พระราม 9 ในวันนี้ที่ไม่เหมือนเดิม … หากย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อน ในช่วงที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวโครงการใหม่บนทำเลนี้กันอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่เกือบทุกโครงการที่เปิดตัวในตอนนั้นก็ล้วนจะประโคมชูจุดขายในเรื่องของ Lifestyle บนทำเลใจกลางเมือง และ คำว่า New CBD ทำเลที่ตอบโจทย์การการใช้ชีวิตการเดินทางที่สะดวกสะบายและใกล้แหล่งงานใหม่
โดยเฉพาะการเติบโตและพัฒนาในส่วนของ Office Building ในสเกลขนาดใหญ่ที่สะท้อนภาพของความเป็น New CBD บนทำเลนี้ จนดูจะเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงกันมากที่สุดเพราะทำเลนี้มีการขยายตัวของพื้นที่อาคารสำนักงานมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปัจจุบันมีปริมาณพื้นเช่าสำนักงานที่มากกว่า 100,000 ตร.ม. ที่สามารถรองรับการขยายตัวของแหล่งงานและธุรกิจบนทำเลใจกลางเมืองที่คึกคักมากๆในตอนนั้น
แต่นั้นคือภาพดีๆ … ที่ถูกสะท้อนออกมาจากมุมมองในการพัฒนาและการเติบโตของโครงการใหม่ๆ ซึ่งเป็นผลที่ตามมาจาก Value ของทำเลความเป็น New CBD และการแห่เข้ามาเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆบนทำเลสี่แยกพระราม 9 กันอย่างคึกคักในตอนนั้น ทำให้ทำเลนี้กลางเป็นทำเลที่มีปริมาณ Supply เติบโตที่สูงมากๆ
ปริมาณ Supply เติบโตที่สูงมาก … จนอาจทำให้ใครหลายคนในตอนนั้นรวมถึงตัวผมเองก็ยังแอบกังวนและวิเคราะห์ไปในแนวทางว่าทำเลนี้กลายเป็นทำเล Over Supply ไปซะแล้ว ถ้าทุกโครงการสร้างเสร็จออกมาในเวลาพร้อมๆกันผลตอบรับของฝั่ง Real Demand จะเป็นยังไงจะตอบรับกับปริมาณขนาดนี้หมดได้ยังไง ?
แต่เมื่อเรากระโดดข้ามกลับมาที่เวลาปัจจุบัน … อ้าว!!! ผิดคาด ทำเลพระราม 9 ในวันนี้กลายเป็นทำเลอันดับหนึ่งของกรุงเทพฯที่ขายดีขายหมดปิดโครงการกันไปหลายตึกแล้ว จนปัจจุบันแทบจะไม่มีของเหลือขายแล้ว แถมราคาก็มีการขยับขึ้นอีกต่างหาก … [ อ้าว!!! พี่โว่ไม่เห็นแม่นเลยไหนพี่เคยวิเคราะห์ไว้ว่า … ทำเลนี้จะกลายเป็นทำเล Over Supply ไงครับ ? ]
เออ … ใช่ครับ ผมวิเคราะห์พลาดไป เพราะตอนนั้นผมวิเคราะห์ปริมาณ Supply บนพื้นฐานของการบริโภคจากฝั่งของกำลังซื้อและ Real Demand คนในประเทศเพียวๆ
ซึ่งสิ่งที่ผมผิดคาดไปนั่นคือ … การหายไปของ Super Tower และการมาถึงของแหล่ง Lifestyle ใหม่ขนาดใหญ่บนทำเลนี้อย่าง JODD Fair ซึ่งทำให้ทำลนี้กลายเป็นทำเลที่มีความคึกคักเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับมากขึ้นมาก จากกลุ่มของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่งผลให้ปริมาณ Supply ของโครงการที่อยู่อาศัยบนทำเลแทนที่จะ Over Supply กลายเป็นเริ่มขาดแคลงแทนซะงั้น เพราะหลายคนที่เป็นกลุ่ม Investor สายปล่อยเช่าก็เข้ามาบริโภค Supply บนทำเลนี้มาปล่อยเช่ากลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กันอย่างคึกคัก … จนปัจจุบันผมต้องยอมรับเลยว่าทุกวันนี้ทำเลพระราม 9 ในมุมของการลงทุนปล่อยเช่ากลายเป็นทำเลที่ได้ผลตอบรับและผลตอบแทนการเช่าที่ดีมากที่สุดในกรุงเทพฯเลยนะครับ
โดยโครงการที่ผมจะขอหยิบยกมาพูดถึงในบทความนี้ ก็เป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับผลตอบรับที่ดีมากๆจากสถานการณ์การขาดแคลง Supply บนทำเลนี้ทั้งในมุมของการอยู่อาศัยและการลงทุนสายปล่อยเช่า โดยเฉพาะในมุมของการปล่อยเช่าเพราะปริมาณนักท่องเที่ยวที่อยู่อาศัยบนทำเลนี้เยอะมากจริงๆ และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากทางภาครัฐฯ โครงการที่ผมจะพูดถึงนั่นก็คือโครงการ IDEO Rama 9 – Asoke by Ananda
IDEO Rama 9 – Asoke by Ananda โครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่มีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งโครงการ 400 ม. จาก MRT พระราม 9 อยู่ฝั่งตรงข้าม JODD FAIR และการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่มีสีสันสดใสรองรับ Activite ที่หลากหลายตอบโจทย์ผู้อยู่ศัยกลุ่มคนรุ่นใหม่
ซึ่งในส่วนของรายละเอียดความน่าสนใจของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ผมคงจะไม่ได้ลงรายละเอียดพูดถึงมากนักนะครับ เพราะบทความนี้ผมอยากจะโฟกัสเนื้อหาเป็นเรื่องของการ Invest มากกว่า โดยจะขอโฟกัสไปที่การวิเคราะห์ ในส่วนของ Unit Plan ต่างๆและนำเสนอไอเดียในการเลือก Unit Plan แบบไหนที่เหมาะหรือน่าสนใจกับการปล่อยเช่าในโครงการนี้กันครับ
โดยโครงการนี้จะมี Unit Plan ทั้งหมดดังนี้ [ Simplex ความสูง Floor To Ceiling 2.7 ม. , Hybrid ความสูง Floor To Ceiling 4.5 ม. ]
Studio [ A , Hybrid A ]ขนาดพื้นที่ 25.50 – 26.50 Sq.m.
1 Bedroom [ B , Hybrid B ]ขนาดพื้นที่ 31.00 – 38.50 Sq.m.
2 Bedroom [ C , Hybrid C ] ขนาดพื้นที่ 52.00 – 90.50 Sq.m.
ซึ่งหากถามว่าถามฝ่ายขายของทางโครงการ ว่า … Unit Plan แบบไหนที่จะเหมาะกับการลงทุนปล่อยเช่ากลุ่มของนักท่องเที่ยวบนทำเลพระราม 9 ?
คำตอบที่ได้ก็น่าจะเป็น … Unit Plan ที่จะตอบโจทย์ทั้งเรื่องของการอยู่อาศัยและผลตอบแทนการเช่าได้มากที่สุดก็คงเป็น Unit Plan : Studio [ A , Hybrid A ]ขนาดพื้นที่ 25.50 – 26.50 Sq.m. และ 1 Bedroom [ B , Hybrid B ]ขนาดพื้นที่ 31.00 – 38.50 Sq.m. ด้วยความลงตัวในเรื่องของขนาดพื้นที่การอยู่อาศัยและต้นทุนของห้องที่จะสอดคล้องกับราคาค่าเช่าและผลตอบแทนได้ดูจะเป็นไปได้มากที่สุดนั่นแหละครับ
ซึ่งในความเป็นจริงก็ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าหากใครไปชมที่โครงการจริงๆแล้วโครงการนี้จะมี Layout ให้เราเลือกที่หลากหลายอยู่พอสมควรใครชอบ Layout ไหนที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของตัวคุณก็เลือกก็จัดกันได้นะครับ
แต่ในส่วนของห้องตัวอย่างตอนนี้ที่โครงการเค้าจะมีห้องตัวอย่างให้เราได้ชมกันทั้งหมด 5 แบบ ซึ่งจะเป็นห้องในสไตล์ Simplex และ Hybrid ที่จะมีการตกแต่งมาให้แบบ Fully Furnished เพื่อให้พร้อมสำหรับการอยู่อาศัยและปล่อยเช่าได้เลยนั่นเองครับ ดังนั้นในบทความนี้ผมจะขอโฟกัสพูดถึงเฉะาพในส่วนของห้องตัวอย่างทั้ง 5 แบบของโครงการนี้พอเพื่อให้ทุกคนเข้าใจรายละเอียดการออกแบบกันได้ง่ายที่สุดนั่นเองครับ
Studio [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 25.50 – 26.50 Sq.m.
