Open House : MUNIQ Langsuan by Major Development [ Ready To Move In ]

เรื่องของทำเลกับคุณค่าของการอยู่อาศัยในมุมมองแต่ละบุคคลนั้น จริงๆแล้วก็อาจจะมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่การยอมรับในทำเลของแต่ละบุคคล แต่สำหรับบางทำเลสำคัญๆใจกลางเมืองในกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทย เราจะเห็นส่วนผสมของที่ดินที่เป็น Freehold และ Leasehold ที่จะยิ่งทำให้ทำเลเหล่านี้มีคุณค่าที่สูงขึ้นมากๆในอนาคต

และยิ่งถ้าทำเลใจกลางเมืองนั้นอยู่ใกล้กับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อันดับต้นของกรุงเทพมหานครอย่าง สวนลุมพินี พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 360 ไร่ด้วยแล้ว ผมก็คงไม่ต้องอธิบายกันต่อแล้วเนอะ … ว่าที่ดิน Freehold ที่ตั้งอยู่ในทำเลโดยรอบของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมืองนี้จะมี Value เพิ่มขึ้นในอนาคตได้มากขนาดไหน

ดังนั้นการที่จะมี Developer เจ้าใดที่คิดจะเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบนที่ดิน Freehold ในทำเลนี้ ก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องเลือก Segment ในการพัฒนาโครงการให้ออกมาในรูปแบบของความเป็น Luxury Residence แบบที่เลี่ยงไม่ได้ อย่างที่เราได้เห็นไปกับหลากหลายโครงการที่อยู่อาศัยที่ถูกพัฒนาขึ้นมาบนทำเลนี้โดยเฉพาะบนทำเลที่ได้ชื่อว่าเป็นที่ดินบนทำเลหลังสวน

ซึ่งทาง Major Development เองก็เลือกที่จะนำเสนอการพัฒนาที่อยู่อาศัยออกมาในรูปแบบของโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ผ่านแบรนด์ระดับ Top อย่างโครงการ Muniq เช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นอะไรที่มีความน่าสนใจมากๆสำหรับผม กับการที่ทาง Major Development จะทำการพัฒนาโครงการ Muniq Langsuan by Major Development ให้ออกมาในรูปแบบของ Concept ไหน? เพื่อที่จะให้ตอบโจทย์การเป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบของ Luxury Residence บนทำเลที่มีมูลค่าสูงมากๆเช่นนี้

ทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมาในตอนต้นคือที่มาที่ทำให้ผมอยากจะขอพาทุกคนไปชมโครงการนี้ ผ่านบทความความ Open House : Muniq Langsuan by Major Development ในครั้งนี้นั่นเองครับ

สำหรับบทความนี้นอกเหนือจากการนำเสนอ Concept การพัฒนาต่างๆ พื้นที่ส่วนกลาง Facilities Area ที่น่าสนใจภายในโครงการนี้ และที่จะขาดไม่ได้สำหรับบทความในรูปแบบสไตล์ของเพจ INSO เรา ผมจะขอพาทุกคนไปชม Unit Plan ที่เป็นห้องตัวอย่างทั้ง 2 แบบของโครงการนี้พร้อมบทวิเคราะห์ในส่วนของการออกแบบ Function Layout แบบละเอียดกันเหมือนเช่นเคยนะครับ 

Project Details ที่น่าสนใจของโครงการนี้ก็จะประกอบไปด้วย … โครงการ Muniq Langsuan by Major Development คือ โครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury [ Freehold ] ที่ตั้งอยู่บนที่ดินซอยต้นสน ขนาดของที่ดินในการพัฒนา 1 -1 – 66.5 ไร่ รูปแบบอาคารเป็นอาคารพักอาศัย High Rise 28 ชั้น Concept การออกแบบ Design ในส่วนของตัวอาคารถูกออกแบบมาในสไตล์ Timeless Aestetic ที่เน้นความสวยงามแบบยั่งยืน จำนวนยูนิตพักอาศัยรวม 163  ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต [MJD Office] และส่วนของที่จอดรถจะรองรับประมาณ 111% [ ระบบ Automatic Parking ที่มีช่องจอด 185 คัน ]

ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง Facilities Area ของโครงการนี้ ผมจะขอเริ่มไล่เรียงไปตั้งแต่ส่วนของพื้นที่ชั้น Ground Fl. ขึ้นไปก็แล้วกันนะครับ โดยพื้นที่ในส่วนด้านข้างนี้จะเป็นพื้นที่ The Silver Courtyard สวนย่อมพื้นที่สีเขียวไว้สำหรับนั่งเล่นหรือนั่งรอเพื่อนในบรรยากาศร่มรื่น 

ส่วนของระบบ Automatic Parking Lift ของโครงการนี้จะมีด้วยกัน 2 ตำแหน่ง ซึ่งอยู่บริเวณด้านซ้ายและขวาของตัวอาคาร โดยรูปแบบการเข้าจอดจะเป็นระบบถาดเลื่อนซึ่งแบบนี้ผมว่าโอเคมากๆโดยเฉพาะใครที่เป็นกลัวที่แคบแบบผมนะครับ ส่วนบริเวณด้านข้างทางโครงการก็ยังมีการเตรียมส่วนของ EV Charger รองรับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการชาร์จไฟ รถไฟฟ้า หรือ รถประเภท Hybrid ไว้ด้วยนะครับ 

เข้ามาในส่วนของพื้นที่ภายในตัวอาคารจะเป็นส่วนของพื้นที่ Waiting Lounge  ที่เป็นตำแหน่ง First Impession ของพื้นที่ส่วนกลางของตัวโครงการ รูปแบบการตกแต่งเน้นขับความโปร่งโล่งให้กับพื้นที่ในส่วนนี้แต่ก็ยังคงความเนียบในรายละเอียดของงานตกแต่งและการเลือกใช้วัสดุให้ออกมาดูมีความเรียบหรูสวยงามมากๆครับ

ส่วนของพื้นที่ Reception + Lobby หลักของตัวโครงการนี้ ด้วยขนาดของพื้นที่ที่อาจไม่ใหญ่มากนักแต่ด้วยความที่พื้นที่บริเวณนี้มีความสูง Floor to Ceiling ที่เป็นแบบ Double Volume บวกกับการตกแต่งในสไตล์เรียบหรูที่เน้นโทนสีวอร์มก็ช่วยให้บรรยกาศโดยรวมของพื้นที่ในส่วนนี้ได้ความรู้สึกที่เรียบง่าย และดูดีเลยนะครับ

ส่วนของพื้นที่ Library ของโครงการนี้จะถูกแยกส่วนของพื้นที่มาอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตัว Lobby เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่ได้ความรู้สึกที่โปร่งโล่งและแสงสว่างที่เพียงพอนั่นเองครับ โดยรูปแบบการตกแต่งจะมีความแตกต่างโดยจะเน้นการใช้สีสันที่มีความสดใสสบายตามมากขึ้น เหมาะสำหรับเป็นมุมอ่านหนังสือหรือใช้เป็นพื้นที่เรียนพิเศษของบุตรหลานนั่นเองครับ

แต่สำหรับใครที่ต้องการพื้นที่ไว้สำหรับรองรับการทำงานในรูปแบบของการประชุม หรือ Private Meeting ทางโครงการก็ยังมีการจัดเตรียมพื้นที่ในส่วนของ Meeting Room ไว้รองรับเช่นกัน โดยพื้นที่ในส่วนนี้สามารถรองรับการประชุมแบบกลุ่มย่อยได้ถึง 10 – 12 ที่นั่งได้สบายๆและยังคงงานตกแต่งที่เรียบหรูไว้ด้วยเช่นกัน

ถัดมาคือส่วนของพื้นที่บริเวณ Active Atrium Entrance ที่ทางโครงการออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้ให้เป็นโถงสูงแบบ Double Volume ที่ใช้เชื่อมต่อส่วนของพื้นที่ Facilities Area ของชั้น 5 – 6 โดยจุดเด่นของพื้นที่ในส่วนนี้คือการออกแบบบันไดเป็นทรงโค้งที่ดูหรูหราและมีรายละเอียดของความเนียบมากๆดูดีเลยนะครับ

