Project : The Teak Sathorn – Lumpini by Teak Development
ถ้าถามว่า ให้คุณเลือกทำเลใจกลางเมือง ทำเลใดที่คุณจะเลือกเพื่อสำหรับการอยู่อาศัย ? ผมเชื่อเหลือเกินว่าหนึ่งในทำเลยอดนิยมที่ใครหลายคนจะคิดถึง หนึ่งในนั้นต้องมีทำเลอย่าง สาทร หรือ ลุมพินี เป็นคำตอบของทำเลที่มีคนเลือกเพื่อการอยู่เป็นลำดับต้นๆในสยามประเทศแห่งนี้แน่นอน
มีเหตุและผลมากมายที่เป็นตัวบ่งชี้ว่า ทำไม สาทร ถึงได้เป็นทำเลในฝันสำหรับการอยู่อาศัยของใครหลายๆคน …
– สาทร คือ ทำเล CBD ที่ได้ชื่อว่า Real CBD ทำเลที่เป็น ศูนย์กลางย่านธุรกิจ เศรษฐกิจ ของประเทศอย่างแท้จริง ณ.ปัจจุบัน
– สาทร คือ ทำเลที่เป็นศูนย์กลางของกรุงเทพฯ และ การเดินทางเชื่อมต่อกับสถานที่สำคัญๆต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยตัวเลือก หรือ รูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย
– สาทร คือ ทำเลที่มีมูลค่า หรือ ที่ดินมีราคาซื้อขายสูง ติดอันดับต้นๆของประเทศ
– สาทร คือ ทำเลที่เป็นศูนย์รวมของโครงการคอนโดในระดับ Luxury มากมาย
หรือหนึ่งในเหตุและผลที่มีความเฉพาะเจาะจง สำหรับใครบางคน หรือ คนบางกลุ่ม คือ เพราะ สาทร คือ ทำเล ที่อยู่ใกล้กับสวนลุมพินี สวนสาธารณะ ที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ กว่า 360 ไร่ ที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ และเป็นพื้นที่ให้สำหรับคนเมืองที่รักสุขภาพไปออกกำลังกันยามเช้า – ยามเย็น
ซึ่งเหตุและผลทั้งหมดที่ผมกล่าวมานั้น ผมเชื่อว่าล้วนแล้วแต่เป็นเหตุและผลที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณค่าของทำเล สาทร ซึ่งส่งผลต่อความน่าสนใจที่อยู่อาศัย หรือ โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆที่มาพัฒนาในทำเลนี้ และ อีกหนึ่งโครงการที่ผมกำลังจะยกมาพูดในบทความนี้ นั้นก็คือ โครงการการ Project : The Teak Sathorn – Lumpini byTeak Development
ความน่าสนใจของโครงการ The Teak Sathorn – Lumpini by Teak Development นอกเหนือจากเรื่องของทำเลความเป็นสาทรแล้ว ความน่าสนใจของโครงการนี้ก็คือ ราคาต่อยูนิตแบบ Fully Furnished ที่เริ่มต้นเพียง 3.3 ล้านบาท และ ราคาบาทต่อตร.ม.เฉลี่ยเพียง 135,000 บาทต่อตร.ม. คอนโดมิเนียมทำเลสาทร Fully Furnished ราคาต่อตร.ม. แสนต้นๆ ยังมีอยู่อีกเหรอ ? ยังมีอยู่ครับ … ก็ราคายูนิตเริ่มต้นของโครงการ The Teak Sathorn – Lumpini by Teak Development นี้แหละครับ
โหหหหห… พี่ ก็โครงการเค้าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมรูปแบบ Low Rise ราคามันก็ต้องไม่สูงอยู่แล้วปะ ? ก็โครงการทั่วๆไปอะพี่ ไม่เห็นจะว้าววววว… ตรงไหนเลย
เออ… จริงครับ ถ้าสำหรับใครที่มองแต่เรื่องของราคาต่อยูนิต หรือ ราคาแพกแต่เพียงอย่างเดียว ก็คงไม่แปลกที่จะมองว่าโครงการนี้ราคาไม่เห็นจะว้าวตรงไหนเลย แต่สิ่งที่ผมเห็นและอยากจะถ่ายทอดความน่าสนใจของโครงการนี้จริงๆนั้น มันไม่ใช่แต่เพียงแค่เรื่องของราคายูนิตหรอกนะครับ เพราะถ้าจะให้ผมบอกว่าโครงการ The Teak Sathorn – Lumpini by Teak Development เป็นโครงการที่น่าสนใจเพราะเป็นยูนิตราคาเพียง 3 ล้านต้น บททำเลสาทร ราคานี้หาไม่ได้แล้ว ราคาดีที่สุดบนทำเลที่ดีที่สุด บลา บลา บลา … และจบเลย นั้นคงไม่ใช่บทความตาม Style ของเพจ Inso Condo เป็นแน่ … >/////<
แต่เดียวก่อน ความน่าสนใจของโครงการ The Teak Sathorn – Lumpini by Teak Development ในมุมที่ผมอยากจะขอนำเสนอสำหรับโครงการนี้นั้น จริงๆแล้ว คือ เรื่องของ Unit Plan โดยเฉพาะในส่วนการออกแบบ Layout และ การจัดวางพื้นที่ใช้สอยในแต่ละ Function ภายในห้อง
เพราะจริงๆแล้ว โครงการภายใต้แบรนด์ The Teak โครงการนี้ ไม่ใช่โครงการแรกของ Dev เจ้านี้หรอกนะครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยได้ติดตามการพัฒนาโครงการของ Dev เจ้านี้ มาก่อนหน้านี้มาบ้างแล้ว ซึ่งโครงการที่ทำให้ผมรู้จักและชื่นชอบ Dev เจ้านี้ นั้นคือ โครงการ The Teak Sukhumvit 39 โครงการที่โดดเด่นด้วยการออกแบบ Unit Plan ที่มีความน่าสนใจและส่วนตัวผมเองก็มองว่าเป็น Unit Plan ที่มีความลงตัวและเหมาะแก่การอยู่อาศัยได้จริง
ทั้งหมดที่กล่าวมา คือที่มาที่ทำให้ผมอยากจะเขียนบทความ Project : The Teak Sathorn – Lumpini by Teak Development ในครั้งนี้ ซึ่งสำหรับบทความนี้นอกจากทุกคนจะได้รับรู้ Project Information ของโครงการนี้แล้ว ผมจะทำการวิเคราะห์ในส่วนของ Unit Plan ของโครงการนี้ ที่ผมมองว่าเป็น Unit Plan ที่มีความลงตัวและน่าสนใจเพิ่มเติมให้อีกด้วยนะครับ ดั้งนั้นก็อื่น เราก็ไปเริ่มต้นกันในส่วนของข้อมูล Project Information ของโครงการนี้กันก่อนเลยก็แล้วกันนะครับ
Project Information :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ซอย ศรีบำเพ็ญ ถนน พระราม 4 แขวง ช่องนนทรี เขต ยานนาวา กทม. 10210
ขนาดที่ดิน : 0 – 2 – 64 ไร่ : 264 ตร.ว. (ขนาดที่ดินถือว่าไม่ใหญ่)
ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : 78 ยูนิต
Unit Type : โดยโครงการนี้ Unit Type ทั้งหมดจะเป็นรูปแบบของ 1 Bedroom 1 Bathroom
Type A : 25.1 Sq.m.
Type B : 28.8 Sq.m.
Type C : 31.72 Sq.m.
Type D : 31.4 Sq.m.
Type E : 32.35 Sq.m.
Type F : 34.0 Sq.m.
Type G : 31.9 Sq.m.
Type H : 35.1 Sq.m.