สำหรับ Unit Plan : Studio [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 25.50 – 26.50 Sq.m. จะเป็นห้องในรูปแบบเริ่มต้นของโครงการนี้ โดยจุดเด่นของ Unit Plant จะเป็นเรื่องของขนาดพื้นที่และ Space ของตัวห้องที่มีความอิมแพคออกแบบมาได้ดูโปร่งกว้างมาก โดยเฉพาะส่วนของพื้นที่ Function : Living + Bedroom และตำแหน่งการวางส่วนของโต๊ะทำงานอ่านหนังสือที่ถูกจัดวางไว้ใกล้เฟรมกระจกก็มีความลงตัวกับพื้นที่
ส่วนของตำแหน่ง Function : Kitchen + Bathroom จะอยู่บริเวณพื้นที่ด้านหน้าทางเข้าของตัวห้อง โดยทั้ง 2 พื้นที่ Function นี้จะมีการกั้นฉากกั้นกระจกใสบานเลื่อนให้แยกสัดส่วนของพื้นที่เหล่านี้จะพื้นที่อื่นๆด้านใน
สำหรับ Unit Plan : Studio [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 25.50 – 26.50 Sq.m. ราคาขายในปัจจุบันจะอยู่ที่ 3.89 ลบ* , ราคาประมาณการในส่วนของค่าเช่าต่อเดือนจะอยู่ที่ 15,000 – 16,000 บาทต่อเดือน*
1 Bedroom [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 31.00 Sq.m.
สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 31.00 Sq.m. ในมุมของการอยู่อาศัยสำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนมากขึ้นในการอยู่อาศัยในพื้นที่ Function ต่างภายในห้อง Unit Plan นี้จะตอบโจทย์มากๆครับ เพราะพื้นที่ Function ต่างๆมีการกันสัดส่วนของพื้นที่กันอย่างชัดเจน
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom ของ Unit Plan นี้นอกจากจะได้ขนาดของพื้นที่ที่มีความลงตัวและมีเฟรมหน้าต่างด้างข้างเปิดรับแสงและวิวแล้ว พื้นที่ในส่วนนี้ก็ยังได้เป็นประตูทึบที่จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายใน Function นี้อีกด้วยนะครับ
สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 31.00 Sq.m. ราคาขายในปัจจุบันจะอยู่ที่ 4.99 ลบ* , ราคาประมาณการในส่วนของค่าเช่าต่อเดือนจะอยู่ที่ 18,000 – 20,000 บาทต่อเดือน*
