Project : The Esse Singha Complex by Singha Estate
ด้วยความที่กรุงเทพฯ คือหนึ่งในเมืองที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลายๆครั้งที่เรามักจะได้เห็นรูปแบบการพัฒนาพื้นที่หรือโครงการที่เป็นรูปแบบของโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ในทำเลโซนต่างๆ ทั้งที่ถูกสอดแทรกการพัฒนาให้อยู่ในทำเลใจกลางเมือง Prime Area หรือ พื้นที่ที่อยู่รอบนอกของกรุงเทพฯ ตามแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสถานีสายสีต่างๆ
โดยรูปแบบการพัฒนาโครงการในรูปแบบ Mixed Use ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่นั้น เมื่อถึงเวลาที่โครงการเหล่านี้ก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบ สิ่งหนึ่งที่เรามักจะสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน นั้นก็คือ รูปแบบไลฟ์ไสต์ของคนที่เคยอยู่อาศัยในทำเลนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยจะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบมีการยกระดับให้สูงขึ้นตามรูปแบบการพัฒนาของโครงการ Mixed Use ที่มาเปิดให้บริการในทำเลนั้นๆ
ซึ่งหนึ่งในโครงการ Mixed Use ที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเข้ามายกระดับไลฟสไตล์การดำรงชีวิตของผู้คนในทำเลนั้นๆ ได้อย่างเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบที่ชัดเจนมากๆโครงการหนึ่งนั้นก็คือ โครงการ Singha Complex จากทาง Singha Estate ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลสี่แยกอโศก-เพชรบุรี (เดิมทีเคยเป็นที่ดินสถานฑูตญี่ปุ่นเก่า) โดยรูปแบบของโครงการถูกออกแบบให้มีทั้งพื้นที่ส่วนที่เป็นพื้นที่อาคารสำนักงาน Office Building , Retail Shop , Convention และส่วนที่เป็น Residence นั้นก็คือโครงการ The Esse Singha Complex by Singha Estate
โดยส่วนของพื้นที่ในส่วนหลักของโครงการ Singha Complex นั้นได้เปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 หรือช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งก็อย่างที่ผมได้บอกไปนะครับ ว่าหลังจากที่เปิดให้บริการมาสักพักเราจะสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องของกายภาพของทำเลและไลฟสไตล์ของคนที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก
แต่ในส่วนของการพัฒนาโครงการ Singha Complex นั้นยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ อีกส่วนหนึ่งของโครงการนี้ที่ผมอยากจะขอมานำเสนอสำหรับบทความนี้ นั้นก็คือในส่วนของโครงการ The Esse Singha Complex by Singha Estate นั้นเอง
นอกจากที่โครงการนี้จะเป็นหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ระดับ Luxury บนทำเลนี้แล้ว ความน่าสนใจของโครงการนี้ยังมีอะไรที่ผมอยากจะขอพูดถึงเพิ่มเติมอีก … หากใครหลายๆคนจะยังพอจำกันได้ว่าช่วงที่โครงการ The Esse Singha Complex by Singha Estate นั้นเปิดตัวช่วงแรก หรือ ช่วง PreSale แม้ว่าเรื่องของราคาต่อตร.ม.ของโครงการนี้จะถูกจัดให้เป็นราคา New High ของโครงการที่อยู่ตั้งอยู่บนทำเลนี้ในเวลานั้น แต่กระแสตอบรับกับยอดขายของโครงการนี้ออกมาดีมากๆครับ
ซึ่งในตอนนั้นทางโครงการก็มองว่าอยากที่จะเก็บบางยูนิตในบางชั้นบางตำแหน่งไว้สำหรับรอตกแต่ง Furniture และรอกลับมาเปิดขายอีกครั้งตอนที่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ โดย Unit เหล่านั้นทางโครงการจะเปิดขายในรูปแบบของ Fully Furnished ทั้งหมด เพื่อรองรับสำหรับใครที่สนใจและอยากจะเป็นเจ้าของยูนิตพักอาศัยในโครงการนี้ เพื่อสำหรับการอยู่อาศัยและอยากจะเห็นของจริงก่อนการตัดสินใจซื้อนะครับ
และทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมานั้น…ก็คือที่มาและเนื้อหาที่ผมอยากจะขอนำเสนอผ่านบทความ Project : The Esse Singha Complex by Singha Estate ในครั้งนี้ โดยเนื้อหาการนำเสนอในบทความนี้ผมจะขอพูดถึงในส่วนของห้องตัวอย่างทั้ง 3 ห้อง Fully Furnished ที่มีการตกแต่งภายใต้ Theme Concept : Kisetsu [ Haru – Natsu – Aki -Fuyu ] ฤดูกาล ทั้ง 4 ของประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับวิเคราะห์ในส่วนของ Function Layout ของทั้ง 3 Unit Plan ที่เป็นห้องตัวอย่างนี้ เพื่อเป็นแนวทางและเป็นไอเดียในการเลือกให้สำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการนี้กันเช่นเคยนะครับ
โดยสำหรับบทความ Project : The Esse Singha Complex by Singha Estate ในครั้งนี้ ผมจะขอเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ในส่วนของห้องตัวอย่างทั้ง 3 แบบก่อนเป็นอันดับแรกนะครับ
HARU > Spring : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 34.75 ตร.ม. สำหรับ Unit Plan นี้จะเป็น Unit Plan ขนาดพื้นที่เริ่มต้นของโครงการนี้นะครับ
เมื่อเราเปิดประตูห้องเข้ามา Function แรกที่จะได้พบก็คือส่วนของ Function : Kitchen ที่เป็นรูปแบบของ Open Kitchen โดยพื้นที่ส่วนนี้จะถูกกั้นบริเวณเพื่อความเป็นสัดส่วน โดยการวางในส่วนของ Dining แบบเคาน์เตอร์ ที่รองรับแบบ 2 ที่นั่ง เพื่อเป็นการประหยัดและไม่เกะกะพื้นที่โดยรวมของห้อง
ส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen + Dining จะเป็น Function ที่อยู่ร่วมกันบริเวณพื้นที่ทางเข้าด้านหน้าของตัวห้อง และ ส่วนของตู้ที่อยู่ด้านหลังของบานประตูทางเข้าจะเป็นส่วนของตู้เย็นที่ทางโครงการมีการ Build In มาให้เลยพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัวต่างๆนะครับ ซึ่งทำให้พื้นที่ในส่วนของ Function นี้มีการเชื่อมต่อ Function กันได้ดูลงตัวและเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น
ถัดจากส่วนของ Function : Kitchen + Dining ก็จะเข้ามาสู่ส่วนของพื้นที่หลักของตัวห้อง นั้นก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Living + Bedroom โดยในส่วนของฉากกั้นของพื้นที่ทั้ง 2 Function นี้จะเป็นฉากกั้นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน แบบ Floor To Floor โดยฉากกั้นกระจกนี้จะไม่ใช่บานกระจกใสนะครับ แต่จะเป็นบานกระจกที่มีการใส่ลวดลายเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ในส่วนของ Function : Bedroom แต่ก็ยังได้รับแสงสว่างและความโปร่งโล่งได้เช่นเดิม
ส่วนของพื้นที่ Function : Living จะอยู่บริเวณพื้นที่ตำแหน่งใจกลางของตัวห้อง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับส่วนของพื้นที่ระเบียงด้านนอกของห้อง ทำให้ได้รับแสงสว่างจากกระจกบานเลื่อนด้านข้าง
ส่งผลให้แม้ว่าขนาดของพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ที่อาจดูว่ามีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่เวลาที่อยู่อาศัยหรือนั่งอยู่ตรงตำแหน่ง Sofa ก็จะไม่รู้สึกว่าอึดอัดหรือคับแคบแต่อย่างใดนะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom บริเวณด้านของพื้นที่ Function นี้จะได้ผนังด้านข้างเป็นส่วนของบานกระจกขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถที่จะรับชมวิวในมุมมองที่เปิดโล่งจากตำแหน่งของเตียงนอน และ ยังไม่ความรู้สึกอึดอัดหรือคับแคบเวลาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ของ Function นี้แต่อย่างใด
เพิ่มเติม…ข้อเสียที่ผมสังเกตเห็นจาก Function นี้ ก็คือส่วนของพื้นที่บริเวณปลายเตียงจะเหลือพื้นที่น้อยมากๆ กรณีที่เราต้องการเลื่อนฉากกั้นเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับ Function : Bedroom ดังนั้นเวลาที่เราอยู่อาศัยจริง ผมมองว่าให้เก็บฉากกั้นแอบไว้ด้านข้างตามภาพด้านล่าง แบบนี้ภาพรวมเวลาที่เราอยู่อาศัยภายในห้องจะดูดีและโปร่งโล่งดีแล้วนะครับ
บริเวณส่วนของพื้นที่ด้านหน้าของพื้นที่ Function : Bathroom จะเป็นส่วนของโต๊ะกระจกสำหรับแต่งหน้าหรือแต่งตัว และ ส่วนของ Build In ตู้เสื้อผ้า ที่ทางโครงการมีการ Build In ในส่วนของพื้นที่นี้ให้มาตามภาพด้านล่างนี้เลยนะครับ
โดยรูปแบบการจัดวางและแบ่งพื้นที่ Function Layout แบบนี้ ทำให้ส่วนของพื้นที่ Function นี้จะเป็นเหมือนกับ Function : Walk In Closet เลยนะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom จะถูกจัดวาง Function พื้นที่ในส่วนนี้ไว้บริเวณด้านในสุดของตัวห้อง ภายในตำแหน่งของพื้นที่ Function : Bedroom โดย Function : Bathroom ของ Unit Plan นี้ภายในจะเป็นแบบ 3 Fixtures โดยมีการแยกส่วนของพื้นที่ เปียก – แห้ง ด้วยการใช้เป็นฉากกั้นกระจกใสแบบเปิดปิดนะครับ
บทสรุปเพิ่มเติม …
สำหรับ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 34.75 ตร.ม. ซึ่งเป็น Unit Plan ที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดของโครงการนี้ ผมมองว่า Unit Plan นี้ชัดเจนว่าเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยเพียง 1 – 2 คน หรือคนโสดเป็นหลักเลยนะครับ หรือไม่ก็อาจจะเป็นคนที่อยู่อาศัยตามต่างจังหวัดที่ต้องการอยากจะซื้อ Unit Plan ของโครงการนี้ เพื่อเก็บไว้เป็นทรัพย์สินหรือไว้เพื่ออยู่อาศัยเป็นแบบครั้งคราว เวลาที่ต้องเดินทางมาติดต่องานหรือทำธุระในกรุงเทพฯ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 34.75 ตร.ม. ก็ดูน่าจะตอบโจทย์และเพียงพอต่อการอยู่อาศัยนะครับ
NATSU > Summer : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 47.75 ตร.ม. จะเป็น Unit Plan : 1 Bedroom ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโครงการนี้นะครับ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในจะพบกับส่วนของพื้นที่ที่เป็น Function : Foyer และพื้นที่บริเวณด้านหลังบานประตูห้องจะเป็นตำแหน่งการวางในส่วนของตู้หรือชั้นเก็บรองเท้า เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนเข้าสู่พื้นที่การอยู่อาศัยหลักด้านใน
ส่วนตัวแล้วสำหรับคนไทยหรือใครบางคนก็อาจมองว่าพื้นที่ในส่วนนี้ดูจะเป็นพื้นที่เสียเปล่า แต่สำหรับชาวต่างชาติบางคนโดยเฉพาะอย่างชาวญี่ปุ่น ผมมองว่าน่าจะชอบ Unit Plan ที่มีในส่วนของพื้นที่ Function : Foyer ที่อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าหลักของห้องแบบ Unit Plan นี้นะครับ เพราะนอกจากจะได้ความเป็นระเบียบในส่วนของการมีตู้สำหรับเก็บรองเท้าแล้ว พื้นที่ในส่วนนี้ยังเป็นพื้นที่ที่ช่วยปรับอารมณ์ Mood & Tone เวลาที่กลับมาจากการทำงานหรือทำกิจกรรมเหนื่อยๆข้างนอกได้อีกด้วยนะครับ
และเมื่อเดินผ่านในส่วนของพื้นที่ Function : Foyer เข้ามาด้านใน ก็จะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen ที่ถูกจัดวางไว้บริเวณด้านข้างขนาดไปกับพื้นที่ทางเดินหลักก่อนสู่พื้นที่ด้านใน และมีการเพิ่มในส่วนของฉากกั้นกระจกบานเลื่อนเพื่อกันพื้นที่ Function ส่วนนี้ให้แยกเป็นสัดส่วนชัดเจนกับพื้นที่ด้านใน ดังนั้นในส่วนของ Function : Kitchen ของ Unit Plan นี้จึงได้อารมณ์ความเป็น Close Kitchen เพิ่มเข้ามาอีกด้วยนะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining จะถูกจัดวางไว้ในพื้นที่เดียวกันที่อยู่ด้านในสุดของห้อง โดยพื้นที่ในส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับส่วนของพื้นที่ระเบียงห้องที่อยู่บริเวณด้านนอกของตัวห้อง
การจัดวางในส่วนของ Dining จะถูกจัดวางไว้รอบรับแบบ 4 ที่นั่ง และตำแหน่งการจัดวางในส่วนของ Sofa ที่เป็น Function หลักที่เวลาเราอยู่อาศัยจริงภายในห้อง ผู้อยู่อาศัยน่าจะใช้เวลาในการตำแหน่ง Function นี้นานที่สุดในแต่ละวัน ดังนั้นตำแหน่งการวาง Sofa จึงถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับส่วนของฉากกันกระจกบานเลื่อนด้านข้าง เพื่อเป็นการช่วยเรื่องของแสงสว่าง และ สามารถชมวิวจากตำแหน่งการนั่งของ Sofa ได้อีกด้วยนะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom ของ Unit Plan นี้ จะมีขนาดพื้นที่ที่กว้างและดูลงตัวมากยิ่งขึ้น และจากความกว้างของพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ที่มากขึ้นทำให้ในส่วนของบานกระจกด้านข้างมีขนาดความกว้างรวมที่กว้างมากๆ ดังนั้นจึงสามารถรับวิวจากตำแหน่งของหัวนอนได้กว้างมากยิ่งขึ้นนะครับ
เพิ่มเติม … ในส่วนการกันพื้นที่ของส่วน Function : Bedroom กับ Living ของ Unit Plan นี้ จะเป็นการกั้นโดยใช้เป็นผนังทึบ ดังนั้นในเรื่องของความเป็นส่วนตัวสำหรับการจัดวาง Function Layout แบบ Unit Plan นี้จะได้ความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดเป็นส่วนของพื้นที่ในแต่ละ Function ที่มากขึ้นนะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom ตำแหน่งการวางของตำแหน่ง Function นี้ จะถูกจัดวางไว้ในส่วนของพื้นที่ด้านของ Function : Bedroom โดย Function ภายในจะเป็นแบบ 4 Fixtures คือมีส่วนของอ่างอาบน้ำเพิ่มเข้ามา และ ยังคงมีฉากกั้นกระจกใสเพื่อแยกพื้นที่ส่วนเปียก – แห้งออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อช่วนในส่วนของการดูแลทำความสะอาดได้สะดวกมากขึ้นนะครับ
บทสรุปเพิ่มเติม …
สำหรับ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 47.75 ตร.ม. ผมมองว่าน่าจะเป็น Unit Plan ที่จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยสำหรับใครที่ต้องการ Unit Plan ที่มีการออกแบบและจัดวางพื้นที่ในแต่ละ Function Layout ที่ได้ความเป็นสัดเป็นส่วนของพื้นที่แบบแยกกันชัดเจนในแต่ละ Function และต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆในส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 47.75 ตร.ม. นี้ก็น่าจะถูกใจและตอบโจทย์การอยู่อาศัยสำหรับคนกลุ่มนี้นะครับ
AKI > Authumn : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 77 ตร.ม. ในบรรดาห้องตัวอย่างทั้ง 3 แบบของโครงการนี้ ส่วนตัวแล้วผมมีความชื่นชอบในส่วนของการออกแบบและจัดวาง Function Layout ของ Unit Plan นี้มากที่สุดนะครับ
เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจริงๆแล้ว ถ้ามองแบบตรงๆเลยตามแบบ ภาพ Unit Plan ด้านบนเราก็จะเจอกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen + Island ก่อนเลยนะครับ
แต่พอดีจังหวะตอนที่ผมเปิดประตูห้องของ Unit Plan นี้เข้ามาด้านใน ส่วนของบานประตูมันจะบังสายตาเราทำให้เราจะไม่ทันได้สังเกตเห็นพื้นที่ในส่วนของ Function : Kitchen + Island นะครับ จึงจะทำให้ First Impression จริงเวลาที่เราเปิดประตูเข้าห้องมาเราจะเห็นพื้นที่หลักของ Unit Plan นี้ คือส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining ก่อนแทนนะครับ
แต่เพื่อไม่เป็นการทำให้งง … ผมก็จะขอเริ่มวิเคราะห์ในส่วนของ Function Layout ของ Unit Plan นี้ตามภาพประกอบของ Unit Plan ด้านบนก็แล้วกันนะครับ โดยจะของเริ่มจากส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen กันก่อนก็แล้วกันนะครับ โดยรูปแบบพื้นที่ Function : Kitchen ของ Unit Plan นี้จะเป็น Function แบบ Open Kitchen โดยมีการเพิ่มในส่วนของ Island เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อใช้สำหรับเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร หรือ ไว้สำหรับวางหรือพักของต่างๆ
อย่างเช่น … เวลาที่เราไปซื้ออาหารหรือของสดต่างๆกลับมาจากข้างนอก เมื่อเราเปิดประตูห้องเข้ามาก็สามารถวางพักของที่เราซื้อมาไว้ในตำแหน่งของ Function : Island นี้ก่อน แล้วจึงค่อยมาแยกเก็บในตู้เย็นหรือตู้เก็บของก็น่าจะสะดวกดีเลยนะครับ
(สารภาพตามตรงนะครับว่า ตอนแรกที่ผมไปชมห้องตัวอย่าง Unit Plan นี้ เมื่อผมเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นส่วนของพื้นที่ Function : Island ที่วางอยู่ในตำแหน่งนี้ แล้วแอบคิดว่าทำไมทางโครงการถึงจัดวาง Function : Island ไว้ในตำแหน่งนี้นะ มันแอบเกะกะสายตารึเปล่าอะ … แต่พอกลับมานั่งลงรายละเอียดวิเคราะห์จริงๆจังๆแล้วก็แอบเขินอะ คือ ทางโครงการเค้าคิดและออกแบบ Function นี้มาดีและตอบโจทย์การใช้พื้นที่ในชีวิตจริงได้อย่างลงตัวเลยนะครับ)
ส่วนของพื้นที่อีกด้านหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen จะเป็นพื้นที่ในส่วนของ Function : Living + Dining โดยในส่วนของพื้นที่นี้ จะอยู่ติดกับส่วนของฉากกั้นกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนของระเบียงด้านนอกของ Unit Plan นี้นะครับ
โดยส่วนตัวผมแล้ว … ในส่วนของพื้นที่ Function : Living หากเทียบกับความคาดหวังความเป็นพื้นที่ Function : Living ของ Unit Plan แบบ 2 Bedroom ผมมองว่าพื้นที่ในส่วน Function นี้แอบดูจะมีขนาดพื้นที่ที่เล็กและแอบดูแคบไปซักหน่อย … ดูแล้วไม่ค่อยจะมีความแตกต่างกับ Function : Living ของ Unit Plan : 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 47.75 ตร.ม. ที่ผมได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้นะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom ที่อยู่บริเวณพื้นที่ด้านนอกในส่วนของพื้นที่ Function : Living จะเป็น Function : Bathroom ที่ไว้สำหรับรับรองแขกที่แวะมาเยี่ยมเยือนภายในห้องและไว้สำหรับรองรับสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในส่วนของ Function : Bedroom (ห้องนอนเล็ก) ด้วยนะครับ โดยในส่วนของ Function : Bathroom ด้านนอกนี้จะเป็นแบบ 3 Fixtures เท่านั้นนะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom (ห้องนอนเล็ก) ถึงแม้ขนาดพื้นที่ในส่วนของ Function นี้จะมีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่ด้วยความที่ในส่วนของพื้นที่ Function นี้ยังได้ในส่วนของบานหน้าต่างด้านข้าง ดังนั้นจึงไม่ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยภายใน Function นี้จะไม่รู้สึกคับแคบหรืออึดอัดมากนักนะครับ
และก็มาถึงส่วนของพื้นที่ Function ที่ผมมองว่าเป็น Function – Highlight สำหรับ Unit Plan นี้เลยก็ว่าได้นะครับ … นั้นก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom ด้วยการจัดสรรพื้นที่ในส่วนของพื้นที่ Function นี้ ผมคิดแบบคร่าวๆก็น่าจะเป็นสัดส่วนพื้นที่ประมาณ 40 – 45% ของขนาดพื้นที่รวมของ Unit Plan นี้
ตำแหน่งการวางเตียงนอนจะถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับส่วนของบานหน้าต่างด้านข้างของตัวห้อง โดยบานหน้าต่างด้านข้างจะได้เป็นบานกระจกขนาดใหญ่กินพื้นที่เกือบตลอดแนว (ตามภาพประกอบด้านล่าง) และ ยังมีส่วนของบานกระจกที่เป็นแบบเข้ามุมเพิ่มเข้ามาบริเวณด้านข้างของตำแหน่งหัวนอนด้วยนะครับ (ผ้าม่านแอบบังอยู่นะครับ)
อีกหนึ่ง Function ที่เป็น Highlight ของ Function : Master Bedroom คือการที่มีส่วนของพื้นที่ Function : Private Bathroom ที่มาในรูปแบบ Sexy Bathroom แต่ถ้าผมบอกว่าแค่ Function : Master Bedroom แล้วการมี Function : Private Bathroom มันก็คงดูธรรมดาไปเนอะ
ใช่ครับ … เพราะ Function : Private Bathroom ที่มาในรูปแบบ Sexy Bathroom ของ Unit Plan นี้มีการใช้บานกระจกเป็นแบบ Smart Film เผื่อสำหรับใครที่อาจมองว่ากระจก Sexy Bathroom ในชีวิตจริงมันก็ดูจะเขินๆเกินไปกดสวิตช์ ที่ติดตั้งไว้ด้านในก็จะสามารถเปลี่ยนจากกระจกใส Sexy Bathroom ให้กลายเป็นกระจกขุ่นได้ทันที (คือดีๆมากๆครับสำหรับ Function นี้)
ด้วยความที่ตำแหน่งของ Unit Plan นี้เมื่อดูจาก Floor Plan – Unit Plan นี้จะอยู่ในตำแหน่ง Conner ดังนั้นข้อดีเพิ่มเติมที่เพิ่มเข้ามาก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Private Bathroom จะอยู่ติดกับส่วนของบานกระจกด้านข้างของตัวห้อง ดังนั้นเรื่องของแสงสว่างภายในพื้นที่ Function นี้ก็ไม่ต้องกังวลแบบสว่างและโปร่งโล่งหายห่วงเลยครับ
ส่วนของ Function : Private Bathroom ของ Unit Plan นี้ รูปแบบจะเป็นแบบ 4 Fixtures โดยในแต่ละ Function จะมีการแยกพื้นที่ตามการใช้งานกันอย่างชัดเจน และอ่างล้างหน้าก็เป็นแบบ His & Her อีกด้วยนะครับ
บทสรุปเพิ่มเติม …
สำหรับ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 77 ตร.ม. ของโครงการนี้ ก็อย่างที่ผมได้บอกไปในตอนต้น ก่อนจะเริ่มวิเคราะห์ในส่วนของการออกแบบ Function Layout ของ Unit Plan นี้ ว่าโดยส่วนตัวแล้วผมชื่นชอบ Unit Plan นี้มากที่สุดในบรรดาห้องตัวอย่างทั้ง 3 แบบ
เหตุผลที่ผมชอบ Unit Plan นี้ก็เพราะว่า ในหลายๆพื้นที่ Function ภายใน Unit Plan นี้ ผมมองว่าทางโครงการมีการลงรายละเอียดในส่วนของไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยจริงคน เข้ามาในการออกการออกแบบในแต่ละ Function ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ Island หรือ กระจก Sexy Bathroom ในส่วนของ Function : Private Bathroom ที่เป็นกระจกแบบ Smart Film Smart และการให้ความสำคัญกับพื้นที่ Function : Master Bedroom ที่เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของห้อง
(ผมว่าโครงการระดับ Luxury นั้นการออกแบบในแต่ละพื้นที่ Function Layout ของห้องจะต้องให้ความสำคัญกับ Function ที่คนที่เป็นเจ้าของได้ใช้หรือให้ความสำคัญ แบบ Unit Plan นี้ผมว่ามันตอบโจทย์นี้ได้อย่างชัดเจนนะครับ)
Project Information :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110
ขนาดที่ดิน : 2 – 0 – 98 ไร่
ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย High Rise 39 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : 319 ยูนิต
Unit Type : Floor to Ceiling ( Unit Standard : 3 m.) , Fully Furnished : Japanese Style
1 Bedroom 1 Bathroom ขนาดพื้นที่ 34.75 – 47.75 ตร.ม.
2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาดพื้นที่ 70.00 – 77.00 ตร.ม.
Floor Plan : จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น
Ground , 8 Fl : Facilities Area
17 , 32 Fl. : ยูนิตพักอาศัย (Japanese Style)
36 – 37 Fl. : Sky Facilities Area
Facilities :
Garden with Green Amphitheatre & Hidden Pavilion , Parking spaces and super car designated parking , Mailbox & Private storage space for sports equipments or luggages , Sanctuary Terrain Garden , The Library and co-working area and meeting room , The Sky Social Lounge , The Residence Lounge, space for private parties , Private Theatre , On the Cloud Fitness with rock climbing wall and boxing ring , Private exercise room , Sky Edge Swimming Pool with separate kid’s pool and a pool terrace (ระบบเกลือ ขนาด 22 x 5 เมตร) , Onsen , Japanese hot spring and bathing facility , Steam Room , Private spa and salon , Sky Terrace
ที่จอดรถ : รองรับสำหรับ Super Car ประมาณ 87 % (รวมจอดซ้อนคัน)
ค่าส่วนกลาง / เงินกองทุน : 90 / 900 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 10 ล้านบาท*
ก็จะประมาณนี้นะครับสำหรับบทความ Project : The Esse Singha Complex by Singha Estate โครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury บนทำเลที่วันนี้กลายเป็นศูนย์กลางไลฟสไตล์แห่งใหม่ของทำเล อโศก – เพชรบุรี จากการมาของ Singha Complex โครงการ Luxury – Mixed Use กับการพาชมห้องตัวอย่างทั้ง 3 แบบ ที่มีการตกแต่งภายใต้ Theme Concept : Kisetsu [ Haru – Natsu – Aki -Fuyu ] ฤดูกาล ทั้ง 4 ของประเทศญี่ปุ่น พร้อมบทวิเคราะห์ Function Layout ตามสไตล์ของเพจ Inso Condo ในครั้งนี้
สำหรับใครที่กำลังสนใจหรือกำลังมองหาที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมระดับ Luxury บนทำเลใจกลางเมืองอย่างทำเล อโศก – เพชรบุรี ทางโครงการ The Esse Singha Complex by Singha Estate จะก่อสร้างแล้วสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้จริงช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้แล้วนะครับ และสำหรับผมโครงการนี้ คือ อีกหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury ที่ผมอยากจะขอแนะนำให้คุณควรจะหาเวลาแวะไปชมก่อนตัดสินใจเลือกโครงการใดนะครับ
สุดท้ายนี้สำหรับใครที่มีคำถามหรือข้อสงสัยในเรื่องต่างๆของโครงการนี้ ก็สามารถพิมพ์มาพูดคุยกับผมผ่านทางช่องทาง Inbox ได้เช่นเคยนะครับ
เพิ่มเติม …
The Esse Singha Complex by Singha Estate I Ready to move in October 2019
THE ESSENCE OF LUXURIOUS LIFE REDEFINED
Show Residence 17-18 August 2019 at SINGHA COMPLEX CONDOMINIUM
Registered for Privilege VIP Exclusive : http://www.singhaestate.co.th/singhacomplex/condo/en/?utm_source=google&utm_medium=cpc&utm_campaign=exclusiveunits&utm_term=brand1&utm_content=en&gclid=EAIaIQobChMIluDTvbLS4wIVk4RwCh38Vg2MEAAYASAAEgIj2fD_BwE
Call. 1221
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม