News : คอนโดมิเนียม Low Rise กับ หลักการและเหตุผลดีๆในการเลือกซื้อ
พอดีวันก่อนมีโอกาสได้แวะเข้าไปหาข้อมูลเพื่อใช้นำเสนอ เกี่ยวกับการ Re-Branding ของโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ The Privacy by Pruksa ตามที่เคยได้ Post นำเสนอไปก่อนหน้านี้ … ซึ่งพอไปเดินดูแล้วก็ทำให้เกิดไอเดีย อยากเขียนบทความเกี่ยวกับ โครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise เลยเป็นที่มาในการนำเสนอบทความในครั้งนี้ เพื่อเป็นการให้เห็นภาพและให้เกิดความเข้าใจเนื้อหาในการนำเสนอ ผมเลยขอยกตัวอย่างโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ที่ผมพึ่งแวะไปดูมา ประกอบการอธิบายเนื้อหาในครั้งนี้เลยแล้วกันนะครับ โครงการนั้นก็คือ The Privacy ลาดพร้าว – เสนา by Pruksa ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทางโครงการมา ณ ที่นี้ ซึ่งปัจจุบันโครงการนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ได้แล้ว (Ready To Move In)
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ ตามความเข้าใจพื้นฐาน และที่หลายคนพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า เราสามารถแบ่งประเภทของคอนโดมิเนียม ออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 2 ประเภทด้วยกันคือโครงการคอนโดมิเนียมประเภท High Rise กับ Low Rise ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนั้นมีความแตกต่างทางกายภาพแบบที่เราๆสามารถมองเห็น จำแนกได้ด้วยตาเปล่าได้ นั้นคือเรื่องของความสูงของตัวอาคารพักอาศัย โดยโครงการคอนโดมิเนียมประเภท High Rise คือโครงการคอนโดมิเนียมที่มีความสูงเกิน 23 เมตรขึ้นไป หรือ มีจำนวนชั้นมากกว่า 8 ชั้น ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise คือโครงการคอนโดมิเนียมที่มีความสูงไม่เกิน 23 เมตร และมีจำนวนชั้นไม่เกิน 8 ชั้น และสำหรับ Real Demand ละความต่างมันคืออะไร?
ข้อดีของโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise
1. ราคาต่อตร.ม. ไม่สูง ทำให้ Real Demand สามรถจับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น
เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ส่วนใหญ่เรื่องของต้นทุนราคาที่ดินจะมีราคาต่ำกว่า ราคาที่ดินของโครงการคอนโดมิเนียมประเภท High Rise ในโซนของทำเลที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจาก โครงการคอนโดมิเนียมประเภท High Rise ที่ดินจะอยู่ติดถนนใหญ่ ส่วน โครงการ คอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ที่ดินก็มักจะมีทำเลที่ตั้งอยู่ในซอยและเป็นแหล่งชุมชน ดังนั้นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise จึงสามารถทำราคาต่อตร.ม.ให้มีราคาไม่สูงมากนักได้ง่ายกว่าส่งผลให้ราคาต่อยูนิตไม่สูง และเมื่อราคาต่อยูนิตไม่สูง Real Demand จึงสามรถจับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา by Pruksa : ราคาเริ่ม 1.59 ล้าน (Fully Fitted) ราคาต่อตร.ม.ประมาณ 70,xxx บาทต่อตร.ม.
ขนาดของยูนิตเริ่มต้น 22.5 ตร.ม.
2. ความหนาแน่นของจำนวนยูนิตต่อหนึ่งโครงการ
ส่วนใหญ่แล้วโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise มันจะมีขนาดพื้นที่โครงการไม่ใหญ่มากนัก 2 – 4 ไร่ จำนวนอาคารประมาณ 1 – 2 อาคาร ดังนั้นเรื่องของจำนวนยูนิตในการอยู่อาศัยจึงมีจำนวนไม่เยอะมากนัก ทำให้ช่วยลดปัญหาเรื่องของความวุ่นวายการการอยู่รวมกันของคนหมู่มากได้ คืออารมณ์แบบมากคนมันก็มักจะมากความกันไปนะครับ
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา by Pruksa : ขนาดที่ดินประมาณ 3 ไร่ โดยประกอบด้วย อาคารพักอาศัย 8 ชั้น 2 อาคาร และมีจำนวนยูนิต รวมทั้งโครงการ 376 ยูนิต ( ประมาณ 125 ยูนิตต่อไร่)
3. ทำเลอยู่ในชุมชน สะดวกเรื่องของการดำรงชีวิตในแต่ละวัน
ส่วนใหญ่แล้ว Dev มักจะเลือกพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ในทำเลที่มี Real Demand และมีความต้องการที่อยู่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นทำเลที่ Dev จะทั้งรายใหญ่และรายย่อย ชอบเข้าไปพัฒนาโครงการ ก็คือ ทำเลที่เป็นชุมชนการอยู่อาศัยที่มีความหนาแน่นอยู่ก่อนแล้ว เช่น ทำเลในโซน ลาดพร้าว รัชดา สุทธิสาร หรือ สุขุมวิทตอนปลาย ซึ่งพอเป็นทำเลที่เป็นชุมชนการอยู่อาศัยหนาแน่นแต่เดิมมาก่อน ดังนั้นเรื่องของร้านค้า ร้านอาหาร ที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตในแต่ละวัน จึงไม่ต้องกังวลหายห่วงได้เลย ร้านค้า ร้านอาหารมีเพียบแน่นอน (หากใครที่เคยมีประสบการณ์การอยู่อาศัยคอนโดมิเนียมในเมือง หลายคนจะทราบดี ทำเลดีเดินทางสะดวกก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องอาหารการกินนี้ก็เรื่องใหญ่เหมือนกันเนอะ)
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา by Pruksa : อยู่ในซอยลาดพร้าวเสนา ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนการอยู่อาศัยเดิมของคนลาดพร้าว ใกล้ตลาด ใกล้ร้านอาหารอร่อยๆเยอะเลยแถวย่านวังหิน-โชคชัย 4
4. ให้ความสงบและมีความเป็นส่วนตัว ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
การที่ทำเลที่ตั้งของโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในซอยย่อยไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่ที่มีการสัญจร ของรถยนต์ หรือ คนผ่านไปผ่านมาตลอดทั้งวัน ดังนั้นเรื่องของความสงบและความเป็นส่วนตัว ในการอยู่อาศัย จึงมีมากกว่าแน่นอน บวกกับจำนวนยูนิตในการอยู่อาศัยภายในโครงการที่น้อย (ส่วนตัวสำหรับผม ข้อนี้เป็นเสน่ห์ หรือ จุดที่ทำให้ผมชอบโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise เลยครับ) หรือไม่ก็จะเป็นทำเลที่ดินที่อยู่ในซอย ที่ใกล้กับแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา by Pruksa : ด้วยความที่ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ (ถ.ลาดพร้าววังหิน) ดังนั้นทำเลที่ตั้งของโครงการจึงได้ความสงบเป็นส่วนตัว ตอบโจทย์การอยู่อาศัย แต่ถ้าดูเรื่องของการเดินทางก็ยังสะดวก ห่างรถไฟฟ้า MRT (สถานี ลาดพร้าว ประมาณ 3 กม.) แถมในอนาคตทำเล ถ.ลาดพร้าว เส้นหลักจะมีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ( สถานี ภาวนา ) และ ถ.พหลโยธิน ก็กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ( สถานี รัชโยธิน ) เพิ่มเติมเข้ามา ในอนาคตทำเลนี้น่าจะตอบเรื่องของการเดินทางที่สะดวก
5. การดูแลรักษาพื้นที่ส่วนกลาง และ ค่าใช้จ่ายส่วนกลางต่อเดือนที่ไม่สูงมากนัก
เรื่องของการดูแลรักษาพื้นที่ส่วนกลาง และ ค่าใช่จ่ายส่วนกลางต่อเดือน อันนี้อาจกล่าวได้ไม่สุด เพราะบางครั้ง โครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise บางโครงการก็พยายามเพิ่มจุดขายให้กับตัวโครงการโดยการใส่พื้นที่ส่วนกลาง Facilities ต่างๆให้มีขนาดใหญ่ เพิ่ม Concept หรูแบบจัดเต็ม เพื่อเป็นการเพิ่มจุดขายให้กับตัวโครงการนั้นๆ ดังนั้นการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนกลางต่อเดือนให้ต่ำอาจทำได้ยาก แต่ยังไงผมก็ยังมองว่าจากการที่โครงการมีจำนวนยูนิตการอยู่อาศัยที่น้อย การจำกัดการใช้งาน หรือ ความร่วมมือในการดูแลรักษา มันทำได้ง่ายกว่าร่วมด้วยช่วยกัน ดังนั้นในส่วนตรงนี้จึงน่าจะสามารถควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนกลางให้มีราคาไม่สูงมากขึ้นได้ไม่ยากเนอะ
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา by Pruksa : เนื่องจากด้วยความที่โครงการนี้มีพื้นที่ไม่ใหญ่และมีจำนวนยูนิตในโครงการที่ไม่มากนัก ดังนั้นเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางจึงไม่จำเป็นที่ต้องมีขนาดพื้นที่ที่ใหญ่มากเกินไป แต่ก็มีเพียงพอรองรับสำหรับผู้อยู่อาศํยได้อย่างครบครัน เช่น Lobby , ร้านค้า , ห้องสมุด , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส + ซาวน่า แยกชาย-หญิง , สวนพักผ่อน , สวนลอยฟ้า , CCTV , Access Card Control , รปภ. 24 ชม.
หลักในการเลือกตำแหน่งยูนิตของโครงการ Low Rise
1. ทิศ แสงแดด และ หัวนอน
เรื่องของทิศ ก็ใช้หลักทั่วไปครับ ถ้าใครชอบแดดไม่กลัวเรื่องของแดดร้อนช่วงบ่ายบ่ายก็เลือกทิศตะวันตกได้ แต่หัวนอนมันคือเรื่องของความเชื่อดังนั้นแล้วแต่มุมมอง เพราะส่วนใหญ่ โครงคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise วิวที่ได้ไม่ค่อยจะมีความต่างกันมากนั้น โดยเฉพาะวิวที่หันออกด้านนอกตัวโครงการ ดังนั้นเรื่องของวิวจากหัวนอนไม่ค่อยจะมีผลหรือความแตกต่างกันมากนัก
2. ตำแหน่งของยูนิต
ตำแหน่งของยูนิต ส่วนใหญ่เวลามีคนถามว่า โครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ควรเลือกตำแหน่งไหนดี? ผมมักชอบแนะนำวิวด้านในโครงการที่เห็นพื้นที่ส่วนกลาง เพราะผมว่าวิวมันจะคงสภาพเหมือนตอนที่เราตัดสินใจซื้อไปนานเท่านาน
3. ตำแหน่งชั้น ความสูง ( Floor )
เรื่องของความสูงเอาความสูงหรือชั้นที่หลายๆคนไม่ชอบก่อนเลยแล้วกัน นั้นคือชั้นบนสุดของโครงการ เพราะหลายคนมักจะมีความกังวลเรื่องของความร้อน อันนี้ถูกแล้วส่วนใหญ่ผมก็มักจะไม่ค่อยแนะนำตำแหน่งความสูงที่ชั้นบนสุดของโครงการเช่นกัน … ซึ่งกลับกัน ผมชอบเลือกชั้นล่างๆ ด้วยซ้ำ ในกรณีที่เลือกตำแหน่งยูนิตที่เป็นวิวด้านในโครงการ ตำแหน่งชั้นที่ผมมักจะเลือก คือตำแหน่งช่วงชั้น 3 – 4 ซึ่งระดับความสูง ชั้น 3 – 4 เราจะสามารถมองเห็นวิว พื้นที่ส่วนกลาง หรือ ต้นไม้ ยอดไม้ใบเขียวๆ ได้จากการนั่งโซฟาภายในห้องเลย อารมณ์ประมาณภาพประกอบด้านล่างเลยครับ
(หมายเหตุ : ภาพที่ถ่ายคือผมถ่ายจากตำแหน่งห้องของโครงการที่ยังว่างอยู่ ในตำแหน่งชั้น 2 วิวด้านในโครงการ มันก็จะเห็นวิวต้นไม้ใบไม้เขียวๆหน่อยๆอะเนอะ)
4. Unit Plan หรือ ขนาดพื้นที่
ถ้าผมจะเลือกซื้อโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ที่ราคาต่อตร.ม.ไม่สูงมากแล้ว ผมแนะนำถ้าคนมีกำลังแนะนำให้เลือกซื้อ Unit Plan ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่หน่อย เพราะราคาแพคก็ไม่สูงมากนัก ดังนั้นเอาแบบที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบที่เราอยากได้ไปเลยดีกว่าเนอะ
และอย่างที่บอก พอเป็นโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ถ้ารับเรื่องของทำเลได้ และ อยากซื้อไว้เพื่อการอยู่อาศัย มีงบถึง ผมก็มักจะแนะนำให้เลือก Unit Plan ที่มีขนาดใหญ่ๆหน่อย เพราะ มันคุ้มค่าตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ดีกว่า ซึ่งถ้าเป็น Unit Plan ที่มีขนาดพื้นที่ 40-50 ตร.ม.อัพของโครงการคอนโดมิเนียมประเภท High Rise ที่อยู่ติดถนนใหญ่ เดียวนี้ราคา 5 -6 ล้านอัพกันหมดแล้ว