1 Bedroom [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 34.00 Sq.m.
สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 34.00 Sq.m. นอกจากจะมีขนาดของพื้นที่โดยรวมที่เพิ่มมากขึ้น ในส่วนของการออกแบบพื้นที่ Function ต่างๆภายในตัวห้องสำหรับ Unit Plan นี้ทางโครงการจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ในส่วนของ Function : Bedroom ที่เป็นจุดเด่นของ Unit Plan นี้เป็นหลักนะครับ
ซึ่งเมื่อเราเปิดเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen + Dining และ Living รวมกันอยู่ในพื้นที่เดียวกันทั้งหมด และมีการเพิ่มช่องแสงด้านข้างให้กับตำแหน่งของโซฟา เพื่อช่วยเรื่องของแสงสว่างและความโปร่งโล่งในการอยู่อาศัยให้กับพื้นที่โดยรวมของห้องนี้นั่นเองครับ
พื้นที่ Function : Bedroom ของ Unit Plan นี้ นอกจากจะได้ขนาดของพื้นที่ที่ใหญ่มากขึ้นเยอะเมื่อเที่ยบกับสัดส่วนของพื้นที่อื่นๆ ภายในยังเป็นทางเข้าออกในส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom อีกด้วยนั่นเองครับ ส่วนบริเวณพื้นที่ด้านหน้าทางเข้า Function : Bathroom ทางโครงการยังมีการ Built In ในส่วนของตู้เสื้อผ้าไว้รองรับให้ได้ Feel ความเป็น Walk In Closet เพิ่มเติมมาให้ด้วยนะครับ
สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 34.00 Sq.m. ราคาขายในปัจจุบันจะอยู่ที่ 5.39 ลบ* , ราคาประมาณการในส่วนของค่าเช่าต่อเดือนจะอยู่ที่ 18,000 – 20,000 บาทต่อเดือน*
Studio [ Hybrid ] ขนาดพื้นที่ 25.50 Sq.m.
สำหรับ Unit Plan : Studio [ Hybrid ] ขนาดพื้นที่ 25.50 – 26.50 Sq.m. จุดเด่นของการออกแบบ Unit Plan ในสไตล์นี้นั่นก็คือเรื่องของ Floor To Ceiling ระดับ 4.5 เมตร ที่จะช่วยให้ความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่แตกต่างและดูโปร่งโล่งมากๆ
โดยการจัดวางพื้นที่ Function ต่างๆภายในตัวห้องนี้ เมื่อเราเปิดเข้ามาภายในตัวห้องจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen + Bathroom ที่จะมีการกั้นส่วนของพื้นที่นี้ออกจากพื้นที่ด้านในด้วยฉากกั้นกระจกใสบานเลื่อนเพื่อความเป็นสัดส่วน
ส่วนของพื้นที่ Function : Living ของ Unit Plan นี้ถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมากๆจากความสูงของพื้นที่ในส่วนนี้ที่ได้ระดับความสูงถึง 4.5 เมตร ในมุมของการอยู่อาศัยจริงในพื้นที่ Function นี้เราจะมิติการอยู่อาศัยที่มีความแตกต่างจากการอยู่อาศัยในรูปแบบเดิม จากความรู้สึกโปร่งโล่งที่มากขึ้นเยอะแบบเยอะมากๆครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom จะอยู่บริเวณพื้นที่ด้านบนของตัวห้อง โดยแม้ในส่วนความสูงของพื้นที่ในส่วนนี้จะมีการ Drop ความสูงลง แต่ขนาดพื้นที่โดยรวมก็ยังคงได้ขนาดพื้นที่ที่ใหญ่และกว้างลงตัวอยู่สามารถจัดวางในส่วนของเตียงนอนขนาดใหญ่และ Built In ส่วนของตู้เสื้อผ้าไว้บริวเณด้านข้างได้แบบสบายๆนะครับ
สำหรับ Unit Plan : Studio [ Hybrid ] ขนาดพื้นที่ 25.50 Sq.m. ราคาขายในปัจจุบันจะอยู่ที่ 5.29 ลบ* , ราคาประมาณการในส่วนของค่าเช่าต่อเดือนจะอยู่ที่ 20,000 – 25,000 บาทต่อเดือน*
