทั้ง Lifestyle และรองรับสำหรับกิจกรรมต่างๆที่หลากหลายของผู้ที่อยู่อาศัยภายในโครงการนี้มากๆเลยนะครับ  

Unit Type : อย่างที่เราได้เห็นไปจากส่วนของ Floor Plan ของโครงการนี้ ทางโครงการมีการออกแบบ Function Layout ของยูนิตพักอาศัยออกมาเป็น Unit Plan 2 สไตล์ ทั้งที่เป็นแบบ Simplex [ Floor To Ceiling 2.4 เมตร ] และ Duo Space [ Floor To Ceiling 4.2 เมตร ]

โดยหากใครที่มีโอกาสได้แวะไปชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายของทางโครงการนี้จะได้ชมห้องตัวอย่างของทั้ง 2 รูปแบบเลยนะครับ แต่สำหรับบทความนี้ผมจะขอเลือกจะพาชมและวิเคราะห์ Function Layout ให้เฉพาะส่วนของ Unit Plan ที่เป็นสไตล์ Duo Space เท่านั้นพอนะครับ … เพราะผมมองว่าหลายคนที่ให้ความสนใจโครงการนี้ก็น่าจะโฟกัสให้ความสนใจกับการเลือก Unit Plan ในสไตล์ Duo Space กันเป็นหลักมากกว่าเนอะ

1 Bedroom Duo : Smart Living ขนาดพื้นที่ 22 – 24 ตร.ม.

เมื่อเราเปิดเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen ที่ทางโครงการมีการกั้นฉากพื้นที่ในส่วนนี้กับส่วนของพื้นที่ Function อื่นๆด้านในด้วยฉากกั้นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เพื่อให้เกิดความเป็นสัดส่วนและช่วยลดความกังวลในเรื่องของกลิ่นรบกวนเวลาที่เราประกอบอาหาร

โดยส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom ก็จะถูกจัดวางไว้ตำแหน่งตรงข้ามของพื้นที่ในส่วนนี้ โดยภายในทางโครงการจะจัดวางมาเป็น Function แบบ 3 Fixtures โดยแยกพื้นที่ Function กันชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการดูแลทำความสะอาด

หมายเหตุ : ส่วนของฉากกั้นอาบน้ำแบบในห้องตัวอย่าง ทางโครงการใส่เข้ามาเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นห้องจริงทางโครงการจะไม่ได้ให้ส่วนของฉากกั้นมานะครับ

เมื่อเราเดินเข้ามาด้านในตัวห้องจะเป็นส่วนของพื้นที่ Function : Living + มุมโต๊ะทำงาน ซึ่งบริเวณพื้นที่ Function ในส่วนนี้จะมีความสูง Floor To Ceiling ระดับ 4.2 เมตร โดยจากความสูงที่มากกว่าจะทำให้เวลาที่เราอยู่อาศัยจริงในพื้นที่บริเวณนี้จะได้ความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่แตกต่างและรู้สึกถึงความโปร่งโล่งที่มากกว่ามากๆ

ทางโครงการเลือกจะจัดวางในส่วนของ Function : มุมโต๊ะทำงาน ไว้ในตำแหน่งชิดกับเฟรมหน้าต่างขนาดใหญ่ของตัวห้อง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ลงตัวและตอบโจทย์การใช้เป็นงานพื้นที่นี้เป็นมุมนั่งทำงานอ่านหนังสือหรือทำการบ้าน หรือถ้าใครอยากปรับพื้นที่ในส่วนนี้ให้เป็นมุมเคาน์เตอร์สวยๆสำหรับรองรับการเป็น Function : Dining ก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีนะครับ

ส่วนของพื้นที่ด้านบนนอกจากจะเป็นพื้นที่สำหรับการรองรับการเป็น Function : Bedroom แล้ว ทางโครงการยังมีการ Built In ในส่วนของตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมตามแบบห้องตัวอย่างนี้เลยนะครับ เพื่อให้เป็น Function ที่ลงตัวกับพื้นที่ในส่วนนี้นั่นเองครับ

บทสรุปเพิ่มเติม … 1 Bedroom Duo : Smart Living ขนาดพื้นที่ 22 – 24 ตร.ม.

ผมมองว่าสำหรับใครที่ชื่นชอบ Unit Plan นี้ ในส่วนของพื้นที่ Function : Living ที่ได้ความสูง Floor to Ceiling ระดับ 4.2 เมตร น่าจะสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยคอนโดมิเนียมที่แตกต่างและยกระดับการอยู่อาศัยให้กับคุณได้มากๆเลยนะครับ หากใครที่เป็นคนโสดที่อยู่อาศัยคนเดียวผมมองว่า Unit Plan จะตอบโจทย์คุณมากที่สุดนะครับ

1 Bedroom Duo : Smart Closet ขนาดพื้นที่ 27 ตร.ม.

สำหรับ Unit Plan 1 Bedroom Duo : Smart Closet ขนาดพื้นที่ 27 ตร.ม. ด้วยการที่ Unit Plan นี้มีขนาดของพื้นที่เพิ่มมามากขึ้นแม้จะเพียง 3 ตร.ม. แต่ก็ส่งผลต่อความกว้างของตัวห้องให้ได้ความเป็นห้องหน้ากว้างมากขึ้น

จึงทำให้เมื่อเราเปิดเข้ามาภายในตัวห้องพื้นที่ในส่วนของ Function : Kitchen จึงมีขนาดพื้นที่ที่กว้างมากขึ้นและทางโครงการก็มีการ Built In ในส่วนของตู้เก็บของเก็บรองเท้าเพิ่มเติมเข้ามาให้ครับ

ซึ่งดูแล้วก็ช่วยทำให้พื้นที่ในส่วนนี้มีความลงตัวและน่าจะตอบโจทย์การใช้งานพื้นที่ได้ดีมากๆเลยนะครับ คือทางโครงการเค้าคิดมาให้เสร็จแบบครบๆเลยสำหรับพื้นที่ในส่วน Function นี้

ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom รูปแบบภายในจะเป็นแบบ 3 Fixtures ที่มีการแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งให้เช่นเดียวกัน แต่ด้วยขนาดของพื้นที่ที่มีความกว้างที่มากกว่า ดังนั้นการจัดเรียงเลยมีรูปแบบที่แตกต่างไปจากห้องตัวอย่างในแบบแรกนั่นเองครับ 

ถัดเข้ามาด้านในส่วนของพื้นที่ Function : Living + มุมโต๊ะทำงาน พื้นที่ในส่วนนี้ก็ยังมีการกั้นฉากกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen และ Bathroom ด้วยฉากกั้นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอนเช่นกัน

โดยในส่วนของพื้นที่ Function : Living + มุมโต๊ะทำงาน ของ Unit Plan นี้เราจะสัมผัสถึงความโปรงโล่งในการอยู่อาศัยที่มากขึ้นแบบมากๆเลยนะครับ เพราะนอกจากพื้นที่ในส่วนของ Function นี้จะได้ความสูง Floor To Ceiling ระดับ 4.2 เมตรแล้วนั้น ในส่วนของมิติความกว้างที่ได้มากขึ้นก็ยังช่วยขับให้พื้นที่ในส่วนนี้ดูมีความแกรนด์และโปร่งโล่งในการอยู่อาศัยแบบสุดๆอีกด้วยนั่นเองครับ

ในส่วนของพื้นที่ด้านบนของ Unit Plan นี้นอกจะเป็นตำแหน่งในการวางส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom แล้ว บริเวณพื้นที่ด้านข้าง ทางโครงการยังได้มีการ Built In ในส่วนของพื้นที่ Smart Closet ตามแบบห้องตัวอย่างมาให้ด้วย ซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์และถูกใจสำหรับสาวๆที่ต้องการใช้พื้น Function อย่างตู้เสื้อผ้ามากเป็นพิเศษนะครับ

บทสรุปเพิ่มเติม … 1 Bedroom Duo : Smart  Closet ขนาดพื้นที่ 2ึ7 ตร.ม.

ผมมองว่าสำหรับ Unit Plan นี้ จุดเด่นหลักๆเลยคือเรื่องของความอิมแพคของพื้นที่ในส่วนของ Function : Living ที่นอกจากจะได้ความสูง Floor to Ceiling ระดับ 4.2 เมตร แล้วพอได้ความกว้างของพื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้นก็ยิ่งขับเรื่องของความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่โปร่งโล่งได้มากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก … อารมณ์แบบอลังการแบบสุดๆจริงๆครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Smart Closet ก็ดูเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ Function ที่น่าจะถูกใจสำหรับ Real Demand หรือใครที่ต้องการ Unit Plan สไตล์นี้เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบเป็นคู่รัก เพราะสาวๆชอบแน่นอนครับเหลือดีกว่าขาดขอตู้เสื้อผ้าเยอะไว้ก่อนถูกใจแน่นอนครับ

1 Bedroom Plus Duo : Multi Purpose ขนาดพื้นที่ 34.5 ตร.ม.

สำหรับ Unit Plan นี้ก่อนอื่นก็ต้องบอกเกริ่นไว้ก่อนนะครับว่า … แม้ทางโครงกาจะออกแบบ Unit Plan นี้มาเป็นสไตล์ 1  Bedroom Plus ก็ตามที แต่ในมุมของการใช้งานเราก็สามารถปรับให้ Unit Plan นี้สามารถรองรับการอยู่อาศัยแบบ 2 ห้องนอนได้แบบสบายๆเลยนะครับ

โดยเมื่อเราเปิดเข้ามาภายในตัวห้องเราก็จะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Living ที่เป็นพื้นที่ที่ได้ความสูง Floor To Ceiling ระดับ 4.2 เมตร โดยการแบ่งสรรพื้นที่ในส่วนนี้อาจไม่กว้างมากนักถ้าเทียบกับ Unit Plan ห้องตัวอย่างทั้ง 2 ก่อนหน้านี้ เพราะต้องแบ่งพื้นที่ไปรองรับส่วนของพื้นที่ Function อื่นๆนั่นเองครับ 

ส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen จะอยู่ในตำแหน่งเข้ามุมและอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนของระเบียงด้านใน ตำแหน่งการวางพื้นที่ Function นี้ ผมมองว่าตำแหน่งนี้ดูลงตัวและตอบโจทย์การเข้าถึงและการใช้งานพื้นที่แบบสุดๆเลยครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom ตำแหน่งการวางถือว่าทางโครงการออกแบบมาได้ดีเลยครับ เพราะสามารถเข้าถึงได้สะดวกและรอบรับสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในทุกพื้นที่ Function ของตัวห้องเลยนั้นเองครับ ส่วนการจัดวาง Function การใช้งานภายในก็ยังคงมาเป็นรูปแบบของ 3 Fixtures ที่มีการแยกส่วนของพื้นที่เปียกแห้งเช่นเดียวกัน

ส่วนของพื้นที่ Function : ห้องอเนกประสงค์ ที่อยู่บริเวณด้านล่างที่มีการแบ่งพื้นที่มาจากส่วนของพื้นที่ Function : Living ดังนั้น … ใช่ครับพื้นที่ในส่วนนี้ก็จะได้ความสูง Floor to Ceiling 4.2 เมตรเช่นเดียวกัน 

ซึ่งหากใครที่ต้องการจัดวางพื้นที่ในส่วนนี้ให้รองรับสำหรับการเป็น Function : Bedroom แบบห้องตัวอย่างก็จะตอบโจทย์ทั้งเรื่องของความเป็นส่วนตัวและความโปร่งโล่งภายในการอยู่อาศัยที่ถือว่าดีมากๆจริงครับ

ส่วนของพื้นที่ด้านบนของ Unit Plan นี้ทางโครงการก็ยังคงเลือกจะแต่งออกมาให้รองรับสำหรับการเป็น Function : Bedroom เช่นเดียวกัน แต่สำหรับ Unit Plan นี้ในส่วนของ Function : Walk In Closet ที่เพิ่มเติมเข้ามาจะมีความพิเศษจากการได้ช่องแสงจากบานกระจกด้านข้างที่มีการเพิ่มเติมเข้ามาซึ่งเป็นอะไรที่ดูลงตัวและดูดีมากๆเช่นกันครับ

บทสรุปเพิ่มเติม … 1 Bedroom Plus Duo : Multi Purpose ขนาดพื้นที่ 34.5 ตร.ม.

ผมมองว่าสำหรับ Unit Plan นี้ หากใครที่กำลังมองหา Unit Plan สไตล์นี้เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวก็ถือว่าเป็น Unit Plan มีการออกแบบ Function Layout มาได้น่าสนใจและดูลงตัวมากๆเลยนะครับ

แต่สำหรับใครที่ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้มีครอบครัวและสนใจอยากจะเลือก Unit Plan นี้ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานพื้นที่ Function : ห้องอเนกประสงค์ ในการปรับใช้เป็นห้องทำงาน … ผมก็แนะนำให้เลือกปรับพื้นที่บริเวณด้านบนให้เป็นมุมทำงานก็ดูจะมีความลงตัวมากกว่า แถมพื้นที่ Function : Bedroom ด้านล่างก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวและโปร่งโล่งอีกด้วย แบบนี้น่าจะโอเคที่สุดนะครับ

ก็จะประมาณนี้นะครับ สำหรับบทความ Origin Plug&Play สายลวด สเตชั่น by Origin [ Pet Friendly ] ในครั้งนี้ กับโครงการที่ผมมองว่าทาง Origin ตีโจทย์รูปแบบและ Concept การพัฒนาโครงการในทำเลรอบนอกออกมาได้มีความน่าสนใจมากๆ

ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว [ 0 ม.จากสถานีสายลวด] และการนำเสนอการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางในตัวโครงการให้มีความหลากหลายตอบโจทย์การอยู่อาศัยของ Real Demand คนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายในกิจกรรมความชอบได้ดีเลย

แถมยังเพิ่มความน่าสนใจและสร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยที่แตกต่าง โดยการนำเสนอ Unit Plan ในสไตล์ Duo Space ที่ในรูปแบบการอยู่อาศัยที่โปร่งโล่งกับห้องเพดานสูง [ Floor To Ceiling ] ระดับ 4.2 เมตร 

ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหารูปแบบการอยู่อาศัยที่แตกต่างกับ Unit Plan สไตล์ Duo Space หรือกำลังมองหาที่อยู่อาศัยบนทำเลนี้ Origin Plug&Play สายลวด สเตชั่น by Origin [ Pet Friendly ] คือหนึ่งในโครงการใหม่ล่าสุดที่มีความน่าสนใจมาก ซึ่งผมอยากขอแนะนำให้ทุกคนเข้าไปชมและสัมผัสบรรยากาศห้องตัวอย่างจริงที่สำนักงานขายโครงการกันได้นะครับ

เพิ่มเติม …

สำหรับใครที่สนใจโครงการนี้สามารถลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3VKVuWz

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