ในส่วนของพื้นที่บริเวณชั้น 5 จะเป็นส่วนของพื้นที่ Relaxing Lounge ที่มีการแยกฝั่งกันระหว่างชาย-หญิง เพื่อความสะดวกและเป็นส่วนตัวในการเข้ามาใช้พื้นที่ในส่วนนี้นั่นเองครับ โดยการตกแต่งพื้นที่บริเวณโดยรวมของ Function นี้ เน้นโทนสีขาววอร์มที่ดีสะอาดตาแต่ยังคงรู้สึกได้ถึงความเรียบหรู

ในส่วนของพื้นที่บริเวณชั้น 6 จะเป็นส่วนของพื้นที่ Active Zone ที่จะประกอบไปด้วยส่วนของพื้นที่ GYM ที่มีขนาดพื้นที่ที่ถือว่าใหญ่ดูโปร่งโล่งใช้ได้เลย พร้อมจัดเตรียมในส่วนของอุปกรณ์ในการออกกำลังกายมาแบบครบๆ และ ส่วนของพื้นที่ YOGA Room ที่มีการแยกส่วนของพื้นที่ออกจากกันแบบชัดเจนเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนซึ่งกันและกันนั่นเองครับ

ส่วนของพื้นที่บริเวณชั้น 7 จะเป็นส่วนของพื้นที่ Game Lounge และ Kids Quarter ตอบโจทย์การเป็นพื้นที่พักผ่อนด้วยกิจกรรมที่หลากหลายรูปแบบและหลากหลายวัย จุดเด่นของพื้นที่ในส่วนนี้นอกจากเรื่องของขนาดของพื้นที่แล้ว ในส่วนของงานตกแต่งและเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆที่ต้องบอกเลยว่าทางโครงการเค้าเลือกและคัดสรรมาแบบหรูหรามากๆ

มาถึงส่วนของพื้นที่ Facilities Area ในกลุ่มของ Sky Facilities ของโครงการนี้ที่ถูกจัดวางไว้ในช่วงระดับชั้น 27 – 28 กันต่อเลยก็แล้วกันนะครับ

โดยพื้นที่ในส่วนบริเวณชั้น 27 ไฮไลท์หลักเลยก็น่าจะเป็นส่วนของตำแหน่งการจัดวาง Heated Pool [สระว่ายน้ำที่มีการควบคุมอุณหภูมิ 28 องศาเซลเซียส] , Kid Pool , Jacuzzi และ Leisure Pool ที่เปิดรับวิวพื้นที่สวนลุมพินีและวิวเมืองแบบเต็มอิ่มแบบสุดๆนั่นเองครับ

ส่วนของพื้นที่อีกด้านหนึ่งของตัวอาคารจะเป็นส่วนของพื้นที่ Amphitheatre ที่นอกเหนือจากการตกแต่งและอุปกรณ์ความบันเทินที่จัดเตรียมไว้ให้แล้ว การที่ได้พื้นที่เป็นแบบ Double Volume ก็ช่วยทำให้พื้นที่ในส่วนของ Function นี้ดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นนะครับ

ในส่วนของพื้นที่บริเวณชั้น 28 ผมจะขอเริ่มจากส่วนของด้านฝั่ง City View ก่อนก็แล้วกันนะครับ โดยทางโครงการออกแบบพื้นที่ในส่วนของฝั่งนี้ให้เป็น Privite Dining Room [รองรับได้ถึง 10 – 12 ที่นั่ง] กับส่วนของพื้นที่ Private Kitchen and Gastronomy 

ซึ่งจุดเด่นของพื้นที่ในส่วนของ Function นี้นอกเหนือจากเรื่องของขนาดพื้นที่และการตกแต่งที่ดูหรูหราแล้ว ต้องบอกเลยว่าในส่วนของพื้นที่ครัวหลังบ้านเป็นอะไรที่ได้มาตราฐานจัดเต็มทั้งส่วนของพื้นที่และอุปกรณ์แบบสุดๆ อารมณ์แบบเชิญเชฟระดับประเทศมาทำอาหารให้ก็ไม่มีอายแน่นอนครับ

มาต่อกันกับพื้นที่  Facilities Area ส่วนสุดท้ายที่ถือว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ไฮไลท์ของโครงการนี้เลย นั่นก็คือส่วนของพื้นที่ Decanter Sky Lounge  ที่มีการตกแต่งพื้นที่ออกมาแบบจัดเต็มทั้งเรื่องของความหรูหราและการขับพื้นที่ให้ดูโปร่งโล่งเปิดรับวิวของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของสวนลุมพินี 

ซึ่งบอกเลยว่าช่วงเย็นๆ การที่ได้มานั่งจิบเครื่องดื่มอะไรเย็นๆชมวิวพระอาทิตย์ตกดินจากตำแหน่งนี้ น่าจะเป็นอะไรที่สุนทรีแบบสุดๆจริงๆครับ

หมายเหตุ … ขอชื่นชมเพิ่มเติมนะครับ ผมชอบการที่ทางโครงการเลือกใช้วัสดุในส่วนของพื้นสีดำเงาแบบนี้นะครับ มันช่วยสะท้อนผืนท้องฟ้าออกมาเพิ่มเสน่ห์และความสวยงามให้กับพื้นที่ในส่วนของ Function นี้แบบสุดๆไปเลยครับ

ก็จะประมาณนี้นะครับสำหรับในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Muniq Langsuan by Major Development ส่วนตัวผมมองว่าด้วยข้อจำกัดของขนาดพื้นที่โครงการ … การเลือกจะออกแบบและจัดวางพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ทำออกมาได้ดีมากๆจริงๆครับ

ทั้งเรื่องของความหลากหลายในกิจกรรมต่าง การแบ่งสัดส่วนของขนาดพื้นที่ ไปจนถึงตำแหน่งในการจัดวางเพื่อให้สอดรับกับวิวพื้นที่สีเขียวของสวนลุมพินี … และที่สำคัญในส่วนของความหรูหราสะท้อน Segment การเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่อยู่อาศัยระดับ Luxury ผมมองว่าทำได้ดีเลยจริงๆนะครับ

มาต่อกันในส่วนของห้องตัวอย่างของโครงการนี้กันบ้างนะครับ ซึ่งอันที่จริงโครงการนี้มีการออกแบบ Unit Plan ที่มีความหลากหลายแบบหลากหลายสไตล์มากๆ แต่ทางโครงการเลือกจะนำเสนอการตกแต่งห้องตัวอย่างในแบบของ Unit Plan : 2 Bedroom เป็นหลักนะครับ โดยห้องตัวอย่างที่จะพาไปชมกันในวันนี้มีด้วยกัน 2 ขนาดพื้นที่นั่นก็คือ 78.90 และ 96.50 Sq.m.

Unit Plan : 2 Bedroom 78.90 Sq.m. [Parisian Style]

เมื่อเราเดินผ่านทางเดิน Corridor ด้านหน้าเข้ามาภายในพื้นที่หลักของตัวห้องจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen + Dining + Living ที่ถูกจัดวางไว้รวมกันอยู่บนพื้นที่เดียวกันทั้งหมด ก็ได้ความอิมแพคของขนาดพื้นที่ที่ลงตัวโอเคเลยครับ

ส่วนของตำแหน่งการวางส่วนของเคาน์เตอร์ครัวจะวางไว้ขนานกับผนังด้านข้างบริเวณทางเดินหลัก ส่วนของตำแหน่งการวาง Dining ทางโครงการเลือกจัดวางมาเป็นแบบโต๊ะกลมที่สามารถรองรับการนั่งได้ถึง 4 ที่นั่งตอบโจทย์การอยู่อาศัยในแบบของครอบครัวนั่นเองครับ

ส่วนตำแหน่งของพื้นที่ Function : Living จะถูกจัดวางไว้ด้านในสุดของพื้นที่อยู่ในตำแหน่งที่ติดกับพื้นที่ส่วนของระเบียงด้านนอก ซึ่งตำแหน่งการวางนี้ถือว่าลงตัวทั้งเรื่องของแสงสว่างและขนาดของพื้นที่ที่ดูกว้างขวาง

จริงๆแล้วเมื่อดูจากขนาดของพื้นที่จริงใครที่อยากได้โซฟาที่แกรนด์มากขึ้นกว่านี้ก็สามารถหามาจัดวางได้นะครับ ทั้งรูปแบบ 3 ที่นั่ง หรือ รูปแบบทรง L Shape ผมว่าสามารถจัดวางได้แบบสบายๆและลงตัวเลยนะครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom แม้จะได้ขนาดพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มากนักแต่ด้วยความที่มีช่องแสงสว่างด้านข้างและความสูง Floor To Ceiling 3 เมตร ก็ช่วยให้เวลาที่เราอยู่อาศัยใจในพื้นที่ Function นี้ก็ดูลงตัวและไม่อึดอัดมากนักนะครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Private Bathroom  ที่อยู่ภายในพื้นที่ของ Function : Bedroom จะถูกออกแบบมาเป็นรูปแบบ 3 Fixtures ซึ่งจัดวางมาในรูปแบบตอนลึกโดยกั้นส่วนของพื้นที่เปียกแห้งด้วยฉากกั้นกระจกใส เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลทำความสะอาดนั่นเองครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom ของ Unit Plan นี้โดดเด่นด้วยขนาดของตัวพื้นที่และการได้เฟรมกระจกเข้ามุมบริเวณตำแหน่งของหัวนอนส่งผลทำให้ช่วงในเรื่องของความโปร่งโล่งในการอยู่อาศัยภายในพื้นที่มากๆ บวกกับ Mood & Tone ของสีเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการเลือกมาตกแต่งก็ช่วยขับความลงตัวออกมาได้สวยงามมากๆครับ 

ส่วนของพื้นที่ Function : Private Bathroom ในส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom ภายในถูกออกแบบมาเป็นแบบ 4 Fixtures ที่มีการเพิ่มในส่วนของ Bathtub เข้ามาโดยภายในพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ยังได้ในส่วนของช่องแสงขนาดใหญ่เข้ามาช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งและแสงสว่างของพื้นที่อีกด้วย

Unit Plan : 2 Bedroom 96.40 Sq.m. [Timeless Elegant]

แรงบันดาลใจในการออกแบบ Unit Plan : 2 Bedroom 96.40 Sq.m. คือความเป็น Timeless Elegant ดังนั้นทางโครงการจึงการเน้นการใช้โทนสีน้ำตาล เทา เบจ เพื่อให้ดูมีความกลมกลืนกับวัสดุภายในห้อง และมีการเล่นเส้นสายของ Stainless สีรมดำเพื่อทำให้ได้ Look & Feel ที่มีความ Masculine และ Luxury มากขึ้นนั่นเองครับ 

ในส่วนของ Function Layout ของ Unit Plan นี้ เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาภายในจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen + Dining และ Living รวมอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกันเช่นกัน แต่จะมีความแกรนด์ที่มากขึ้นด้วยขนาดของพื้นที่ที่ได้เพิ่มากขึ้นเยอะนั่นเองครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen ถูกออกแบบมาเป็นแบบ Function ครัวเปิดแบบเขามุม แต่จะมีการเพิ่มในส่วนของ Function : Island เข้ามาเพื่อเป็นการกั้นความเป็นสัดส่วนให้กับพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ ซึ่งภาพรวมๆของพื้นที่ Function นี้ตอบโจทย์ทั้งส่วนของการใช้งานและความหรูหราลงตัวเลยครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Dining ของ Unit Plan นี้ ทางโครงการยังคงเลือกใช้เป็นรูปแบบของโต๊กลมที่รองรับแบบ 4 ที่นั่ง แต่รูปแบบของโทนสีและวัสดุที่เลือกใช้จะให้ความรู้สึกที่เรียบหรูมากขึ้น

ส่วนของตำแหน่งพื้นที่ Function : Living ผมชอบมากๆตอบโจทย์ทั้งเรื่องขนาดพื้นที่และความโปร่งกว้างมากๆ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตำแหน่งของพื้นที่นี้อยู่ติดกับส่วนของพื้นที่ระเบียงด้านนอกที่มีความกว้างขนานไปกับพื้นที่นี้และการที่ตัวห้องเองมีความสูง Floor To Ceiling 3 เมตร ทำให้ภาพรวมในการอยู่อาศัยในพื้นที่ Function นี้ดูมีความแกรนด์มากๆนั่นเองครับ

สำหรับ Unit Plan นี้ จะมีการเพิ่มในส่วนของพื้นที่ Function : ห้องอเนกประสงค์ เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อรองรับสำหรับการปรับพื้นที่ในส่วนนี้เป็นมุมทำงาน … ซึ่งเมื่อดูจากการตกแต่งห้องตัวอย่างนี้ก็ต้องบอกได้เลยว่ามีความลงตัวมากๆน่าจะถูกใจใครหลายคนเลยนะครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom สำหรับ Unit Plan นี้เรื่องของขนาดพื้นที่มีความลงตัวที่มากขึ้นตามสัดส่วนของพื้นที่โดยรวมของ Unit Plan แถมเมื่อได้ขนาดสัดส่วนที่กว้างมาขึ้นของพื้นที่ในส่วนของเฟรมกระจกด้านข้างก็ได้ขนาดที่เปิดกว้างมากขึ้นตามนั่นเองครับ โปร่งโล่งสุดๆไปเลยสำหรับพื้นที่ Function นี้

ภายในก็ยังคงได้ส่วนของพื้นที่ Function : Private Bathroom รูปแบบ 3 Fixture เช่นเดียวกัน แต่รูปทรงการจัดวางจะเป็นพื้นที่แบบสี่เหลี่ยนจัตุรัสตามภาพด้านบนแทนนะครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom ของ Unit Plan นี้ โดดเด่นด้วยตำแหน่งของตัวห้องที่เป็นตำแหน่งที่จะได้วิวในส่วนของสวนลุมพินีจากตำแหน่งของหัวนอน ดังนั้นในมุมดังกล่าวทางโครงการเลยออกแบบมาเป็นเฟรมกระจกเข้ามุมเพื่อเปิดรับวิวในส่วนนี้ให้ได้มากที่สุดนั่นเองครับ

ภายในพื้นที่ส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom ด้วยความที่มีขนาดของพื้นที่ที่มากกว่าดังนั้นจึงสามารถจัดวางในส่วนของมุมแต่วตัว Walk In Closet เพิ่มเติมเข้ามาทำให้ได้ทั้งความเป็นสัดส่วนของพื้นที่ที่มากขึ้นและน่าจะถูกใจสำหรับคุณผู้หญิงแน่นอนนะครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Private Badroom ของพื้นที่ในส่วนของ Function จะได้เป็นแบบ 4 Fixtures โดยตำแหน่งในการจัดวางส่วนของ Bathtub ถูกจัดวางไว้ชิดกับส่วนของเฟรมหน้าต่างด้านข้าง … ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยสามารถนอนแช่น้ำไปพร้อมกับเสพวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวนลุมพินีจากตำแหน่งนี้ได้นั่นเองครับ … สุดในสุดครับ

ในส่วนของการพาชมและบทวิเคราะห์ Function Layout ของ Unit Plan ห้องตัวอย่างของโครงการนี้ก็จะประมาณนี้นะครับ แต่ก็อย่างที่บอกไปครับว่าโครงการนี้มีการออกแบบ Unit Plan Layout ที่มีความหลากหลายมากๆ ดังนั้นสำหรับใครที่สนใจหรือมีโอกาสได้แวะเข้าไปชมโครงการนี้อยากจะพิมพ์เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องของการเลือก Unit Plan ของโครงการนี้กันได้เหมือนเช่นเคยนะครับ

ก็จะประมาณนี้นะครับ … สำหรับบทความ Open House : Muniq Langsuan by Major Development ในครั้งนี้ หากถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ได้เข้าไปชมโครงการนี้ในวันที่ก่อสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว …

สำหรับผมแล้วมองว่าสำหรับโครงการ Muniq Langsuan by Major Development ด้วยคุณค่าของความเป็นที่ดิน Freehold บนทำเลใจกลางเมืองที่ได้วิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของสวนลุมพินี บวกกับรูปแบบและการพัฒนาของตัวโครงการนี้ที่เล่าผ่านงาน Design ของตัวอาคารที่เน้นเรื่อง Timeless กับการเป็นที่อยู่อาศัยในระดับ Luxury ทั้งในรายละเอียดการออกแบบ Unit Plan และ Facilities Area ทั้งหมดของโครงการนี้

ซึ่งทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมานั้นก็ล้วนแล้วทำให้ผมเชื่อมั่นว่าโครงการ Muniq Langsuan by Major Development เป็นอีกหนึ่งในโครงการที่มีความน่าสนใจมากๆ ทรงคุณค่า และ น่าจะมี Value ในอนาคตที่สูงขึ้นมากแน่นอนครับ

เพิ่มเติม …

สนใจลงทะเบียนรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3x7ZQfe

ขอบคุณสำหรับทุกๆการติดตาม