Unit Recommended : The Reserve Phahol-Pradipat by Pruksa
ผมเชื่อว่าแฟนเพจหลายๆคนที่มีความสนใจเรื่องของที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทโครงการคอนโดมิเนียม ส่วนใหญ่ก็มักจะต้องมีโครงการในฝันที่ตนเอง ชื่นชอบ หรือ อยากจะได้เป็นเจ้าของยูนิตในโครงการนั้นๆเพื่อการอยู่อาศัยเอง ซึ่งส่วนตัวผมเองจากการที่ได้มีโอกาสแวะเวียนไปชม โครงการโน้น โครงการนี้ ช่วงเปิดตัวบ้าง เอาจริงๆก็มีโครงการที่ตัวผมเองก็แอบชอบๆอยู่หลายโครงการอยู่เหมือนกันนะ โดยเฉพาะปีนี้ อย่างที่เรารู้ๆกัน ว่ามีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่กันอย่างคึกคักมากมาย หลากหลาย Segment หลากหลายทำเล และ ก็มีอยู่หลายโครงการที่มี Concept ดีๆน่าสนใจ ทั้งเรื่องของ การออกแบบตัวอาคาร การออกแบบ Layout ของตัว Unit Plan , Floor Plan ต่างๆ รวมถึง Facilities Area ภายในโครงการ
ซึ่ง ถามว่า ” มีโครงการที่ผมชอบเยอะมั้ย? “ คือ ตอบเลยว่า ” เยอะมากครับ “
แต่ ถ้าถามว่า ” ผมซื้อหมดทุกโครงการที่ชอบ ไหวมั้ย? “ คือก็ตอบตรงๆเลยครับ ว่า ” ก็คงไม่ “
ในชีวิตจริง เราคงจะซื้อทุกโครงการที่เราชอบ มันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกจริงมั้ย? (มองเงินในบัญชี แล้วน้ำตามันก็ไหล T-T) 5555+ และก็อย่างที่บอกไป ตอนนี้โครงการใหม่ๆ เล่นเปิดขาย PreSale กันแบบสัปดาห์ ต่อ สัปดาห์กันเลย หาเงินไม่ทันแล้วจริงๆ (ดังนั้น ช่วงนี้ ถ้าใครชอบตัวไหน โครงการอะไร ใจต้องนิ่งนะครับ อย่าเอาแต่วิ่งตามกระแส เพราะสุดท้ายคุณจะไม่เหลือเงินไปซื้อโครงการที่ตัวคุณเองอยากได้จริงๆเอานะ) ตอนนี้ผมเลยต้องพยามยามตั้งสติ อารมณ์แบบว่า คิดแบบ Real Demand เป็นหลักพอ คือ อยากอยู่โครงการไหน ทำเลอะไร ก็ให้โฟกัสที่ โครงการนั้น ทำเลนั้นพอ … นั้น คือ หลักในการคิดการเลือกซื้อโครงการคอนโดมิเนียม ณ ปัจจุบัน ในแบบของผม
แต่พอวันก่อน ผมได้มีโอกาสแวะไปชมโครงการ The Reserve Phahol-Pradipat by Pruksa ซึ่งสำหรับผมความน่าสนใจของโครงการนี้ คือ? เอาจริงๆ คือ ผมไม่อยากจะพลาดแบบตอนช่วงต้นปี ที่ผมเคยพลาดไม่ได้จองโครงการ The Reserve Thonglor 2 by Pruksa ตอนนั้นจำได้ว่า ผมอยากได้ 1 Bedroom ของโครงการ The Reserve Thonglor 2 มากๆ : ทำเลที่ตั้งโครงการ , Concept การออกแบบ , Layout Unit Plan , Floor Plan , จำนวนสัดส่วนยูนิตในโครงการ และ Facilities ต่างๆ คือ แบบว่าผมชอบมากจริงๆ
แต่พอตอนจะจอง 1 Bedroom ดัน Sold Out อย่างไวเลยครับ ผมเลยออกแนวฝังใจมากๆ เสียดายสุดๆ พอมาคราวนี้ The Reserve Phahol-Pradipat by Pruksa ที่เค้าเตรียมจะเปิดขาย PreSale กันในวันที่ 27 ส.ค.ที่จะถึงนี้
ผมเลยไม่รอช้า รีบเข้าไปขอชมโครงการเค้าก่อนเลย ซึ่งพอเข้าไปชมโครงการแล้วต้องบอกเลยว่าในความรู้สึกของผม ผมว่านะ … จริงๆแล้วโครงการ The Reserve Phahol-Pradipat by Pruksa การออกแบบ หรือ Concept ของตัวโครงการก็ดูจะ มีกลิ่นไอ คล้ายคลึง กับโครงการ The Reserve Thonglor 2 อยู่เยอะเหมือนกัน แต่เค้ามีการเพิ่มเติมแนวคิดการออกแบบให้มีความ Modern Timeless เข้ามา ดูจากการเลือกใช้วัสดุที่เรียบง่าย หรูหรา แต่มีความร่วมสมัย เช่น กระจก เหล็ก แสตนเลส และพื้นผิวลายหิน ทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ในการออกแบบที่มีความเรียบ เท่ห์ และสามารถอยู่คู่กับกาลเวลาได้ยาวนาน ทำให้โครงการนี้ ผมว่าน่าจะตอบโจทย์ สำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในเมืองที่เป็นกลุ่มคนโสดที่อยู่ในวัยทำงาน ทำงานและใช้ชีวิตในเมือง … ซึ่งนั้นก็รวมถึงตัวผมเองด้วย
เลยเป็นที่มาในการนำเสนอบทความ Unit Recommended : The Reserve Phahol-Pradipat by Pruksa โดยเนื้อหาในการนำเสนอในครั้งนี้ ผมจะเน้นเรื่องของการวิเคราะห์ Layout ประกอบกับการเลือกตำแหน่งยูนิต เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่ม Real Demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัย เป็นหลักเช่นเคย
Project Information :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ถนนประดิพัทธ์ ห่างจากแยกสะพานควาย (ถนนพหลโยธินตัดกับถนนประดิพัทธ์) เพียงแค่ 80 เมตร หรือประมาณ 500 เมตรจากรถไฟฟ้าสถานีสะพานควาย
สถานที่ใกล้เคียง :รพ.เปาโล พหลโยธิน , บิ๊กซี สะพานควาย , ลา วิลล่า อารีย์
อีกหนึ่งความน่าสนใจของทำเล ย่านพหลฯ-ประดิพัทธ์ คือ การที่ ย่านพหลฯ-ประดิพัทธ์เป็นย่านนำร่องในการนำสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ลงดิน ซึ่งได้เริ่มทยอยดำเนินการแล้ว ดังนั้นในอนาคตทัศนียภาพโดยรวมของทำเลนี้ จึงมีความน่าอยู่อาศัยมากขึ้นแน่นอน
ขนาดที่ดิน : 1-2-43 ไร่
ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย High Rise 29ชั้น 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : 298 ยูนิต
Unit Type :
1 Bedroom Simplex : 29.45 – 40.40 sq.m.
สำหรับ 1 Bedroom Simplex : 33.45 – 34.05 Sq.m. ผมชอบ Unit Plan นี้มากที่สุด คือ Unit Type B6
ความน่าสนใจของ Unit Plan นี้ คือ ด้วยความที่ตำแหน่งของยูนิต เป็นตำแหน่งห้องหัวมุม ดังนั้นในส่วนของ Living จะได้ความโปล่ง จากบานกระจก ทั้ง 2 มุม โดยเฉพาะ บานกระจกแผ่นเต็ม ตรงกลาง ขนาดประมาณ กว้าง 2 เมตร x สูง 2 เมตร มันเลยทำให้ Living ดูดีและโปร่งโล่ง สุดๆไปเลยครับ ผมว่านะ สำหรับ Unit Plan นี้ถ้าเป็นคนโสด วัยทำงานที่อยากได้พื้นที่ทำงาน หรือใช้เวลาส่วนใหญ่ในการอยู่อาศัย ใน Living เป็นหลัก Unit Plan นี้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณๆได้แน่นอน
1 Bedroom Simplex Plus : 47.30 – 48.70 sq.m.
สำหรับ 1 Bedroom Simplex Plus : 48.7 Sq.m. ผมชอบ Unit Plan นี้มากที่สุด คือ Unit Type C3
ซึ่ง Unit Plan นี้ เป็นแบบเดียวกับห้องตัวอย่างที่อยู่ในสำนักงานขายเลยนะครับ ( เสียดายตอนที่ผมเข้าไปดูห้องตัวอย่างยังไม่เรียบร้อย เลยไม่มีภาพประกอบนะครับ ) อย่างแรกเลยที่ผมชอบ Unit Plan นี้ คือ Living ได้พื้นที่ใหญ่มากๆ บวกกับบานกระจกเลื่อน บานใหญ่ 2 บานตรงทางออกระเบียง ให้ความรู้สึกถึงความแกรนด์ ดูหรูมากๆ และ ด้วยความที่เป็นตำแหน่งห้องหัวมุม ห้องอเนกประสงค์ ก็จะมีหน้าต่างสามารถรับแสงสว่าง ทำให้ห้องนี้ดูไม่ทึบ ส่วนห้อง Master Bedroom จะได้กระจกมุมเพื่อเปิดมุมมองการรับวิวภายในห้อง
1 Bedroom Loft : 28.40 – 38.95 sq.m.
ส่วนของ Unit Plan : 1 Bedroom Loft พระเอกของ Unit Plan นี้ นอกจาก Function สไตล์ Loft แล้ว ที่จะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ กับกระจกบางเลื่อนออกระเบียง ที่เป็นกระจกความสูง 3.7 เมตร คือ เพิ่มมิติการมองวิวให้ภายในยูนิตให้ดูโปร่งโล่งมากๆ
Floor Plan :
Ground Floor : Drop – Off , Lobby , Commercial Area , Automatic Parking and Parking
8 Floor Plan : ห้องชุดพักอาศัย และ Private Garden
9 – 28 Floor Plan : ห้องชุดพักอาศัย
29 – 29 M Floor Plan : Facilities Area ( Infinity Edge Pool , Sky Fitness , Steam , Adaptive Function Room , 24 Hrs. Community Space and Skyline Lounge )
Roof Top : Facilities Area ( Outdoor Cinema , Party Yard , Rooftop Pantry )
Facilities :
– 24Hrs Lobby with Concierge Service by The Reserve
– Adaptive Function Room – ห้องเอนกประสงค์ที่ออกแบบเป็นรูปแบบเสต็ปบันได สามารถใช้เป็นห้องส่วนตัวในการประชุม, Brainstorm, Lecture และชมภาพยนตร์เพื่อหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมได้
– 24 Hrs Community Space – พื้นที่ทำงานในรูปแบบ Co-working space ที่รองรับการคิด และสร้างสรรค์งานในทุกรูปแบบ ภายใต้พื้นที่สูงโปร่งและบรรยากาศสบายๆทั้งแบบ indoor และ outdoor workplace
– All-Day Pantry ภายใน Community Space ที่ทำหน้าที่เป็นบาร์อาหารเบาและเครื่องดื่ม พร้อมไว้ด้วยอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ ที่ทำให้ทุกการทำงานไม่ติดขัด
– Infinity Edge Pool – สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือที่เปิดมุมมองสู่พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของสวนจตุจักร
– Sky Fitness
– Skyline Lounge – มุมทำงานบนชั้นลอยเหนือสระว่ายน้ำ ที่มีความเป็นส่วนตัวและได้บรรยากาศของวิวปลายตาของเมืองกรุงเทพมหานคร
– Open Air Cinema – พื้นที่ชมภาพยนตร์ outdoor ที่ดาดฟ้าโครงการ
– Urban Forest (สวนหน้าโครงการ)
Service :
– บริการ Concierge Service by The Reserve ที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ช่วยเหลือในกิจธุระเล็กๆน้อยๆ เช่น บริการซักรีด บริการรับส่งพัสดุ บริการจองตั๋วต่างๆ เป็นต้น
– บริการพื้นที่จอดรถ ออกแบบไว้เป็น 2 ระบบ ทั้งแบบ Automatic car parking ที่ตอบสนองเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการจอดรถ และระบบ Conventional car parking ที่ตอบโจทย์การใช้งานในช่วงเร่งด่วนได้อย่างไม่ติดขัด
– บริการ Electric Car Charger นวัตกรรมการเติมไฟฟ้าให้กับรถยนต์ประเภทขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ที่เป็นทิศทางการพัฒนาของรถยนต์ในปัจจุบัน รองรับการใช้งานที่จะเปลี่ยนไปในอนาคต
– บริการ On-Demand Facility Control เป็นอุปกรณ์ Mobile Application จากทางโครงการ ที่ช่วยให้การใช้งาน Facility 24 ชั่วโมงเกิดขึ้นได้จริง ด้วยระบบการจองสิทธิ์และบันทึกเวลาการใช้ง่าย ผ่านการควบคุมจากนิติบุคคลฯ พร้อมอุปกรณ์ Motion Censor และ Timer ที่จะช่วยควบคุมการใช้งานของระบบปรับอากาศและแสงสว่างให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง
– บริการ High Speed Wireless Internet ในพื้นที่ล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลางของทั้งโครงการ
ที่จอดรถ : 50% of total units ( รวมซ้อนคันเป็นประมาณ 60% ) ที่จอดรถมี 2 ระบบ คือ Conventional และ Automatic Car Parking
ค่าส่วนกลาง / เงินกองทุน : Simplex (65) Loft (75) / 500 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่ม : 6.5 ล้านบาท *
https://www.youtube.com/watch?v=bdovWm5Er_U
ประมาณนี้ครับ สำหรับข้อมูลโครงการ และ ก่อนจะไปต่อกันที่ Unit Recommended : The Reserve Phahol-Pradipat by Pruksa ผมก็อยากจะขอสรุปความรู้สึก ที่ผมมีต่อโครงการนี้ให้รับทราบกันก่อนเนอะ เพราะ แนวทางในการเลือกผมสำหรับโครงการนี้ ผมคงจะขอยึดหลักการซื้อเพื่อการอยู่อาศํยเองและเกิดจากการเลือก Unit Plan Layout ที่ผมชอบเป็นหลัก
สำหรับโครงการนี้ผมชอบเรื่องของ Concept การออกแบบที่เน้นความเป็น Modern Timeless ที่เน้นความเรียบหรู ดูเท่ห์ (ผู้ชายน่าจะชอบ) , การออกแบบ Unit Plan Layout ที่มีการให้ความสำคัญกับพื้นที่ในส่วนของ Living ( ส่วนตัวชอบมากๆ ) , และ Facilities Area ที่รองรับการใช้งานแบบ 24 ชม. คือกลับถึงห้องเวลาไหนก็สามารถขึ้นใช้ Facilities Area ของโครงการได้ตลอด
ครับ และ จากเหตุผลความชอบที่มีต่อโครงการนี้ Unit Recommended : The Reserve Phahol-Pradipat by Pruksa ผมจึงจะของเลือกตำแหน่งดังต่อไปนี้
Unit Recommended : Option A
Unit Recommended : Option A
ผมขอเลือก 1 Bedroom Simplex Plus : ขนาด 48.7 ตร.ม. ตำแหน่ง 06 ระดับชั้นความสูง แนะนำชั้น 15 ขึ้นไป ตำแหน่งห้องมุม วิวหันออกทาง ทิศเหนือ และ ทิศตะวันตก
ข้อดี
– วิวในส่วนของ Master Bedroom และ Living เป็นวิวทิศเหนือ มองตรงไปทางจตุจักร และ ดังนั้นมุมนี้คือวิวที่เปิดโล่ง และ ถือว่าเป็นตำแหน่งวิวที่ดีที่สุดในโครงการ
– ด้วยความที่เป็นตำแหน่งห้องมุม ดังนั้น ทุก Function ภายในห้อง จะมีกระจก หรือ หน้าต่าง ช่วงในเรื่องของแสงสว่าง ความโปร่งโล่ง และการถ่ายเทอากาศภายในห้อง
– หัวนอน Master Bedroom ไม่ติดกับยูนิตห้องอื่น เพิ่มความเป็นส่วนตัว และ ตัดปัญหาสำหรับใครที่มีความกังวลเรื่องของเสียงรบกวนเวลานอนจากข้างห้อง
ข้อเสีย
– Master Bedroom หัวนอนหันไปทางทิศตะวันตก ส่วนของ Function ห้องอเนกประสงค์ ช่วงบ่ายจะได้รับแดดจากทิศตะวันตก จะทำให้เวลาอยู่ในห้องอเนกประสงค์ช่วงบ่ายจะ ร้อน
– พื้นที่ครัว เป็นครัวแบบเปิด ดังนั้น สำหรับใครที่มีความกังวลเรื่องของกลิ่นเวลาทำอาหาร จะมีกลิ่นติดตาม Furniture ภายในห้อง ก็ควรหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารหนักๆนะครับ
Unit Recommended : Option B
ผมขอเลือก 1 Bedroom Simplex : 34.05 Sq.m. ตำแหน่ง 01 ระดับชั้นความสูง 20 ขึ้นไป ตำแหน่งห้องมุม วิวหันออกทาง ทิศใต้ และ ทิศตะวันตก
สาเหตุที่ผมเลือก Unit Recommended : Option B เป็นตำแหน่งนี้ เพราะ ส่วนตัวผมชอบ Unit Plan Lay out นี้มากที่สุดครับ
ข้อดี
– อย่างที่บอกไปตอนต้น ว่า Unit Plan Layout นี้ ผมมองว่ามีความลงตัวและตอบโจทย์ Function การอยู่อาศัยสำหรับคนที่เน้น การอยู่อาศัยในส่วนของ Living ดังนั้นใครที่ชอบ Unit Plan ที่เน้น Living ตำแหน่งยูนิตนี้ตอบโจทย์แน่นอน
– บานหน้าต่างทั้ง 2 ด้านในส่วนของ Living โดยเฉพาะ บานหน้าต่างที่หันออกทางทิศใต้ คือ บานใหญ่มาก เพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งให้กับการอยู่อาศัยภายใน Living ได้ดีเยี่ยม
– หัวนอนหันไปทางทิศเหนือ วิวจากฝั่งหัวนอน ภายใน Master Bedroom เป็นวิวที่มองออกไปนอกโครงการดังนั้นมุมมองจะเปิดโล่งกว่า
ข้อเสีย
– วิวทิศใต้ ที่เป็นตำแหน่ง Living ถ้าดูจากภาพประกอบจะเป็นวิว ที่โดนบล็อก วิว คอนโด สูง 20 ชั้น แต่เดียวก่อนอย่าพึ่งตกใจไป … ด้วยความที่โครงการวางตำแหน่งห้อง Loft ไว้ในช่วงชั้น 8-13 ดังนั้น ซึ่งตำแหน่งห้อง loft ที่มีความสูงต่อชั้นเกือบ 5 เมตร ดังนั้นตั้งแต่ตำแหน่งชั้น 10 ปลายๆ วิวก็จะพ้น คอนโด ดังกล่าวแล้วแน่นอน แต่ถ้าจะเอาชัวร์สำหรับใครที่อยากจะเลือกตำแหน่งนี้ ผมก็ขอแนะนำว่าให้เลือกชั้นสูงๆไว้ก่อน แนะนำว่าควรเป็นตำแหน่งชั้น 20 ขึ้นไป ซึ่งราคาก็จะสูงตามความสูงด้วย (ลองดูนะครับ ถ้าสู้ราคาไหวผมว่าตำแหน่งดีจริง และ วิวจะเปิด สวยแน่นอน)
– ตำแหน่งห้อง หันหน้าออกไป ทางทิศตะวันตก ทั้งส่วนของ Master Bedroom และ Living ดังนั้นช่วงบ่ายจะร้อนแดด ครับ
ประมาณนี้นะครับ … เป็นไงกันบ้างครับ กับ Unit Recommended : The Reserve Phahol-Pradipat by Pruksa ตำแหน่งที่ผมเลือกไว้ มีตรงใจใครบ้างมั้ยเอย? และเช่นเคยครับ สำหรับใครที่สนใจโครงการนี้และอยากพิมพ์เข้ามาแลกเปลี่ยนมุมมองกับผมก็สามารถพิมพ์ Inbox เข้ามาสอบถามพูดคุยกันได้เช่นเคยนะครับ ผมยินดีและพร้อมช่วยเหลือทุกๆคนเสมอไม่ต้องเกรงใจนะครับ
โทรสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม : 1739
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