และก็โชคดีที่ตำแหน่งยูนิตของโครงการ The Privacy ลาดพร้าว – เสนา by Pruksa ที่ยังว่างอยู่ตอนที่ผมเข้าไปเยี่ยมชม ดันเป็นตำแหน่งที่ตรงกับหลักในการเลือกตำแหน่งยูนิตตามที่ผมบอกไป ซึ่งเอาจริงๆแล้วเป็นหลักที่ผมมักชอบใช้เขียนแนะนำแฟนเพจในบทความ Unit Recommended ของโครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise อยู่บ่อยๆ เลยจัดการถ่าย Clip เอามาให้ดูกันเลย … จะได้เห็นภาพมากขึ้นและสามารถนำมาเป็นไอเดียในการเลือกตำแหน่งยูนิตของโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise อื่นๆ กันเนอะ
ในความคิดผมเลยนะ ผมว่าโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise มันก็มีเสน่ห์ในตัวของมันเอง โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็น Real Demand ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบและการยอมรับของคนแต่ละคนแล้วแหละครับ … สุดท้ายนี้ หวังว่าบทความนี้น่าจะมีประโยชน์กับแฟนเพจทุกท่านไม่มากก็น้อย และ น่าจะตอบโจทย์คนที่กำลังสนใจโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ที่กำลังอยากได้หลักในการเลือกตำแหน่งยูนิตในแต่ละโครงการที่ทุกท่านกำลังสนใจนะครับ
เพิ่มเติมความรู้สึกส่วนตัวที่ผมได้เข้าไปแวะชมโครงการ The Privacy ลาดพร้าว – เสนา by Pruksa ในครั้งนี้หน่อยก็แล้วกันเนอะ โดยรวมแล้วผมชอบบรรยากาศของโครงการนี้นะ เพราะเป็นโครงการที่ได้บรรยากาศการอยู่อาศัยของ Real Demand แท้ๆ แต่ขอสารภาพว่าจริงๆก็แอบตกใจ กับยอมขาย ยอดโอนฯ ของโครงการนี้ อยู่เหมือนกัน คือ โครงการนี้เค้าขายดีจริงๆอะ ซึ่งตอนนี้โครงการก็มียูนิตเหลือขายอยู่น้อยกว่าที่ผมคาดคิดไว้เยอะนะเนี้ย ซึ่งส่วนหนึ่งก็อย่างที่บอก โครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise ถ้ารับเรื่องของทำเลได้ ก็มี Real Demand อยากอยู่อาศํยแน่นอน และ เมื่อดูจากทำเลของโครงการที่อยู่ในชุมชนเดิม ที่มีร้านค้า ร้านอาหารอร่อยๆมีชื่อ อยู่รอบๆโครงการอีก ก็เลยไม่แปลกใจแล้วแหละ ว่าทำไมโครงการนี้ถึงได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่ม Real Demand ที่อยู่ในโซนนี้ได้ไม่ยาก
ไหนๆก็ไปใช้สถานที่เค้ามาประกอบการเขียนบทความแล้ว ผมก็ขอช่วยประชาสัมพันธ์โครงการให้เค้าหน่อยแล้วกันเนอะ … 5555+
The Privacy ลาดพร้าว – เสนา by Pruksa คอนโดมิเนียม Low Rise พร้อมเข้าอยู่ได้แล้ว (Ready To Move In) กับห้องสวยหลุดดาวน์ 10 ยูนิตสุดท้าย เริ่มเพียง 1.59 ล้านบาท*
พร้อมฟรีค่าโอนฯ และเพิ่มเติม สำหรับแฟนเพจ Inso Condo ทางโครงการให้ส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บาท (ใครแวะไปดูก็แจ้งว่าทราบข่าวโครงการจากเพจนะครับ จะได้รับส่วนลดเพิ่มเนอะ)
ใครที่สนใจยังไงก็เข้าไปคลิกลงทะเบียนกันที่ Link ลงทะเบียนนี้นะครับ https://theprivacy.pruksa.com/10347
โทรสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม : 1739