Type I : 44.3 Sq.m. (1 Bedroom Plus)
หมายเหตุ : สิ่งที่ทางโครงการใส่เพิ่มเติมเข้ามาให้ภายในของแต่ละยูนิตในโครงการ
1. เฟอร์นิเจอร์ built-in (Fully Furnished)
2. ระบบ home automation
– Lighting Control
– Air conditioner control
– Entertainment control TV Home theatre
– ควบคุมทุกอุปกรณ์ผ่าน แอพบนสมาร์ทโฟน และ ตัว Master switch control ที่มี LCD display
– สำหรับใครอยากจะเพิ่มลูกเล่น ก็ยังสามารถเพิ่มอุปกรณ์ Automation อื่นๆ เช่น ม่านไฟฟ้า , CCTV เซ็นเซอร์ และ ยังควบคุมอปุกรณีไฟฟ้าอื่นๆได้อีก
Floor Plan : จำนวนยูนิตต่อชั้นจะอยู่ที่ 9 – 12 ยูนิตเท่านั้น ถือว่าเป็นโครงการที่มีความหนาแน่นในการอยู่อาศัยที่น้อยมากๆ
Fl. 2 : เป็นยูนิตพักอาศัย , Fitness , Lobby / Locker
Fl. 3 – 8 : ยูนิตพักอาศัย
Roof FL. : Rooftop Swimming Pool With Stunning Scene Of Bangkok’s Skyline
Facilities : Open -Veiw Fitness Surrounded by Trees , Rooftop Swimming Pool With Stunning Scene Of Bangkok’s Skyline , Sala Chiling Lounge , Co-Working Space , Smart Locker , Home Automation , EV Charger
จำนวนที่จอดรถ : 36% + EV Charger (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
ค่าส่วนกลางและค่ากองทุน : 55 / 500 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 3.3 ล้านบาท** ; Fully Furnished (ราคาเฉลี่ยประมาณ 127,000 บาทต่อตร.ม.)
และในส่วนของ Unit Plan ของโครงการนี้ Unit Plan ที่ผมจะขอเลือกนำมา วิเคราะห์ ความน่าสนใจ ผมจะขอเลือกนำมาวิเคราะห์ ให้อ่านกันเพียง 2 Unit Plan เท่านั้นนะครับ ซึ่งทั้ง 2 Unit Plan นั้นจะตรงกับ Unit Plan ที่เป็น Show Unit ที่สำนักงานขายของโครงการ (เผื่อสำหรับใครที่อ่านบทวิเคราะห์ แล้วอยากไปชมของจริงจะได้มีไอเดียในการเลือกมากยิ่งขึ้นนะครับ)
Unit Plan : 1 Bedroom Type C ขนาด 31.72 Sq.m. (Mode หลักของโครงการ)
1 Bedroom Type C ขนาด 31.72 Sq.m. การออกแบบ Layout ต้องบอกเลยว่าเป็น Unit Plan ที่ออกแบบมาแบบเราๆท่านๆเข้าใจกันได้ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่สำหรับใครที่สนใจคอนโดมิเนียมช่วงหลัง เวลาไปดูอาจจะรับรู้ได้ถึงความต่างบางอย่าง ความต่างที่ผมกำลังจะพูดถึงนั้นคือเรื่องของขนาดพื้นที่ห้อง เวลาที่เราเข้าไปดูจะเห็นความกว้างของห้องก็ดูเหมือนโครงการทั่วๆไป
แต่สำหรับ Unit Plan นี้ ด้วยขนาดพื้นที่ 31.72 Sq.m. พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมา คือ พื้นที่ตอนลึกของห้อง แล้วพื้นที่ตอนลึกในส่วนนี้ ก็ทำให้ Unit Plan นี้ มี Function เพิ่มขึ้นมา แบบเป็น Function ที่สามารถใช้ได้จริงไม่ใช่จับยัดมาลงใน Unit Plan เพื่อขายฝันแต่อย่างใด อย่างส่วนของตู้เสื้อผ้าที่สามารถจัดวางให้ได้อารมณ์เป็น Walk in Closet ได้จริง หรือตำแหน่งการวางส่วนของ Dining ที่พอวางตรงบริเวณชิดบานหน้าต่างก็ดูจะไม่เกะกะ หรือ แน่นแต่อย่างใด
การแบ่งพื้นที่ Function ของ Living + Kitchen + Dining กับส่วนของ Function : Bedroom จะใช้เป็นบานเลื่อนไม้ 3 ตอน (แบบทึบ) เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ของ Function : Bedroom
แบบบานเลื่อนไม้แบบทึบ กับ แบบบานกระจกใส ส่วนตัวมองว่าจริงๆแล้วแบบบานทึบจะได้ความเป็นส่วนตัวในพื้นที่แต่ละ Function มากกว่า แต่ที่เราจะชอบเห็นหลายๆโครงการใช้เป็นบานกระจกใส เป็นฉากกันบานเลื่อน นั้นเป็นเพราะข้อจำกัดของขนาดพื้นที่ห้องที่มีพื้นที่น้อยกว่านี้มาก ถ้ายิ่งใส่เป็นบานทึบจะยิ่งอึดอัดกันเข้าไปใหญ่
ส่วนของ Function : ระเบียง จะอยู่เชื่อมต่อกับส่วนของ Function : Bedroom เช่นเดียวกับ Bathroom ที่จะต้องเดินผ่านพื้นที่ Function : Bedroom ในส่วนของ Function : Bathroom จะเป็นรูปแบบ 3 Fixture มีฉากกันอาบน้ำแยกส่วนของพื้นที่เปรียก-แห้ง
ภาพรวมสำหรับ 1 Bedroom Type C ขนาด 31.72 Sq.m. ผมมองว่าน่าจะตอบโจทย์สำหรับคนทุกกลุ่ม ที่มองเรื่องของ Function และ พื้นที่ใช้สอยในการอยู่อาศํยที่สามารถใช้ได้จริงในทุกๆตร.ม. น่าจะถูกใจสำหรับ Unit Plan นี้นะครับ
Unit Plan : 1 Bedroom Plus Type H ขนาด 44.3 Sq.m. (เป็นยูนิตทรงสีเลี่ยงคางหมูปรับตามรูปด้านของตัวอาคาร)
สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom Plus Type H ขนาด 44.3 Sq.m. ที่จริงผมอยากจะเลือก Unit Plan อื่นๆมาวิเคราะห์เหมือนกัน แต่กลัวบางคนอ่านแล้วจะ งง หรือ ไม่เห็นภาพ ก็เลยเลือกตาม Show Unit ที่โครงการมี มาทำการวิเคราะห์ (ผมเชื่อว่าถ้าใครอ่านบทความนี้จบ แล้วค่อยไปดู Show Unit ที่สำนักงานขายโครงการ แล้วคุณจะสนุกกับการเลือกดู และ มีความเข้าใจ Function ของแต่ละพื้นที่แน่นอน)
เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะมีมุมเล็กๆที่สามารถทำเป็นชั้นหรือตู้เก็บรองเท้า เพิ่มความเรียบร้อย เป็นระเบียบ ในส่วนของทางเข้า ส่วนของ Function : Kitchen + Dining ด้วยความที่เชื่อมต่อเป็นส่วนพื้นที่เดียวกัน จะทำให้อารมณ์ของ Funciton : Kitchen เป็นรูปตัว U เพิ่มความเป็นสัดส่วนเข้ามุม
ส่วน Function ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นพระเอกสำหรับ Unit Plan นี้เลยก็คือ พื้นที่ส่วนของ Function : Living + ห้องอเนกประสงค์ คือถ้าแต่งตามห้องตัวอย่าง จะมีการทำเป็นผนังกระจก แบ่งพื้นที่เป็นห้องอเนกประสงค์ชัดเจน แต่ถึงแม้จะมีการแบ่งกั้นพื้นที่ห้องอเนกประสงค์เพิ่มเข้ามา ด้วยขนาดพื้นที่ของ Function : Living ก็ยังดูกว้างขวางอยู่ดี (เป็นเพราะอะไรนึกออกมั้ยครับ … เพราะ การที่ออกแบบให้ Dining เป็นแบบ Bar และรวมกันเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งกับ Function : Kitchen เลยทำให้พื้นที่ Function : Living มีพื้นที่เปิดโล่งได้เต็ม โครงการเค้าละเอียด เข้าใจคิด และ ออกแบบจัดวาง Function มาได้ดีเลยครับ)
แต่สำหรับใครที่มองว่าการแบ่งพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ดูจะเกะกะ อันนี้ถ้าจองแล้วจะเอาออกก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าผมแนะนำผมว่าแต่งแบบห้องตัวอย่างโครงการก็ดูลงตัวแล้วนะครับ (ขึ้นอยู่กันความต้องการใช้พื้นที่ของแต่ละคนและ)
ส่วนของ Function : Bathroom จะเป็นรูปแบบ 3 Fixture มีฉากกันอาบน้ำแยกส่วนของพื้นที่เปรียก-แห้ง เช่นกัน แต่ที่แตกต่างและเพิ่มเติมเข้ามาคือจะสามารถเข้าออกได้จากทั้ง 2 Function ทั้งส่วนของ Function : Bedroom และ Living ก็สะดวกและหลายคนน่าจะชอบนะครับ
สรุปภาพรวมของ Unit Plan : 1 Bedroom Plus Type H ขนาด 44.3 Sq.m. ถ้าดูจากมุมป้าน ในส่วนของบานหน้าต่าง + ระเบียง ถ้าสำหรับคนที่ไม่บ้าอะไรที่เป็นเส้นตรงแบบผม ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไร เพราะจริงๆแล้ว Unit Plan นี้ถือว่าออกแบบ Function มาได้ดูน่าสนใจ และ น่าอยู่อาศัยจริงมากๆ
แต่ถ้าถามผมว่าถ้าติดเรื่องทุกอย่างต้องเป็นเส้นตรงแบบผม จะรับห้องนี้มั้ย? ส่วนตัวผมว่าผมก็ยังรับได้นะครับ เพราะ ส่วนที่เป็น First Impression เวลาที่เราเปิดประตูห้องเข้ามาภายในห้อง อย่างพื้นที่ Function : Living ก็ยังเป็นพื้นที่ที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสอยู่นะครับ ^^
ก็จะประมาณนี้นะครับ สำหรับโครงการ The Teak Sathorn – Lumpini by Teak Development โครงการที่ผมมองว่าสำหรับใครที่มองหาที่อยู่อาศัยในเมืองอย่างทำเล สาทร พระราม 4 แล้วสนใจโครงการคอนโดมิเนียม รูปแบบ Low Rise ที่มีจำนวนยูนิตในโครงการไม่เยอะ และที่สำคัญคือ อยากได้ Unit Plan ที่เน้นการออกแบบในการให้กับทุกพื้นที่ภายในห้องให้สามารถใช้ได้จริง ผมว่าโครงการ The Teak Sathorn – Lumpini by Teak Development เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจและน่าจะตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคุณได้แน่นอน
และสำหรับใครที่สนใจก็แวะไปดูห้องตัวอย่างที่โครงการ (แล้วถ่ายรูปมาอวดผม หรือ พิมพ์มาพูดคุยกันได้นะครับ ว่าที่ผมวิเคราะห์ไปมีตรงไหนที่ขาดตกไปก็มาคุยกันได้เนอะ)
ส่วนโครงการเค้าจะมีจัดงาน Exclusive Pre-Sale ในวันที่ 21-22 กรกฎาคม 2561 นี้
โดยเงื่อนไขการจองสิทธิ์เพียง 9,000 บาท ได้ส่วนลดพิเศษ 100,000 บาท และ จองทำสัญญา รับฟรีของแถม 3 รายการ
ลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ที่ http://www.theteakcondo.com/
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 0992314433, 0957469891
Facebook: The TEAK Condo
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