1 Bedroom [ Hybrid ] ขนาดพื้นที่ 34.00 Sq.m.
สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom [ Hybrid ] ขนาดพื้นที่ 34.00 Sq.m. จุดเด่นเลยสำหรับการออกแบบพื้นที่ของ Unit Plan นี้ก็คือ พอปรับให้เป็นรูปแบบห้องในสไตล์ Hybrid นอกจากความโปร่งโล่งที่ได้จากความสูง Floor To Ceiling ระดับ 4.5 เมตรแล้วก็ยังจะได้พื้นที่ในส่วนของห้องอเนกประสงค์เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วยนั่นเองครับ
โดยในส่วนของพื้นที่ Function : ห้องอเนกประสงค์ ที่มีการเพิ่มเติมเข้ามา จากภาพห้องตัวอย่างทางโครงการมีการตกแต่งพื้นที่ในส่วนนี้ให้เป็นมุมห้องทำงานที่ดูลงตัวมากๆ แต่หากใครจะประเป็นพื้นที่ห้องนอนเล็ก ด้วยขนาดของพื้นที่ที่ถือว่ากำลังลงตัวก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรูปแบบการใช้งานของแต่ละคนนะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom ที่จะอยู่บริเวณพื้นที่ด้านบนของตัวห้อง ด้วยความที่ทางโครงการต้องการออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้ให้อยู่ติดกับเฟรมหน้าต่างของตัวห้องและต้องการเปิดพื้นที่ความสูงให้กับส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining ให้ได้มากที่สุด
ดังนั้นในส่วนของบันไดและทางเดินขึ้นชั้นบนของ Unit Plan นี้ก็อาจจะดูจัดวางพื้นที่แปลกๆหรือเสียพื้นที่มากไปอยู่สักหน่อย แต่ด้วยความกว้างของขนาดพื้นที่โดยรวมของตัวห้องผมก็ยังมองว่าโดยรวมถือว่าทางโครงการพยายามออกแบบมาได้ดีมากๆแล้วนะครับ [ เพิ่มเติม … สำหรับ Unit Plan นี้หากใครที่อยู่อาศัยจริง บริเวณทางเดินผมว่าใช้เป็นพื้นที่โชว์ Art Gallery / Art Toys ของสะสมก็เพิ่มสีสันและลงตัวอยู่นะครับ ]
สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom [ Hybrid ] ขนาดพื้นที่ 34.00 Sq.m. ราคาขายในปัจจุบันจะอยู่ที่ 6.99 ลบ* , ราคาประมาณการในส่วนของค่าเช่าต่อเดือนจะอยู่ที่ 26,000 – 30,000 บาทต่อเดือน*
ก็จะประมาณนี้นะครับกับส่วนของการวิเคราะห์รายละเอียดการออกแบบ Function Layout ของห้องตัวอย่างทั้ง 5 แบบของโครงการนี้ที่เป็น Unit Plan ที่ดูจะเข้าข่ายที่ดูแล้วน่าสนใจและน่าจะตอบโจทย์สำหรับใครที่เป็นสาย Invest ปล่อยเช่า ที่กำลังสนใจอยากจะลงทุนปล่อยเช่าในโครงการนี้บนทำเลที่ถือว่ากำลังได้รับความสนใจจากตลาดเช่าโดยเฉพาะชาวต่างชาติอย่างทำเลพระราม 9 นี้
แล้วถ้าจะให้ผมเลือกแนะนำละ ว่า … Unit Plan ไหนของโครงการนี้ที่ดูน่าจะตอบโจทย์ในมุมมองของการปล่อยเช่ามากที่สุดในมุมมองของผม ?
ก็ขอตอบง่ายๆแบบไม่ต้องคิดเลยนะครับ … Studio [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 25.50 – 26.50 Sq.m. คือ คำตอบนั้น หากมองจากการกดเครื่องคิดเลข บวก ลบ คูณ หาร ทั้งงบและความเสี่ยง
.
.
.
.
.
เดี๋ยวๆ พี่ แบบนี้มันก็ง่ายไปมั้ยครับ ใครก็พูดได้บอกแบบนี้กันได้ละมั้งครับพี่ ?
5555 ผมล้อเล่นนะครับ … มาๆอันนี้ตอบแบบจริงจังแหละนะครับ หากเราประเมิณจากปริมาณและ Supply ปล่อยเช่าทังหมดบนทำเลนี้ดีๆ ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งของเรา และเมื่อเทียบกับกำลังจ่ายของชาวต่างชาติในการเช่าที่อยู่อาศัยบนทำเลนี้ หากคุณต้องการมองหาความแตกแต่งและเพิ่มความน่าสนใจในการปล่อยเช่าห้องพักของคุณบนทำเลนี้ … ผมอยากจะขอแนะนำให้เลือกพิจารณาเป็น Unit Plan : 1 Bedroom [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 31.00 Sq.m. หรือ 1 Bedroom [ Hybrid ] ขนาดพื้นที่ 34.00 Sq.m. / 1 Bedroom [ Hybrid ] ขนาดพื้นที่ 34.00 Sq.m.
สำหรับ 1 Bedroom [ Simplex ] ขนาดพื้นที่ 31.00 Sq.m. ผมมองว่าตอบโจทย์ในมุมของการอยู่อาศัยจริงในระยะยาวตอบโจทย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการความเป็นสัดส่วนของพื้นที่ในการอยู่อาศัยในแต่ละ Function ที่ชัดเจน และหาเทียบกับ Supply ส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้บนทำเลนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องในขนาดพื้นที่ 25 ตร.ม.กันเยอะอีกด้วยนั่นเองครับ
สำหรับ Unit Plan สไตล์ Hybrid ทั้ง 2 ขนาด ผมมองจากพื้นที่ฐานกลุ่มผู้เช่าที่มีกำลังจ่ายและความแตกต่างในมิติของการอยู่อาศัยเป็นจุดดึงดูความน่าสนใจให้กับคนที่อยู่อาศัยบนทำเลนี้ เพราะต้องยอมรับว่าห้องในรูปแบบสไตล์ Hybrid บนทำเลนี้ Hybrid ของโครงการนี้ดูจะตอบโจทย์มากๆ และมีคู่แข่งในการเปรียบเทียบที่น้อยมากๆอีกด้วยนะครับ … ส่วนที่เหลือก็อยู่ที่งบประมาณของแต่ละคนนะครับว่าแบบไหนจะตอบโจทย์การลงทุนของคุณมากกว่ากัน
สุดท้ายนี้ … ในมุมมองของการลงทุนอสังหาฯโดยเฉพาะในมุมของการปล่อยเช่า สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดอาจไม่ใช่เรื่องของทำเล หรือ ราคาแต่เพียงเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดมันคือ Demand และกำลังในการจ่ายของ Demand บนทำเลนั้นๆ ซึ่งปัจจัยทั้งหมดที่ได้กล่าวมามันก็กลายเป็นส่วนผสมลงตัวที่เป็นทำเลพระราม 9 ในวันนี้
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลย … จากทำเลที่เคยได้ชื่อว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นทำเลที่อาจจะเกิดภาวะ Over Supply เมื่อหลายปีก่อน วันนี้จะกลับกลายเป็นทำเลยอดฮิต ทั้งในมุมของการอยู่อาศัยเองของ Real Demand คนรุ่นใหม่วัยทำงานและการลงทุนปล่อยเช่ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปัจจุบัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลนี้หรือกำลังสนใจโครงการนี้อยู่ ก็สามารถแวะเข้าไปชมโครงการจริงและห้องตัวอย่างทั้ง 5 แบบ ของโครงการนี้กันได้ก่อนการตัดสินใจกันนะครับ ส่วนใครที่มีคำถามหรืออยากพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองที่มีเกี่ยวกับโครงการนี้ก็สามารถพิมพ์เข้ามาพูดคุยกันได้ในช่องทาง Inbox เหมือนเช่นเคยนะครับ
เพิ่มเติม …
IDEO Rama 9 – Asoke by Ananda
ซึ่งตอนนี้ทางโครงการเค้ากำลังทำราคาพิเศษห้อง Fully Furnished แถมมาพร้อมกับโปรฯ อยู่ฟรี 1 ปี
Studio เริ่ม 3.89 ลบ. , Studio Hybrid เริ่ม 5.29 ลบ.*
สามารถลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารโครงการนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://anan.ly/3sKP8xl
หรือติดต่อผ่านช่องทาง Line OA : @ideocondo
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม
