Project : The Tree Sukhumvit – Rama 4 by Pruksa
วัน – เวลา คือ สิ่งที่ไม่เคยรอใครจริงๆนะครับ … เผลอแปบเดียวปี 2562 ก็กำลังจะผ่านเราไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว ตลอดทั้งปีนี้สำหรับตลาดอสังหาฯโดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆในทำเลใจกลางเมืองก็ดูแอบจะเงียบเหงาไปสักหน่อยเนอะเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ
ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา…ยอมรับเลยว่าเงียบจริงๆนะครับ โดยเฉพาะทำเลที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีราคาต้นทุนที่ดินที่สูงกว่าหลายๆทำเล ซึ่งผมคิดแบบนั้นจริงๆนะ แต่จนแล้วจนรอด “สุขุมวิท ยังไงก็ยังคือ สุขุมวิท … ทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการพัฒนาโครงการและมีความต้องการที่อยู่อาศัยมากที่สุดทำเลหนึ่งของกรุงเทพฯ”
ซึ่งหวยงวดนี้ก็มาตกตรงทำเลอย่าง สุขุมวิท – พระราม 4 นั้นเองครับ [ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนง] บอกเลยว่าทำเลนี้ ชั่วโมงนี้ จัดว่าร้อนแรง แสงไฟส่องสว่างวาบขึ้นมาทันทีเลยนะครับ
หลังจากที่ใครหลายคนก็น่าจะพอทราบกันเนอะ ว่าทำเลนี้กำลังจะมีโครงการคอนโดเนียมจาก Developer หลากหลายเจ้า หลายหลายแบรนด์ดัง ที่เตรียมจะทะยอยมาเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อแย่งชิงกลุ่ม Real Demand ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ในทำเลที่ยังได้ทั้งความเป็น สุขุมวิท เดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS และที่สำคัญคือในราคาที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ใครหลายๆคนยังพอที่จะจับต้องกันได้อยู่นั้นเอง
ด้วยปัจจัยจากที่กล่าวมาทั้งหมดในตอนต้น บวกกับพื้นฐานการยอมรับทำเลและราคาของกลุ่ม Real Demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัยทำเลในเมืองที่ถูกตรีตราด้วยคำว่า “สุขุมวิท” เลยทำให้กระแสของโครงการทั้งหมดที่เตรียมจะมาเปิดตัวกันบนทำเลนี้ได้รับความสนใจจากคนในทุกๆกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่มีต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองเพื่อการอยู่อาศัย [Real Demand] หรือ กลุ่มนักลงทุน [Investors]
จนทำให้ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น หลายๆคนน่าจะได้เห็นหรือได้ยินการเปรียบเทียบถึงโครงการต่างๆกันอย่างคึกคัก โครงการนั้น โครงการนี้ ดีกว่ากันอย่างนั้น ดีกว่ากันอย่างนี้ ทั้งที่เห็นข้อมูลแล้วบ้างหรือแบบที่ยังไม่มีข้อมูลประกอบเน้นการคาดเดากันไปต่างๆนาๆ
ซึ่งสุดท้าย … สำหรับใครที่เลือกที่จะรอเปรียบเทียบ ก็ต้องบอกเลยครับว่าก็รอกันต่อไปนะครับ … เพราะผมว่าบางโครงการการพัฒนาโครงการยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ยังไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างเลยซะด้วยซ้ำนะครับ เผลอๆกว่าจะเปิดขายจริงหรือเปิดให้ชมห้องตัวอย่างได้ อาจต้องข้ามไปถึงกลางปีหน้าโน้นเลย แต่ Developer เค้าแค่ออกข่าวมาเพื่อลดกระแสความร้อนแรงของโครงการที่กำลังจะเปิดขายอยู่ในตอนนี้ต่างหากรวมถึงเพื่อเป็นการชะลอ Demand อะเนอะ
