Unit Recommended : The Tree Ladprao 15 by Pruksa
หากจะพูดถึงการอยู่อาศัย หรือ สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยสักแห่งเป็นของตัวเอง สิ่งแรกที่ใครหลายคนมักจะนึกถึง เป็นอันดับแรก คือ เรื่องอะไร? … ทำเล เหรอ ? หรือ จะเป็น Facilities สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ? หรือ จะเป็นเรื่องของวัสดุที่โครงการเลือกใช้ ? ผมว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะยังไม่ใช่สิ่งแรกหรอกที่ใครหลายคนจะนึกถึง สำหรับการมองหาที่อยู่อาศัย
ทำไมผมถึงพูดแบบนี้ ? ก็เพราะ สิ่งต่างๆที่กล่าวมานั้น คือ สิ่งที่ทำให้ที่อยู่อาศัย หรือ โครงการนั้นๆ เกิดมูลค่าเพิ่มซะมากกว่า จริงมั้ย ? ซึ่งมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นก็จะส่งผลต่อราคาขายของยูนิต
คือ ผมไม่ได้จะเถียงนะครับว่า โครงการติดรถไฟฟ้าทำเลดีๆ แล้วจะไม่ดี คือ ดีอะ มันดีครับ แต่ราคาโครงการใหม่ๆวันนี้ ราคาต่อตร.ม.ปาไปเท่าไรแล้ว … ดังนั้นหากการจะมองหาที่อยู่อาศัย โดยเน้นเรื่องของทำเล และ การเดินทาง เป็นหลัก สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณต้องแบกราคาที่สูงขึ้น และนั้น คือ ราคา ที่คุณจะต้องยอมจ่ายเพิ่ม
แต่ถ้าหากใครที่ยอมรับ ความแตกต่างของราคากับเรื่องของทำเลได้ และ กำลังมองหาที่อยู่อาศัย โดยโฟกัสไปที่เรื่องของ บรรยากาศ ความสงบในการอยู่อาศัย และลองปรับเปลี่ยนมุมมองในการเลือกที่อยู่อาศัย ตัวเลือกที่น่าสนใจจะมีเพิ่มมากขึ้น และ ราคาก็ไม่สูง หรือ แพงจนเกินความสามารถของตัวเราแน่นอน แล้วโครงการแบบไหนที่จะน่าสนใจละ ?
สิ่งแรก คือ เรื่องของการยอมรับทำเล โครงการที่อยู่ในทำเลที่ตัวเราคุ้นชิน เมื่อเราคุ้นชินในทำเลไหน การเดินทางก็ดูจะสะดวกขึ้นมาเลย จริงมั้ย? (อารมณ์แบบการเลือกซื้อบ้านเลย)
ต่อมา ก็ให้ลองมองหาโครงการที่ไม่ต้องเน้นว่าต้องติด สถานีรถไฟฟ้า หรือ ติดถนนใหญ่ ลองมองหาโครงการที่เข้าซอยย่อย … เพราะ พอเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยย่อย โครงการส่วนใหญ่ที่อยู่ในซอยย่อยจะเป็นรูปแบบโครงการคอนโดฯแบบ Low Rise เป็นหลัก ดังนั้นเรื่องที่จะมองหาความเป็นโครงการคอนโดฯ High Rise นี้ก็ตัดทิ้งได้เลย … เพราะมันไม่มีแน่นอน (เรื่องของกฎหมาย) โดยส่วนใหญ่ ราคาขายของโครงการ Low Rise ก็มักจะราคาต่ำกว่า โครงการ High Rise ในทำเลเดียวกันอยู่แล้ว
สุดท้ายก็ ให้ลองดูภาพรวมของโครงการที่คุณๆสนใจ ว่าโครงการแบบไหนที่มี Concept โครงการที่น่าสนใจ หรือ Facilities ต่างๆ ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ ว่าของโครงการไหนที่จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยของตัวคุณเองมากที่สุด …
แล้วตัวคุณก็จะได้คำตอบเอง ว่าที่ไหน หรือ โครงการอะไร ? คือ ที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับตัวคุณ จริงมั้ย?
ส่วนวันนี้โครงการที่ผมเลือกมาเขียน Unit Recommended ในครั้งนี้ ความน่าสนใจของโครงการนี้ เกิดจากความที่ส่วนตัวแล้ว ตัวผมเองเคยก็เคยอยู่อาศัยในทำเลที่ตั้งโครงการนี้มาก่อน และ มองว่าคนที่อยู่อาศัยในโซน ลาดพร้าว กับเรื่องของการยอมรับทำเลที่อยู่อาศัยในซอยย่อย ดูจะเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เผลอๆ จะมองเป็นเรื่องปกติซะด้วยซ้ำ และ เมื่อมองเรื่องของ Concept โครงการ , วัสดุงานก่อสร้าง , Facilities และ สุดท้าย คือ เรื่องของราคา (ราคาต่อตร.ม. ไม่ถึงหลักแสน ทำเล ลาดพร้าว ตอนต้น) ทั้งหมดที่กล่าวมา
ผมเลยมีความเชื่อว่าโครงการนี้น่าจะได้รับความสนใจ จากคนในทำเล ลาดพร้าว แน่นนอน โครงการที่ผมกำลังจะพูดถึงนั้นก็คือ โครงการ The Tree Ladprao 15 by Pruksa
Project Information :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ถนน ลาดพร้าว ซอย 15 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ( 1 กม.จาก MRT สถานี ลาดพร้าว )
ขนาดที่ดิน : 1-2-92 ไร่
ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : ห้องชุดพักอาศัย 214 ยูนิต
Unit Type :
Superior : 22.30 – 23.35 Sq.m.
Deluxe : 24.35 Sq.m.
Premier : 25.90 – 27.25 Sq.m.
Suite : 29.30 – 30.30 Sq.m.
สำหรับใครที่ได้มีโอกาสแวะไปที่สำนักงานขายของโครงการ The Tree Ladprao 15 by Pruksa (สำนักงานขายโครงการของโครงการนี้จะตั้งอยู่แถว ซ.ลาดพร้าว 5 นะครับ)มาก่อนแล้ว ห้องตัวอย่างที่สำนักงานของโครงการจะเป็น Unit Plan แบบ Suite : 29.30 – 30.30 Sq.m. ซึ่งผมก็ได้มีโอกาสแวะเข้าไปเก็บภาพห้องตัวอย่างมาฝากให้ชมกันครับ
ด้วยความที่ Unit Plan แบบ Suit จะเป็นยูนิตที่อยู่ในตำแหน่งมุมของแต่ละชั้น ดังนั้นจะมีส่วนของบานหน้าต่าง บริเวณด้านหลังของตำแหน่งโซฟาเพิ่มเข้ามา เพื่อเป็นการเพิ่มช่องรับแสงสว่างให้กับภายในพื้นที่ของ Function : Living
ส่วนของพื้นที่ Function : Living กว้างขวางมากๆ แบ่งสัดส่วน Function : Dining + Kitchen ด้วยกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ 2 ตอน ซึ่งทำให้พื้นที่ในส่วนของการรับแสงสว่างภายในห้องมีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การอยู่อาศัยภายใน Function : Living ดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด
ส่วนของ Function : Bedroom มีการแบ่งสัดส่วนกับพื้นที่ของ Function : Living ด้วยบานประตูทึบ เปิด-ปิด เพื่อเพิ่มความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวให้กับ Function : Bedroom มากยิ่งขึ้น ส่วนตู้เสื้อผ้าทางโครงการมีการ Build In มาให้ตามแบบในห้องตัวอย่างเลยนะครับ
Floor Plan :
Main Building (2 – 8 Floor) : ยูนิตพักอาศัย
Club House Building : พื้นที่ในส่วนของ Facilities ต่างๆภายในโครงการนี้ ทางโครงการจะทำการแยกส่วนของพื้นที่ Facilities ออกจากส่วนของตัวอาคารพักอาศัย โดยการแยกเป็นส่วนของ Club House Building อยู่บริเวณพื้นที่ตรงกลางของโครงการ ซึ่งการจัดวางแบบนี้จะทำให้พื้นที่ภายในโครงการมีความร่มรื่นมากยิ่งขึ้น
Facilities :
Main Building
• 1st Floor : Exclusive & Elegant Lobby Hall (โถงต้อนรับ) , Lucent & Shady Glass House (โซนพักผ่อน) , Superior & Panoramic Grand Garden (สวนส่วนกลาง) , Mail Box Zone (ห้องตู้รับจดหมาย)
Exclusive & Elegant Lobby Hall (โถงต้อนรับ)
Lucent & Shady Glass House (โซนพักผ่อน)
Mail Box Zone (ห้องตู้รับจดหมาย)
• 8 Floor : Social & Connection Space (ห้องอเนกประสงค์)
• Rooftop : Superior & Panoramic Rooftop Garden (สวนพักผ่อนลอยฟ้า ชั้น 8)
Club House Building
• 1st Floor : Refresh & Relieve Aqua Pool (สระว่ายน้ำ) , Healthy & Fine Fitness (ห้องฟิตเนส) , Swimming Jet (บริเวณออกกำลังกายของสระว่ายน้ำ) , Blazing classic space (มุมปลายสระ)
• Rooftop : Superior & Panoramic Sky-Height Garden (สวนพักผ่อนบนอาคาร Club House)
ที่จอดรถ : ประมาณ 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
ค่าส่วนกลาง / เงินกองทุน : 49 / 500 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่ม : 1.76 ล้านบาท* (ราคาต่อตารางเมตร เฉลี่ย 87,000 บาท/ตร.ม.)
และก็มาถึง การเลือกตำแหน่ง Unit Recommended : The Tree Ladprao 15 by Pruksa ซึ่งก็เหมือนทุกครั้งนะครับ สำหรับบทความ Unit Recommended ตำแหน่งยูนิตที่ผมจะเลือก ทั้ง 2 Option ผมจะเลือกจากตำแหน่งที่ดีที่สุด โดย Option A – ผมจะขอเลือกจากตำแหน่งยูนิตที่ดีที่สุดของโครงการนี้ (ในมุมมองของผมนะ) ส่วน Option B – ผมจะขอเลือกตำแหน่งยูนิต โดยมีการคำนึงถึงเรื่องของงบประมาณในการซื้อ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะครับ แต่ Unit Recommended ทั้ง 2 Option ผมขอย้ำว่า ผมเลือกให้สำหรับคนที่สนใจโครงการนี้ไว้เพื่อการอยู่อาศัยเองเป็นหลักนะครับ
Unit Recommended : Option A
ผมขอเลือก Unit Plan แบบ Suite ขนาด 29.30 – 30.30 Sq.m. ตำแหน่ง 17 ระดับชั้นความสูงแนะนำชั้น 3 – 4
โดยยูนิตในตำแหน่งนี้จะเป็น Unit Plan รูปแบบเดียวกับห้องตัวอย่างที่ผมได้นำเสนอไปในตอนต้น ซึ่งความน่าสนใจของ ยูนิตตำแหน่งนี้ ทำไมผมถึงเลือกมาเป็นตำแหน่ง Unit Recommended : Option A ของโครงการ The Tree Ladprao 15 by Pruksa
ข้อดี
– Unit Plan นี้มีการจัดวาง Function ที่ลงตัว ขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป แบ่งสัดส่วนของ Bedroom กับส่วนของ Living ชัดเจน และ ด้วยความที่เป็นตำแหน่งยูนิตนี้เป็นตำแหน่งมุม ทำให้มีช่องกระจกรับแสงเพิ่มเติมเข้ามาบริเวณด้านหลังส่วนของตำแหน่งการวางโซฟา แถมในส่วนของฉากกันบานเลื่อน ที่กันระหว่าง Living กับส่วนของ Dining และ Kicthen ยังเป็นบานกระจกบานใหญ่ 2 บาน ส่งผลให้ภาพรวมของการอยู่อาศัยภายใน Living ได้รับความสว่างและดูปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น
– ตำแหน่งของยูนิตที่แนะนำวิวที่ได้จะเป็นวิวสระว่ายน้ำของโครงการ แถมยังเป็นวิวที่มีความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ เนื่องจากออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้ทางโครงการเค้าจัดวางส่วนของ Club House Building ไว้ขั้นกลางระหว่างยูนิตการอยู่อาศัยกับพื้นที่ของสระว่ายน้ำของโครงการ เพื่อเพิ่มความส่วนตัว ซึ่งการทำแบบนี้ยิ่งจะทำให้ ยูนิตในตำแหน่ง Unit Recommended : Option A ดูมีความ Rare มากขึ้นไปอีก เพราะเป็นตำแหน่ง เดียวที่จะได้วิวสระว่ายน้ำของโครงการแบบเต็มๆ
– สำหรับข้อนี้ เพื่อเป็นการย้ำหลักในการเลือกตำแหน่งยูนิตในโครงการคอนโดฯ ประเภท Low Rise เฉยๆนะครับ ว่าคุณภาพของวิวภายในโครงการเป็นสิ่งที่เจ้าของโครงการ หรือ ลูกบ้าน สามารถควบคุมคุณภาพให้ออกมาสวยดูดีได้ ดังนั้น การเลือกตำแหน่งส่วนใหญ่ของ Unit Recommended สำหรับโครงการคอนโดฯ ประเภท Low Rise ผมก็มักจะมองหาตำแหน่งยูนิตที่อยู่ด้านในเป็นหลักเสมอครับ
ข้อเสีย
– ด้วยความที่เป็นตำแหน่งยูนิตที่หันหน้าออกไปทางทิศตะวันตก ดังนั้นเรื่องของแสงแดดตอนบ่าย ตำแหน่งยูนิตนี้ รับแดดช่วงบ่ายเต็มๆแน่นอน ทำใจได้เลยครับ เตรียมเงินเพิ่มสำหรับติดม่าน หรือ ติดฟิลม์กันแดด รอกันได้เลยครับ
– ด้วยความที่เป็นตำแหน่งยูนิต มุม ดังนั้นทำให้ในส่วนของ Living จะมีเสาโผล่ยื่นเข้ามาเกะกะนิดหน่อย บริเวณตำแหน่งที่วางโซฟานะครับ
– ตำแหน่งยูนิตนี้เป็นตำแหน่งมุมที่อยู่ในตำแหน่งด้านในสุดของโครงการ และ ด้วยความที่ขนาดของโครงการไม่ใหญ่ ดังนั้น ตำแหน่งของลิฟท์ในแต่ละชั้นจึงมีแค่เพียงตำแหน่งเดียว ทำให้สำหรับตำแหน่งยูนิตนี้ ถือว่ามีระยะเดินจากตัวลิฟท์ ไกลสุดเลยครับ ใครที่กลับบ้านมาถือของหนักๆ มีเหนื่อยกันแน่นอนครับ
Unit Recommended : Option B
สำหรับ Option B ผมจะขอเลือกตำแหน่งโดยมีการคำนึงถึงเรื่องของงบประมาณในการซื้อ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะครับ เผื่อให้สำหรับใครที่มีงบประมาณในการซื้อที่จำกัดจริงๆ หรือ ไม่อยากได้ยูนิตที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่มากนัก เอาแบบว่าอยากเอาไว้อยู่อาศัยคนเดียว ดูแลง่ายสบายกระเป๋า จริงๆก็มีตำแหน่งยูนิตทางเลือกอยู่หลายตำแหน่งเลยนะ แต่ด้วยความดื้อส่วนตัว ผมก็จะยืนยันที่จะขอเลือกตำแหน่งยูนิตที่เป็นวิวด้านในโครงการเป็นหลักเช่นเคย แต่ก็คิดว่าตำแหน่งนี้ก็ถือว่าวิวพอใช้ได้ และ ราคาน่าจะออกมาไม่สูงมากนักด้วย
ตำแหน่งที่ ผมจะขอเลือก สำหรับ Unit Recommended : Option B ก็คือ Unit Plan แบบ Superior ขนาด 23.35 Sq.m. ตำแหน่ง 20 ระดับชั้นความสูงแนะนำชั้น 4 – 6 (ความสูงเป็นนัยสำคัญนะครับสำหรับตำแหน่งนี้ เพื่อให้มุมมองที่มองออกมาจากภายในห้อง สามารถเห็นพื้นที่สีเขียวบนส่วน Rooftop ของพื้นที่ Club House ของโครงการ)
ข้อดี
– เป็น Unit Plan แบบ Superior ขนาด 23.35 Sq.m. ซึ่งถ้าเลือกตำแหน่งยูนิตนี้ ที่ระดับความสูงประมาณชั้น 4 – 6 จะเป็นตำแหน่งยูนิตที่จะสามารถมองเห็นวิว สวนพื้นที่สีเขียวภายในโครงการบริเวณสวนด้านบน Rooftop ของ Club House Building ได้พอดีเลย
– ด้วยความที่ขนาดพื้นที่ห้องที่ไม่ใหญ่มากนัก จะช่วยในเรื่องของการควบคุมให้ราคาต่อยูนิตของยูนิตนี้ไม่สูงมากนักได้ (ราคาน่าจะอยู่ประมาณ ล้านกลางๆนะ) และ ด้วยความที่ว่าตำแหน่งนี้ แอบเป็นตำแหน่งห้องที่มีตำหนินิดหน่อย (เดียวไว้ค่อยเอาไปพูด ในส่วนของข้อเสียแนะ) แต่ข้อดีที่ได้กลับมา คือ เรื่องของราคาที่ไม่น่าจะสูงมากนัก เมื่อเทียบกับตำแหน่งอื่นๆ ที่อยู่ในวิวด้านในโครงการ
– ถ้าดูจาก Unit Plan ของตำแหน่งยูนิตนี้ การจัดวาง Function จะเป็น แบบ Studio Type ซึ่งเอาจริงๆ ผมว่าแบบนี้แหละดีแล้ว มันจะทำให้การที่ยูนิตมีพื้นที่ที่ไม่ใหญ่ จะได้ไม่ดูอึดอัดหรือคับแคบเกินไป ด้วยฉากกั้นแบ่ง Function เพื่อพยายามทำให้เป็น Function ห้องแบบ 1 Bedroom แต่แม้จะไม่มีฉากกั้นที่แบ่ง Function : Living กับ Bedroom ออกจากกัน แต่การที่มีการใส่ฉากกั้นบานเลือนในส่วนของ Function : Kitchen & Dining อันนี้ผมมองว่าทางโครงการคิดมาดีครับ ชอบและดูลงตัวเลยครับ สำหรับ Unit Plan ห้องเล็ก แบบ Superior ขนาด 23.35 Sq.m.
ข้อเสีย
– อย่างทีผมได้เกริ่นไว้ในข้อดี ว่าตำแหน่งยูนิตนี้จะมีตำหนิอยู่นิดหน่อย ในเรื่องของ วิว ที่เวลาเรามองตรงออกมาจากภายในห้อง จะถูกส่วนของบันได้หนีไฟ บล็อกสายตา บล็อกวิว และ ดูแล้วเหมือนส่วนของระเบียงของยูนิตตำแหน่ง 19 มันดูจะอยู่ใกล้ชิดกับส่วนของบานหน้าต่างของตำแหน่งยูนิตนี้ซะเหลือเกิน จนแอบน่าเป็นห่วงหน่อยๆนะ
ก็จะประมาณนี้นะครับ สำหรับบทความ Unit Recommended : The Tree Ladprao 15 by Pruksa กับโครงการที่ผมมองว่า ถ้าสำหรับใครที่ชอบโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise และ ทำเลที่ตั้งโครงการที่มีรูปแบบความ Residential (ทำเลที่เป็นการอยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยว) โดยเฉพาะ คนลาดพร้าว ที่น่าจะมีความเข้าใจเรื่องของทำเลที่ตั้งโครงการและเส้นทางการเดินทางเข้าออกโครงการ ที่สามารถเชื่อมต่อทะลุเข้า-ออก ถนนเส้นหลักได้หลายเส้นทางเลย ผมว่าน่าจะชอบโครงการนี้แน่ๆ
สำหรับใครที่สนใจโครงการนี้ ผมแนะนำว่าลองแวะไปชมห้องตัวอย่างได้ที่สำนักงานขายโครงการ และ ก็เช่นเคยนะครับ สำหรับใครที่สนใจโครงการนี้ และ อยากพิมพ์เข้ามาแลกเปลี่ยนมุมมองการเลือกตำแหน่งยูนิตในโครงการกับผม ก็สามารถพิมพ์ Inbox เข้ามาสอบถามพูดคุยกันได้เช่นเคยนะครับ ผมยินดีและพร้อมช่วยเหลือทุกๆคนเสมอไม่ต้องเกรงใจนะครับ
และสำหรับโครงการ The Tree Ladprao 15 by Pruksa ทางโครงการเค้าจะมีการจัดงาน VIP Day ในวันที่ 3 – 4 ก.พ. นี้
ซึ่งภายในงานนอกจากจะได้เลือกห้องตำแหน่งสวยๆราคาดีๆแล้ว ยังมีส่วนลดพิเศษ และ Gift Voucher (มูลค่าสูงสุด 15,000 บาท) เพิ่มให้อีก ” พิเศษสำหรับลูกค้าที่จองภายในงานเท่านั้น “
สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไป ลงทะเบียน หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://thetreecondo.pruksa.com/pre-sale/901-ladprao15#home
โทรสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม : 1739
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