Project : Tonson One Residence by AssetFive x Capstone
ตลอดช่วงระยะเวลา 1 – 2 เดือนที่ผ่านมา … เป็นช่วงเวลาที่ผมกำลังสนุกกับการนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ๆอย่าง Open Space : InsoCondo x Specefinder คอนเทนต์ที่เป็นการเล่าเรื่องผ่านยูนิตในระดับ Luxury (10 ล้านบาทขึ้นไป ) ซึ่งที่มาของคอนเทนต์นี้ คือ เพราะผมกำลังมองว่าในอนาคตอันใกล้หรือช่วง 1 – 2 ปีต่อจากนี้ โครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury Segment ในประเทศไทยที่เปิดใหม่ทำเลใจกลางเมือง ส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาขายต่อยูนิตเริ่มต้นที่ระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป
ดังนั้นผมจึงเลือกจะนำเสนอมุมมองของยูนิตในระดับราคานี้ให้แฟนเพจทุกท่านได้เตรียมตัว เตรียมความพร้อมกันไว้ก่อน ซึ่งยังไงๆ โครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury Segment ที่มีราคาต่อยูนิตเริ่มต้นที่ระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไปยังไงก็ต่อมาแน่นอนแบบหลีกหนีไม่ได้ และจากการที่ผมได้มีโอกาสไปแวะเยี่ยมชมและถ่ายภาพยูนิตในโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury Segment ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จมาหลากหลายโครงการ
ซึ่งต้องบอกเลยว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวแปรหลักที่จะทำให้ยูนิตในระดับ Luxury Segment ดูมีความน่าสนใจ ดูว้าว และ ดูหรูหราสมราคานั้น จริงๆแล้วนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องของทำเลที่ตั้งของโครงการที่ต้องอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า 0 เมตร , Facilities ภายในโครงการที่ต้องมีขนาดใหญ่อลังการ หรือ Specification ภายในห้อง หรือ ยูนิตที่ดูหรูหรา Hi-Tech นำอนาคตแต่อย่างใด
แต่ในทางกลับกันตัวแปรหลักที่จะเป็นตัวบ่งบอกตัวตน และลักษณะความเป็นยูนิตของโครงการในระดับ Luxury Segment ที่แท้จริงนั้น คือเรื่องของอะไรที่เรียบง่ายแต่ทำได้ยากมากสำหรับโครงการใหม่ๆในปัจจุบัน นั้นก็คือเรื่องของสัดส่วนจำนวนยูนิตต่อโครงการ ที่จะส่งผลโดยตรงต่อจำนวนที่จอดรถ และ Unit Plan ที่เน้นการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับคำว่า ” Space ”
และก็อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่ายังไงโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury Segment ที่มีราคาต่อยูนิตเริ่มต้นที่ระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไปยังไงก็ต้องมาแน่นอน และการก็มาจริงครับกับโครงการ ” Tonson One Residence by AssetFive x Capstone ” โครงการระดับ Super Luxury ทำเลเพลินจิต – ต้นสน – หลังสวน เพียง 80 ยูนิต พร้อมที่จอดรถ Automated Parking System (146% และ รองรับ Super Car) โดยทำเลที่ตั้งของตัวโครงการจะตั้งอยู่ในซอยต้นสน ซึ่งเป็นหนึ่งในถนนที่มีความร่มรื่นและสวยที่สุดในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ
ทำเล ” เพลินจิต “ คือหนึ่งในทำเลที่จัดว่าเป็นโซน CBD (Central Business District) หรือ ย่านศูนย์กลางทางธุรกิจใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งทำเลนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมของโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury , Luxury Hotel , Office Building และแหล่งช้อปปิ้งไฮเอนด์ ที่สำคัญของประเทศไทย
ดังนั้นก็คงจะไม่ต้องแปลกใจอะไร หากจะบอกว่าราคาที่ดินในทำเลนี้ ถูกจัดให้เป็นที่ดินที่มีการซื้อขาย (Freehold Land) ที่มีราคาสูงที่สุดในประเทศไทย เพราะด้วยเหตุผลเรื่องของจำนวนที่ดิน Freehold เริ่มเหลือน้อยมาก หรือถ้ายังคงมีเหลือก็มีราคาสูงมากๆ จึงส่งผลให้โครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ๆที่เตรียมเปิดตัวในทำเลนี้ ล้วนเป็นโครงการที่เน้นการพัฒนาโครงการออกมาในรูปแบบของโครงการระดับ Luxury ขึ้นไปเท่านั้น
และด้วยความที่โครงการ Tonson One Residence by AssetFive x Capstone คือโครงการในระดับ Super Luxury โครงการใหม่ล่าสุดที่เตรียมจะเปิดขายในทำเลที่ได้ชื่อว่ามีราคาที่ดินที่แพงที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นที่มาให้ผมอยากจะขอนำเสนอบทความ Project : Tonson One Residence by AssetFive x Capstone ในครั้งนี้
โดยสำหรับบทความนี้ อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้นว่า ” ตัวแปรหลักที่จะเป็นตัวบ่งบอกความเป็นยูนิตของโครงการในระดับ Luxury Segment ที่แท้จริงนั้น คือ Unit Plan ที่เน้นการออกแบบให้ความสำคัญกับคำว่า ” Space ” ดังนั้นผมจะขอเน้นการนำเสนอในส่วนของการเจาะลึกรายละเอียดส่วนของตัว Unit Plan ของโครงการนี้เป็นหลักนะครับ
Project Information :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ซอย ต้นสน แขวง ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (300 เมตร จาก BTS สถานีชิดลม และ 350 เมตร จาก BTS สถานีเพลินจิต)
ขนาดที่ดิน : 0 – 3 – 85.3 ไร่
ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย High Rise 29 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : ยูนิตพักอาศัยเพียง 80 ยูนิตเท่านั้น
Unit Type : All Corner Units , Private Lift , Fully Fitted Room
1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 57 – 74.5 ตร.ม. ( 34 Units )
Unit Plan : 1 Bedroom Type A ขนาดพื้นที่ 66 ตร.ม.
– ส่วนของพื้นที่ Foyer สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom Type A ขนาดพื้นที่ 66 ตร.ม. จะมีขนาดพื้นที่ประมาณ 3 ตร.ม. ซึ่งจะเล็กกว่าพื้นที่ Foyer ของ Unit Plan : 1 Bedroom Type B ขนาดพื้นที่ 57 ตร.ม. ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเกะกะบริเวณประตูทางเข้า ตำแหน่งการวางในส่วนของตู้เก็บรองเท้าจึงน่าจะถูกเอาไปจัดวางไว้ในส่วนของพื้นที่ภายในห้องแทนนะครับ
– ส่วนของ Function : Living + Dining + Kitchen จะถูกออกแบบและจัดวางไว้ตำแหน่งด้านในสุดของตัวห้อง ซึ่งรูปแบบของพื้นที่โดยรวมของ Function นี้จะเป็นแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยจะได้เป็นผนังกระจกทั้ง 2 ด้าน ทำให้เวลาที่อยู่อาศัยจริงภายในพื้นที่ Function นี้จะให้ความรู้สึกโปร่งโล่งมากเป็นพิเศษ (ถ้านับรวมระยะห่างจากผนังส่วนของ Function : Dining ไปจนถึงผนังฝั่งตำแหน่งวางทีวี ความกว้างรวมของพื้นที่ในส่วนนี้จะกว้างถึง เกือบ 6 เมตรเลยนะครับ ถือว่ากว้างมากๆครับ )
– Function : Bedroom + Bathroom ตำแหน่งการวางของ Function นี้ จะอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าหลักของตัวห้อง ซึ่งต้องบอกเลยว่าสำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 66 ตร.ม. ในส่วนของ Function : Bedroom + Bathroom อาจไม่ใช่จุดขายสำหรับ Unit Plan นี้ เพราะสำหรับใครที่จะเลือก Unit Plan นี้ คงจะถูกใจกับความอลังการของพื้นที่ Function : Living + Dining + Kitchen เป็นหลักนะครับ (อลังการจริงครับ ยอมรับเลยครับ)
Unit Plan : 1 Bedroom Type B ขนาดพื้นที่ 57 ตร.ม.
– เมื่อเดินออกมาจากส่วนของ Private Lift จะเจอกับส่วนของพื้นที่ Foyer ที่มีขนาดพื้นที่ประมาณ 3.5 ตร.ม. โดยพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นตำแหน่งที่เราจะไว้ Built-In ในส่วนของตู้เก็บของ หรือ รองเท้า เพื่อความเรียบร้อย ก่อนจะเดินเข้าสู่ในส่วนของตัวห้องหลัก
– ส่วนของ Function : Living + Dining + Kitchen จะถูกออกแบบและจัดเรียง Function เป็นแบบห้องตอนลึก โดยมีขนาดพื้นที่รวมประมาณ 24 ตร.ม. ซึ่งถือว่าพื้นที่ในส่วนนี้เป็นพื้นที่หลักของ Unit Plan นี้ ส่วนของ Function : Dining + Kitchen จะอยู่บริเวณตำแหน่งมุมด้านข้างของประตูเข้าห้องหลัก Function : Kitchen เป็นแบบ Open Kitchen เข้ามุมเชื่อมต่อกับส่วนของ Function : Dining ถูกจัดวางเป็นแบบโต๊ะเคาน์เตอร์บาร์ แบบ 2 ที่นั่ง เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ในส่วนของ Function นี้
– Function : Living จะอยู่บริเวณด้านในสุดของตัวห้อง อยู่ติดกับส่วนของพื้นที่ระเบียงด้านนอก และด้วยความกว้างของพื้นที่ในส่วนนี้ ที่มีความกว้างเกือบ 3.8 เมตร ดังนั้นระยะห่างระหว่างตำแหน่งการวางโซฟากับตัวผนังตำแหน่งที่วางทีวีก็จะมีระยะห่างที่ถือว่ากว้างมากๆ สำหรับ Unit Plan แบบ 1 Bedroom
– Function : Bedroom แม้ความกว้างของพื้นที่ Function นี้จะมีขนาดที่เล็กกว่าส่วนของพื้นที่ Function : Living แต่ด้วยความที่เป็นตำแหน่ง Corner ดังนั้นจึงได้ผนังกระจกทั้ง 2 ด้านทั้งด้านข้างและส่วนของปลายเตียง จำทำให้เวลาที่อยู่อาศัยจริงจะไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด
– Function : Bathroom แบบ 4 Fixtures ตำแหน่งการจัดวางในส่วนของ Function นี้ จะถูกจัดวางไว้ส่วนด้านในของ Function : Bedroom และผนังด้านข้างจะเป็นผนังกระจกเช่นกัน เพื่อเป็นการช่วงเรื่องของแสงสว่างและความโปร่งโล่งให้กับ Function : Bathroom
Unit Plan : 1 Bedroom Type C ขนาดพื้นที่ 74.5 ตร.ม. (ขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดของ Unit Plan แบบ 1 Bedroom และไม่ค่อยจะพบเห็น Unit Plan ขนาดนี้ในโครงการอื่นทั่วๆไปนะครับ)
– ส่วนของพื้นที่ Foyer สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom Type C ขนาดพื้นที่ 74.5 ตร.ม. จะมีขนาดพื้นที่ประมาณ 3.7 ตร.ม. (ถือว่ามีขนาดใหญ่สุด สำหรับ 1 Bedroom ) แต่เมื่อดูการจัดวางผมว่ามันดูลงตัวที่สุดเช่นกันนะครับ ผนังด้านข้างสามารถจัดวางเป็นตู้เก็บรองเท้าก่อนเข้าห้องเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้
– เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนของ Function : Kitchen เป็นแบบ Open Kitchen แบบที่มี Island อยู่ตรงกลาง ผนังส่วนของเคาน์เตอร์ครัวจะหันหน้าออกกระจก ช่วยเรื่องของแสงสว่างและความโปร่งโล่งให้กับพื้นที่ Function นี้ (สำหรับใครที่เป็นสายทำครัวประกอบอาหารทางเองภายในห้องน่าจะชอบการจัดวาง Function ของ Unit Plan นี้นะครับ)
– ถัดจาก Function : Kitchen มาจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น ซ้าย – ขวา ฝั่งที่อยู่ติดกับส่วนกระจกของห้องถูกจัดวางไว้เป็นส่วนของ Function : Dining แบบ 4 ที่นั่ง ส่วนของ Function : Living จะอยู่อีกผั่งด้านในของตัวห้องแทน อารมณ์เหมือนการจัดวาง Function แบบบ้านเดียวนะครับ ที่จะเน้นเอาส่วนของ Function : Dining ไปวางไว้ในตำแหน่งที่จะได้รับแสงสว่างจากภายนอก
– Function : Bedroom ถ้าเปรียบเทียบกับ 1 Bedroom Type อื่นๆของโครงการนี้ Unit Plan นี้ถือว่า Function : Bedroom ดูลงตัวด้วยขนาดของพื้นที่ แต่ส่วนของ Function : Bathroom อาจดูไม่โปร่งโล่งเพราะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่มีกระจกรับแสงสว่างจากภายนอก แต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแทนนะครับ
2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 108 – 117.5 ตร.ม. ( 33 Units )
Unit Plan : 2 Bedroom Type A ขนาดพื้นที่ 108 ตร.ม.
– ส่วนของพื้นที่ Foyer สำหรับ Unit Plan : 2 Bedroom Type A ขนาดพื้นที่ 108 ตร.ม. บริเวณด้านข้างที่เป็นทางออกไปสู่พื้นที่ส่วนกลางภายใน+บันไดหนีไฟของแต่ละชั้น พื้นที่ส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนไว้ใช้เป็นพื้นที่เก็บของ หรือ สัมภาระต่างๆ เช่นกระเป๋าเดินทาง ถุงกอล์ฟ อุปกรณ์ออกกำลังกายที่เรานำออกไปใช้ประจำ
– เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนของ Function : Living + Dining + Kitchen แบบหน้ากว้างขนาด 7.26 เมตร (อลังการสุดๆและกว้างมากๆครับ) ส่วนของ Function : Kitchen จะเป็นครัวแบบเข้ามุมและมีส่วนของ Island อยู่บริเวณตรงกลางเพื่อเป็นการแบ่งพื้นที่บริเวณนี้ให้ชัดเจนและเป็นระเบียบมากขึ้น
– Function : Living + Dining เชื่อมต่อกัน บนพื้นที่รูปแบบสี่เหลี่ยมผื่นผ้าขนาด ประมาณ 38 ตร.ม. ถือว่าเป็นพื้นที่ Function ที่เป็นศูนย์กลางของการอยู่อาศัยใน Unit Plan นี้ และได้ส่วนของกระจกทั้ง 2 ด้าน ทั้งฝั่งที่เป็นหน้ากว่าง 7.26 เมตร และส่วนที่เป็นทางเชื่อมต่อไปส่วนของพื้นที่ระเบียงด้านนอก
– Function : Bedroom (เล็ก) ถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่ได้บานกระจกขนาดกว้าง 3 เมตร ซึ่งจะช่วยเรื่องของความโปร่งโล่งเวลาที่อยู่อาศัย ส่วนของ Function : Bathroom จะใช้ร่วมกับด้านนอก โดย Function : Bathroom (Guest ) จะเป็นแบบ 3 Fixtures นะครับ
– Function : Master Bedroom ขนาดพื้นที่เมื่อดูจากภาพ Unit Plan ด้านบนอาจดูว่ามีขนาดพื้นที่รวมๆแล้วไม่ใหญ่มากนัก แต่การจัดวางในส่วนของ Function ผมว่าก็ดูลงตัวใช้ได้อยู่นะครับ ส่วนของ Function : Private Bathroom ภายในห้องจะเป็นแบบ 4 Fixtures โดยจัดเรียง Function เป็นแบบตอนลึก
Unit Plan : 2 Bedroom Type B ขนาดพื้นที่ 117.5 ตร.ม. [ Recommended ]
– เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับพื้นที่ส่วนที่เป็นเหมือน Foyer ด้านในซ้อนเพิ่มเข้ามา โดยข้อดีของพื้นที่ Foyer ในส่วนนี้ก็คือจะพื้นที่ที่กั้นแบ่งโซนให้กับ ส่วนของ Function ที่รองรับสำหรับ Guest กับ Private Zone ส่วนของ Function : Bedroom ให้แยกออกจากกันอย่างชัดเจน และจัดวางในส่วนของ Function : Guest Bathroom เพิ่มเข้ามา
– Function : Living + Kitchen + Dining + ระเบียง บนพื้นที่รูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด ประมาณ 45 ตร.ม. (ใหญ่มากๆ) โดยส่วนของ Function : Kitchen จะเป็น Function แบบ Open Kitchen + Island และส่วนของ Function : Dining จะสามารถจัดวางเป็นแบบ 6 ที่นั่งได้แบบสบายๆ
– Function : Living พื้นที่ส่วนนี้มีขนาดความกว้างถึง 5.6 เมตร ซึ่งถือว่ากว้างมากๆ ดังนั้นสำหรับใครที่ชอบโซฟาแบบ L- Shape สำหรับ Unit Plan นี้คุณสามารถจัดวางได้แบบสบายๆเหลือๆเลยนะครับ แต่เสียดายไปหน่อยที่ตำแหน่งการวางทีวี อาจจะดูแคบหรือเล็กไปหน่อยถ้าเทียบกับสเกลของขนาดพื้นที่โดยรวมของห้อง
– Function : Bedroom (เล็ก) ถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่ได้บานกระจกขนาดกว้าง 2.8 เมตร ซึ่งก็ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปนะครับ และมีการเพิ่มในส่วนของ Function : Private Bathroom แบบ 3 Fixtures เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยภายใน Function นี้
– Function : Master Bedroom เมื่อเดินเข้ามาภายใน Function นี้ จะเจอกับส่วนที่เป็นพื้นที่ Function : Walk In Closet (คุณผู้หญิงน่าจะชื่นชอบกับพื้นที่ Function นี้นะครับ) ส่วนของ Function : Private Bathroom ภายในห้องจะเป็นแบบ 4 Fixtures แต่จะมี Function ที่แตกต่างกับ Unit Plan อื่นๆ ก็คือในส่วนของ Shower จะถูกแยกออกจาก Bathtub กันชัดเจนนะครับ
[ Recommended : ผมชอบการจัดวาง Function Layout ของ Unit Plan นี้เพราะความลงตัวในแต่ละพื้นที่ Function ออกแบบและจัดวางออกมาได้ดี และ การที่มีส่วนของพื้นที่ Foyer ด้านในที่เป็นการกั้นแบ่งโซนให้กับ ส่วนของ Function ที่รองรับสำหรับ Guest กับ Private Zone ส่วนของ Function : Bedroom ให้แยกออกจากกัน อันนี้ผมว่าน่าจะถูกใจคนที่อยู่อาศัยในระดับ Segment และหากมองในมองในมุมของการลงทุนปล่อยเช่าในอนาคต 2 Bedroom Type B ก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ลูกค้าให้ความสนใจนะครับ ]
3 Bedroom ขนาดพื้นที่ 174 – 174.5 ตร.ม. ( 4 Units )
ในส่วนของ Unit Plan : 3 Bedroom ขนาดพื้นที่ 174 – 174.5 ตร.ม. ผมจะไม่ขอทำการวิเคราะห์ในส่วนของ Function Layout นะครับ เพราะจริงๆแล้วทางโครงการออกแบบ Unit Plan นี้มาไว้สำหรับคนที่สนใจห้องชุดขนาด 3 Bedroom ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งการออกแบบ Function ของยูนิตที่ทางโครงการนำเสนอนั้นจะได้ Function : Master Bedroom ถึง 2 ห้องเลยทีเดียว
Penthouse ขนาดพื้นที่ 255 – 387.5 ตร.ม. ( 5 Units )
ส่วนของ Unit Plan : Penthouse ขนาดพื้นที่ 255 – 387.5 ตร.ม. ทั้งโครงการจะมีเพียง 5 ยูนิตเท่านั้น โดยตำแหน่งของ Unit เหล่านี้จะอยู่ที่ช่วงชั้น 23 – 29
Floor Plan : จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดเพียง 4 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น
Ground Fl. :
02 – 21 Fl. : ยูนิตพักอาศัย
22 – 22 A Fl. : Facilities
23 – 25 Fl. : ยูนิตพักอาศัย ( Simplex Penthouse )
Facilities : Concierge Service , Lounge & Meeting Lounge , Multi – Purpose Room With Fully – Equipped Pantry , 25 – Meter Swimming Pool , Jacuzzi Pool , Fitness , Driver Room
จำนวนที่จอดรถ : 146 % Automated Parking System ( Size Compatible with Super Car )
ค่าส่วนกลางและค่ากองทุน : 150 / 1,700 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 20 ล้านบาท** (เริ่มต้น 300,000 บาทต่อตร.ม.)
ก็จะประมาณนี้นะครับสำหรับบทความ Project : Tonson One Residence by AssetFive x Capstone โครงการระดับ Super Luxury ทำเลเพลินจิต – ต้นสน – หลังสวน เพียง 80 ยูนิต พร้อมที่จอดรถ Automated Parking System (146% และ รองรับ Super Car) และจากการที่ได้มานั่งวิเคราะห์ส่วนของการออกแบบ Function Layout ในแต่ละ Unit Plan ของโครงการนี้ ผมก็บอกเลยว่าสำหรับใครที่มีความเชื่อแบบผม ” ตัวแปรหลักที่จะเป็นตัวบ่งบอกความเป็นยูนิตของโครงการในระดับ Luxury Segment ที่แท้จริงนั้น คือ เรื่องของ Unit Plan ที่เน้นการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับคำว่า Space “
โครงการ Tonson One Residence by AssetFive x Capstone ถือว่าเป็นโครงการที่น่าจะตอบโจทย์ความเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Super Luxury อย่างแท้จริง และด้วยความโดดเด่นทั้งเรื่องของ Concept การออกแบบ และทำเลที่ตั้งของตัวโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลเพลินจิต – ต้นสน – หลังสวน บนที่ดิน (Freehold Land) ในโซนที่มีที่ดินราคาสูงที่สุดในประเทศไทย
ด้วยความที่โครงการ Tonson One Residence by AssetFive x Capstone จัดว่าเป็นโครงการที่อยู่ในระดับ Rare Item และถ้าเรามองโครงการนี้ในมุมของการลงทุนระยะยาวละ มองเรื่องของมูลค่าในการขายต่อในอนาคต (Capital Gain) ผมมองว่าหากดูความ Rare และมูลค่าของ Freehold Land ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าในอนาคตมูลค่าของโครงการจะสูงขึ้นมากๆในอนาคต
และหากมองในมุมของการลงทุนปล่อยเช่าระยะยาว ผมจะมองเรื่องของ Real Demand กลุ่มผู้เช่าในทำเลนี้ว่ามีศักยภาพ หรือ มีความต้องการอยู่อาศัยโครงการระดับ Super Luxury อย่างโครงการนี้มั้ย? ซึ่งก็อย่างที่ผมได้เกริ่นไปในตอนต้น ทำเล ” เพลินจิต ” คือหนึ่งในทำเลที่จัดว่าเป็นโซน CBD (Central Business District) หรือ ย่านศูนย์กลางทางธุรกิจใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งทำเลนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมของทั้ง โครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury , Luxury Hotel , Office Building และแหล่งช้อปปิ้งไฮเอนด์ ที่สำคัญของประเทศไทย ดังเรื่องของกลุ่มผู้เช่า หรือโอกาสในการลงทุนระยะยาว ปล่อยเช่ากับโครงการประเภทนี้ผมมองว่ามีความเป็นไปได้นะครับ
ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการนี้หรือมีความสนใจในเรื่องของการออกแบบ Unit Plan ต่างๆ แล้วอยากจะแลกเปลี่ยนมุมมองหรือวิธีการคิดวิเคราะห์ Unit Plan ที่ตัวเองมีความสนใจกับทางผม ก็สามารถพิมพ์ Inbox เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกันได้นะครับ ด้วยความยินดีเสมอเช่นเคยครับ
เพิ่มเติม …
โครงการ Tonson One Residence by AssetFive x Capstone จะเปิด Presales ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ที่ชั้น 9 โรงแรม Park Hyatt Bangkok
สำหรับผู้สนใจลงทะเบียนรับข้อมูลและโปรโมชั่นพิเศษล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ http://tonsonone.com/
โทร. 091-979-6161
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