โดยโครงการที่ผมอยากจะขอหยิบยกมาพูดถึงในบทความนี้ นั้นก็คือโครงการ The Tree Sukhumvit – Rama 4 by Pruksa โครงการแรกจากทาง Pruksa ที่มาเปิดหัวพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลนี้นั้นเองครับ
ซึ่งความน่าสนใจของโครงการนี้ในมุมมองของผม นอกจากการที่โครงการนี้เป็นโครงการแรกที่มาเปิดบนทำเลนี้แล้ว เรื่องของรูปแบบการพัฒนา Concept ของตัวโครงการนี้ สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาระหลักที่ทำให้โครงการนี้มีความน่าสนใจมากๆ
และจากการที่ผมมีโอกาสได้เห็นการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ The Tree by Pruksa มาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา พอผมได้เห็นภาพ Tive ของโครงการนี้ในส่วนของตัวอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง [Facilities Area] ก็ต้องขอบอกเลยว่า … โครงการ The Tree Sukhumvit – Rama 4 by Pruksa เป็นโครงการที่เป็นที่สุดของโครงการภายใต้แบรนด์ The Tree by Pruksa อย่างแท้จริง
โดยรูปแบบของการพัฒนาโครงการนี้ ทาง Pruksa ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของงานออกแบบตัวอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง [Facilities Area] ให้มีความโดดเด่นและหรูหราในสไตล์ Modern เพื่อให้ตอบโจทย์ Segment ของโครงการที่มีการอัพเกรดให้สูงขึ้นและตอบโจทย์ความคาดหวังที่อยู่อาศัยที่ดีของกลุ่มเป้าหมายที่เป็น Real Demand บนทำเลนี้นั้นเอง
สำหรับบทความนี้นอกจากผมจะพูดถึงในส่วนของ Project Informantion ที่น่าสนใจของโครงการนี้แล้ว ผมจะทำการวิเคราะห์ในส่วน Function Layout ของ Unit Plan ที่เป็นห้องตัวอย่างของโครงการนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้กับใครที่กำลังให้ความสนใจโครงการนี้เช่นเคยนะครับ
Project Information :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ [ประมาณ 600 เมตรจากรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนง]
ขนาดที่ดิน : 1 – 3 – 20 ไร่
ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย HighRise ความสูง 29 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : 406 ยูนิต + ร้านค้า 3 ยูนิต
Unit Type : ห้องตัวอย่างของโครงการนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 ยูนิต นั้นก็คือ Unit Plan : 1 Bedroom Leisure Type ขนาดพื้นที่ 23.6 ตร.ม. [ยูนิตขนาดเริ่มต้น] และ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 45.45 ตร.ม. และด้วยความที่ Unit Plan ของโครงการนี้มีความหลากหลายและแตกต่างกันทำให้มีอยู่หลายๆ Unit Plan ที่มีความน่าสนใจในมุมที่แตกต่างกันออกไป
ดังนั้นสำหรับการวิเคราะห์ในส่วนของ Unit Plan ของโครงการนี้ ผมจะขอเลือก Unit Plan ที่ผมมองว่ามีมุมมองที่น่าสนใจมาพูดถึงเพิ่มให้นอกเหนือจาก Unit Plan ที่เป็นห้องตัวอย่างนะครับ
1 Bedroom Leisure Type ขนาดพื้นที่ 23.6 – 29.1 ตร.ม.
สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom Leisure Type ขนาดพื้นที่ 23.6 ตร.ม. [ยูนิตขนาดเริ่มต้น] เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก็จะพบกับส่วนของพื้นที่ทางเดินหลักของตัวห้องที่เป็นพื้นที่ Function : Kitchen ซึ่งข้อดีของพื้นที่ Function นี้คือการจัดสรรพื้นที่ในส่วนนี้ได้ออกมากว้าง ดังนั้นความรู้สึก First Impression เมื่อเดินเข้ามาจะรู้สึกได้ว่าห้องดูโปร่งและไม่รู้สึกว่าคับแคบแต่อย่างใด
พื้นที่ในส่วนของ Function : Kitchen จะถูกจัดวางเป็นแบบเคาน์เตอร์ ขนานไปกับพื้นที่ทางเดินหลัก โดยจะมีการกั้นในส่วนของพื้นที่นี้กับส่วนของพื้นที่การอยู่อาศัยหลักด้านในด้วยฉากกั้นกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ เพื่อเป็นการช่วยเรื่องการแบ่งความเป็นสัดส่วนของพื้นที่นั้นเอง
ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom จะอยู่ฝั่งตรงข้ามของส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen โดยภายใน Function จะเป็นแบบ 3 Fixtures มีการแบ่งส่วนพื้นที่เปียก-แห้งด้วยฉากกั้นกระจก รูปแบบวัสดุที่เลือกใช้มีความหรูหราดูดีเลยทีเดียวครับ
พื้นที่หลักในส่วนของการอยู่อาศัยภายใน Unit Plan นี้ การตกแต่งจะทำให้เราเห็นว่าพื้นที่ในส่วนนี้จะสามารถจัดวาง Function ได้ทั้ง เตียงนอน โต๊ะทำงาน และ พื้นที่นั่งเล่น หรือ มุมอ่านหนังสือ
พื้นที่ในส่วนของ Function ที่เป็นตำแหน่งจัดวางโซฟาสำหรับนั่งเล่น หรือ เป็นมุมอ่านหนังสือ จะถูกจัดวางไว้อยู่ในตำแหน่งที่ติดกับบานหน้าต่างของห้อง
ส่วนของพื้นที่ Function : โต๊ะทำงาน จะถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งเดียวกับผนังฝั่งของชั้นวางทีวี … ใช้ทุกพื้นที่ของห้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดและดูลงตัวดีครับ
บทสรุปเพิ่มเติม … แม้ว่าพื้นที่ของห้องจริงอาจมีขนาดไม่ใหญ่นัก [ขนาดพื้นที่ 23.6 ตร.ม.] แต่ Function การอยู่อาศัยหลักๆภายในห้องก็ถือว่าสามารถรองรับการอยู่อาศัยได้ครบเลยนะครับ เหมาะสำหรับใครที่อยู่อาศัยแบบ Single นะครับสำหรับ Unit Plan นี้
1 Bedroom Private Type ขนาดพื้นที่ 26.7 – 34.2 ตร.ม.
ส่วนของ Unit Plan : 1 Bedroom Private Type ผมขอเลือกมาวิเคราะห์เพิ่มเติมให้ทั้งหมด 3 ยูนิตนะครับ มาดูกันว่ามี Unit Plan ไหนที่น่าสนใจกันบ้างนะครับ
Unit Plan : 1 Bedroom Private Type ขนาดพื้นที่ 26.7 ตร.ม. แบบ 1B1 สำหรับ Unit Plan นี้เป็นหนึ่งใน Unit Plan ที่ผมชอบมากที่สุดนะครับ
ด้วยเหตุผลที่ว่า Unit Plan นี้เป็นการจัดวาง Function เป็นแบบห้องหน้ากว้าง และ ส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining ที่ตำแหน่งหลักที่เป็น First Impression แรกเมื่อเราเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง จะทำให้ห้องดูโปร่งโล่งกว่าง Unit Plan แบบอื่นๆนั้นเองครับ
Unit Plan : 1 Bedroom Private Type ขนาดพื้นที่ 31.7 ตร.ม. แบบ 1B7
การจัดวางพื้นที่ของ Function ต่างๆของ Unit Plan นี้ จะให้ความสำคัญกับพื้นที่ Function : Living และ Bedroom ในสัดส่วนพื้นที่ใกล้เคียงกัน ส่วนของพื้นที่ส่วน Function : Kitchen จะอยู่บริเวณด้านข้างทางเดินออกสู่พื้นที่ระเบียงด้านนอกของตัวห้อง เพื่อแยกสัดส่วนกับพื้นที่ในส่วนของ Function อื่นๆกันชัดเจน
ด้วยการมีขนาดของพื้นที่ห้องที่ใหญ่ ดังนั้นสำหรับการจัดวาง Function แบบ Unit Plan นี้จะได้ความรู้สึกที่ดูลงตัวและเป็นสัดส่วนมากๆนะครับ เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยแบบ 1-2 คน
1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 36.4 – 37.95 ตร.ม.
Unit Plan :1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 37.35 ตร.ม.
สำหรับ Unit Plan นี้ ผมว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆคนเลยนะครับ โดยเฉพาะกลุ่ม InsoClass ความน่าสนใจของ Unit Plan นี้คือการออกแบบ Function Layout ของห้องให้ออกมาเป็นห้องหน้ากว้าง โดยพื้นที่ในส่วนของ First Impression เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining ขนาดใหญ่+หน้ากว้างอีก [เป็นอีกหนึ่ง Unit Plan ที่สวยมากๆ]
ส่วนของพื้นที่ Function รองอย่าง Function : Kitchen หรือ ห้องอเนกประสงค์ ก็ถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่ไม่เกะกะสายตาและได้ความเป็นสัดส่วนดีลงตัวเลยครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom โดดเด่นด้วยขนาดพื้นที่ และได้ทางเข้าในส่วนของ Function : Bathroom เพิ่มเข้ามาทำให้สะดวกมากขึ้นในการใช้งานพื้นที่ในส่วนนี้
เป็นอีกหนึ่ง Unit Plan ที่น่าสนใจมากๆ เสียดายทางโครงการน่าจะเลือก Unit Plan นี้มาทำเป็นห้องตัวอย่างนะครับ แต่ก็เข้าใจได้ว่าด้วยจำนวนยูนิตที่มีไม่เยอะ และถ้า Rare ขนาดนี้ก็น่าจะเป็น Unit Plan ที่ขายได้ด้วยตัวมันเองอยู่แล้วอะ [ส่วนตัวอยากเห็น Unit Plan นี้ตอนที่โครงการสร้างเสร็จเลยนะครับ]
2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 41.9 – 64.2 ตร.ม.
มาต่อกันด้วย Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 45.45 ตร.ม. ที่เป็นห้องตัวอย่างของโครงการและ Unit Plan สุดท้าย ที่ผมจะนำมาวิเคราะห์ Function Layout ให้กับโครงการนี้นะครับ
จุดเด่นของ Unit Plan นี้นอกเหนือจากเรื่องของ Function Layout ผมขอยกให้เป็นเรื่องของตำแหน่งวิวของห้องนี้นะครับ วิวที่จะได้จากภายใน Unit Plan นี้ คือ City View ฝั่งพระราม 4 [ตำแหน่งชั้นสูงๆสวยแน่นอนครับ ]
ในส่วนของ Function Layout ของ Unit Plan นี้ เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining โดยตำแหน่ง Function นี้จะอยู่ติดกับส่วนของกระจกด้านข้างและพื้นที่ระเบียงด้านนอกของตัวห้อง
โดยตำแหน่งการจัดวางในส่วนของ Function : Dining จะอยู่บริเวณด้านหลังของตำแหน่งโซฟา โดยรูปแบบของโต๊ะทานข้าวจะเป็นแบบเคาน์เตอร์บาร์รองรับแบบ 2 ที่นั่งนะครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen จะเป็นรูปแบบครัวปิด ตำแหน่งการวางจะอยู่บริเวณด้านข้างของส่วนพื้นที่ Function : Living ซึ่งส่วนของพื้นที่จะรวมอยู่กับส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom และมีฉากกั้นบานเลื่อนเพื่อแยกสัดส่วนของพื้นที่ในส่วนนี้ออกจากพื้นที่ Function : Living ด้วยนะครับ
ภายใน Function : Bathroom จะเป็นรูปแบบ 3 Fixtures พื้นที่ Function นี้สำหรับรองรับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยใน Function : Bedroom และ Living
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedrroom การแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ถือว่าลงตัวดีและได้ความโปร่งโล่งจากบานกระจกด้านข้างขนาดใหญ่ ทำให้เวลาที่เราอยู่อาศัยจริงภายในพื้นที่ Function นี้จะไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบแต่อย่างใด
ส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom นอกจากขนาดพื้นที่ภายในที่มีขนาดใหญ่แล้ว จากงานออกแบบของตัวอาคารทำให้ Unit Plan นี้มีความพิเศษมากขึ้น ด้วยการมีบานกระจกแบบเข้ามุม ซึ่งสำหรับใครที่ซื้อ Unit Plan นี้ไว้ ผมแนะนำว่าตำแหน่งกระจกเข้ามุม พื้นที่ตรงส่วนนี้ถ้าจัดวางเป็นเก้าอี้สวยๆสักตัว ไว้นั่งชมวิว City View ฝั่งพระราม 4 ยามค่ำคืน ก็น่าจะเป็นอีกมุมโปรดของห้องได้เลยนะครับ
ภายในส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom จะเพิ่มความพิเศษและบ่งบอกความเป็น Function : Master Bedroom ด้วยการมีพื้นที่ในส่วนของ Function : Private Bathroom อยู่ภายในห้องด้วยนะครับ โดยรูปแบบจะเป็นแบบ 3 Fixtures เช่นกันนะครับ
Floor Plan :
Facilities :
Ground – Lobby , Lobby Lounge , Private Lobby , Garden , Mailbox





Crystal Cloud
28 Fl. Networking Space , 29 Fl. Fitness , Sky Lounge , Warm Jacuzzi , Lap Pool

ที่จอดรถ : 160 คัน หรือ ประมาณ 39% [ไม่นับรวมจอดซ้อนคัน]
ค่าส่วนกลาง / เงินกองทุน : 65 / 600 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 2.59 ล้านบาท *** 1 Bedroom Leisure Type ขนาดพื้นที่ 23.6 ตร.ม. [Fully Fitted]
สำหรับบทความ Project : The Tree Sukhumvit – Rama 4 by Pruksa ในครั้งนี้ ก็จะประมาณนี้นะครับ กับโครงการที่เป็นที่สุดของโครงการภายใต้แบรนด์ The Tree by Pruksa ในขณะนี้
ย้ำว่า …ในขณะนี้นะครับ เพราะผมเชื่อว่าแบรนด์นี้และทีมผู้พัฒนาโครงการคงจะไม่หยุดที่จะพัฒนาโครงการดีๆอย่างของโครงการนี้เพิ่มเติมเข้ามาในอนาคตแน่ๆ 5555+ และผมก็กล้าพูดอย่างเต็มปากเลยว่านี้ คือ หนึ่งในโครงการที่ผมเห็นถึงรูปแบบการพัฒนาที่ดีในเชิงบวก เพื่อให้ตัวโครงการนี้ตอบโจทย์สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ดี Unit Plan หรือของที่ได้มีความสอดคล้องกับราคาขายและทำเลการอยู่อาศัยใจกลางเมือง ณ ขณะนี้
สุดท้ายนี้สำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการนี้ หรือกำลังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลเมืองเดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS ผมว่าโครงการนี้คือหนึ่งในโครงการที่คุณควรหาเวลาแวะเวียนไปชมโครงการกันนะครับ และถ้าใครที่แวะไปชมห้องตัวอย่างของโครงการมาแล้วหรืออ่านบทความนี้แล้วมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงการนี้ก็สามารถ Inbox เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกับทางผมได้ทาง Inbox เช่นเคยนะครับ
เพิ่มเติม …
The Tree Sukhumvit – Rama 4 by Pruksa
จองวันนี้ … รับส่วนลดสูงสุด 400,000 บ.* [ผ่อนดาว์นเริ่มเพียง 1,999 บ./ด.*]
ผ่อน 0% นาน 6 เดือน , Gift Voucher สูงสุด 20,000 บ.
ลงทะเบียนสนใจเพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://thetreecondo.pruksa.com/23225/sukhumvit-rama4
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆการติดตาม