Project : Rhythm Ekkamai Estate by AP
ทำเล เอกมัย กับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการอยู่อาศัยบนทำเลนี้ในปัจจุบัน ซึ่งก็ต้องขอบอกเลยว่าวันนี้ ชั่วโมงนี้ คงไม่มีทำเลไหนในสุขุมวิทที่จะร้อนแรงเท่ากับทำเลอย่างเอกมัยนี้อีกแล้ว เพราะทำเลนี้คืออีกหนึ่งทำเลบนเส้นถนนสุขุมวิทที่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมกันมาอย่างต่อเนื่อง
แต่สำหรับทำเลเอกมัยมันก็มีจุดที่เราน่าจะสังเกตได้อยู่เรื่องหนึ่ง และเป็นจุดที่ทำให้โครงการใหม่ๆที่มาเปิดตัวในทำเลนี้มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะส่วนตัวของผมแล้วด้วย นั้นก็คือรูปแบบของการพัฒนาโครงการในทำเลเอกมัยนั้น เราจะมักไม่ค่อยเห็นรูปแบบการพัฒนาโครงการที่เน้นการอัดปริมาณ Supply หรือการเปิดโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะๆ แต่จะเป็นการพัฒนาโครงการที่เน้นตอบโจทย์ทั้งเรื่องของ Real Demand และ Segment เป็นหลักซะมากกว่า
อะไรละ…ที่เป็นสาเหตุหรือที่มา ที่ทำให้รูปแบบการพัฒนาโครงการในทำเลเอกมัยนี้ จึงเน้นเรื่องของ Real Demand และ Segment เป็นหลัก?
ซึ่งถ้าผมให้ใครหลายคนมาทายว่าอะไรคือ สาเหตุหรือที่มา ผมก็เชื่อว่าใครหลายคนคงจะตอบว่า…ก็ด้วยราคาที่ดินที่มันสูงหรือมีราคาแพงขึ้นไงครับ จะให้ Developer ที่ไหนมาทำโครงการใหม่ที่มีปริมาณ Supply หรือ มีจำนวนยูนิตเยอะๆละครับ แล้วจะหา Real Demand ที่ไหนมาซื้อหมด Sold Out ละจริงมั้ย?
คือ ถ้าตอบด้วยเหตุผลนี้ ก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นการดูถูกหรือสบประมาทศักยภาพของคนที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ หรือ ต้องการจะมาอยู่อาศัยในทำเลนี้มากเกินไปนะครับ
แต่ในมุมมองของผม ผมมองว่าเรื่องของต้นทุนราคาที่ดินก็มีผล แต่ที่มันสำคัญและดูจะเป็นเหตุผลที่มาที่ไปในการพัฒนาโครงการบนทำเลนี้โดยเน้นเรื่องของกลุ่ม Real Demand และ Segment เป็นหลัก นั้นก็คือความที่ทำเลเอกมัยเดิมที่เป็น Residence Area หรือ ทำเลการอยู่อาศัยของคนในทำเลสุขุมวิท
ซึ่งเวลาที่เราขับรถแวะเวียนผ่านไปในทำเลนี้ เราก็มักจะได้พบเห็นรูปแบบการอยู่อาศัยที่เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รูปทรงคุ้นตา ซึ่งดูจะเป็นเหมือนเอกลักษณ์ของที่อยู่อาศัยในทำเลไปซะแล้ว (บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตามภาพประกอบด้านบน)
ดังนั้นสำหรับคนที่เคยอยู่อาศัยบ้านเดี่ยวในทำเลนี้มาก่อน วันนี้หากจะต้องขยับขยายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยใหม่ จากเดิมที่เคยเป็นการอยู่อาศัยแบบแนวราบมาเป็นการอยู่อาศัยในรูปแบบของคอนโดมิเนียม อารมณ์และความรู้สึกในการอยู่อาศัยโดยเฉพาะกับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ (Facilities Area) จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
และถ้าหากมีโครงการคอนโดมิเนียมที่มี Facilities Area ที่ทำให้เราเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ที่โดนโอบล้อมไปด้วย ต้นไม้ พื้นที่สีเขียว ได้ยินเสียงน้ำไหลผ่าน ตลอดทางเดินเชื่อมต่อของพื้นที่ส่วนกลาง อารมณ์แบบเราออกมา นั่งเล่น เดินเล่น ด้านนอกของชานบ้านเดี่ยว คงจะเป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ และน่าจะตอบโจทย์หรือชดเชยความรู้สึกเดิมๆที่เราเคยอยู่อาศัยบ้านเดี่ยวได้ไม่มากก็น้อย
ทั้งหมดที่ผมได้พูดถึงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานออกแบบ Concept Design ของตัวอาคารที่มีการล้อเส้นสายมาจากรูปแบบของบ้านเดี่ยว 2 ชั้นในทำเลนี้ รวมถึงการออกแบบในส่วนของ Facilities Area ในโครงการที่เน้นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก แบบที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ให้เหมือนเรากำลังเดินเล่นอยู่บริเวณชานบ้าน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะให้โครงการนี้ตอบโจทย์กลุ่มคนที่ Real Demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ และ Segment ของโครงการที่วันนี้ราคาต่อตร.ม.เริ่มสูงขึ้น
และโครงการที่ผมกำลังจะขอหยิบยกมานำเสนอสำหรับบทความนี้ นั้นก็คือ Project : Rhythm Ekkamai Estate by AP กับอีกหนึ่งโครงการที่ผมมองว่าน่าจะตอบโจทย์ สำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่มีความเป็น Residence Area ใกล้แหล่ง Luxury Lifestyle อย่างทองหล่อ และที่สำคัญคือสำหรับใครชอบหรือกำลังมองหาโครงการที่เน้นการออกแบบในส่วนของ Facilities Area พื้นที่สีเขียวภายในโครงการ (พื้นที่สีเขียวหากเทียบกับพื้นที่ขายของโครงการนี้ มากกว่าประมาณ 90%) ที่ให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนเราอยู่อาศัยบ้านเดียว ผมคิดว่า Rhythm Ekkamai Estate by AP ” The New Residential Experience “ คือโครงการที่คุณกำลังตามหาอยู่นะครับ
สำหรับบทความนี้ Project : Rhythm Ekkamai Estate by AP by AP ผมจะขอนำเสนอในส่วนของ Project Information ต่างๆของโครงการนี้ และจะมีการนำส่วนของ Unit Plan ของห้องตัวอย่างของโครงการมาวิเคราห์ในส่วนของการออกแบบ Function Layout เพื่อให้เป็นแนวทางหรือข้อมูลประกอบให้สำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการนี้นะครับ
Project Information :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ซ.สุขุมวิท 63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
ขนาดที่ดิน : 2 – 0 – 84.1 ไร่
ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย High Rise 1 อาคาร ความสูง 32 ชั้น
จำนวนยูนิต : 303 Units + 1 Shop
Unit Type : Floor to Ceiling ความสูง 2.8 เมตร (Standard Unit)
ด้วยความที่ห้องตัวอย่างของโครงการนี้ มีเพียงแค่ยูนิตเดียวเท่านั้นคือ Unit Plan : 2 Bedroom ขนาด 81.5 SQ.M. ดังนั้นเพื่อให้เวลาที่ผมอธิบายหรือวิเคราะห์ส่วนของ Function Layout ทุกคนเข้าใจและเห็นภาพได้ง่าย ผมจะขอยกเฉพาะ Unit Plan ที่ทางโครงการมีห้องตัวอย่างมากล่าวถึงเท่านั้นนะครับ
หมายเหตุ : แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะโครงการนี้มีหลาย Unit Plan ที่น่าสนใจมากๆ รอบนี้ Rhythm By AP ออกแบบ Unit Plan ในหลายๆ Type ออกมาได้ดีและน่าสนใจ สำหรับใครที่สนใจ Unit Plan ไหนเป็นพิเศษ อยากแลกเปลี่ยนมุมมองกับผมก็พิมพิ์มาคุยมาถามกันได้นะครับ
1 Bedroom : 35 SQ.M.
1 Bedroom Plus : 39.5 – 40 SQ.M.
2 Bedroom : 74.5 – 86.5 SQ.M.
2 Bedroom Duplex : 64 – 129.5 SQ.M.
Sky Villa : 109 – 121 SQ.M.
Penthouse : 100 – 177 SQ.M.
โดยในส่วนของห้องตัวอย่างของโครงการนี้จะเป็น Unit Plan แบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 81.5 SQ.M. โดยผมจะขอยก Unit Plan นี้มาทำการวิเคราะห์ในส่วนของ Function Layout ของยูนิตมาให้ทุกคนได้อ่านกันนะครับ
ก่อนจะไปถึงในส่วนของการวิเคราะห์ Function Layout ขอบอกว่าตำแหน่งของห้องนี้ จัดว่าเป็นตำแหน่งที่น่าจะดีที่สุดอีกหนึ่งตำแหน่งเลยนะครับ ส่วนของ Function : Living + Master Bedroom หันหน้าออกไปทางฝั่งทิศตะวันตก หรือ ก็คือตำแหน่งวิวด้านหลังของโครงการ ซึ่งจะเป็นตำแหน่งทิศที่มองไปทาง City View และที่ดินข้างหลังของโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการ Low Rise และที่อยู่อาศัยที่เป็นแบบแนวราบเป็นหลักนะครับ ดังนั้นจึงถือว่าตำแหน่งห้องนี้จะได้วิวที่โปร่งและเปิดโล่งมากๆตำแหน่งหนึ่งเลยของโครงการนี้
เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาในส่วนของทางเข้าหลักห้อง เราจะเจอกับส่วนของ Function : Foyer บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้อง พื้นที่ในส่วนนี้เป็นเหมือนพื้นที่พักและตำแหน่งที่ตกแต่งไว้สำหรับจัดวางในส่วนของตู้เก็บของหรือเก็บรองเท้า ก่อนเข้าสู่พื้นที่หลักของตัวห้อง
เมื่อผ่านส่วนที่เป็น Function : Foyer เข้ามาเราจะพอส่วนที่เป็นพื้นที่หลักของ Unit Plan นี้ นั้นก็คือส่วนของ Function : Living + Dining + Kitchen + Counter bar
ส่วนของ Function : Kitchen จะเป็นพื้นที่ครัว ที่แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ด้านหนึ่งจะเป็นส่วนของเตาไฟฟ้า และอีกด้านหนึ่งจะเป็นส่วนของ Island Kitchen ที่เป็นพื้นที่สำหรับใช้เตรียมอุปกรณ์ประกอบอาหาร พร้อมส่วนของอ่างล้างจาน ซึ่งส่วนของ Island Kitchen ยังเป็นส่วนที่ใช้สำหรับกันความเป็นสัดส่วนให้กับพื้นที่ส่วนของ Function : Kitchen ออกจากส่วนของพื้นที่ Living + Dining อีกด้วย
และข้อดีของ Function : Island Kitchen ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะยังสามารถปรับหรือใช้เป็น Counter Bar ได้อีกด้วย
ส่วนของ Function : Living + Dining ด้วยความที่ Unit Plan นี้เป็นแบบห้องหน้ากว้าง ทำให้ส่วนของพื้นที่ระเบียงของห้องมีความกว้างมากๆ ส่งผลให้เวลาที่เราอยู่อาศัยภายในห้องหรือ Function ในส่วนนี้จะได้รับแสงสว่างจากด้านนอกเข้ามาอย่างเต็มที่ ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
และด้วยความที่ตำแหน่งของห้องนี้ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า ห้องตำแหน่งนี้จะหันหน้าออกไปทางทิศตะวันตก ดังนั้นสำหรับใครที่กังวลเรื่องของแสงแดดยามบ่าย ทางโครงการเค้าก็ได้มีการออกแบบ ส่วนของกระจกบานเลื่อนบริเวณของพื้นที่ระเบียงเพิ่มเข้ามาให้อีกขั้นหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันและลงปริมาณแสงแดดช่วงบ่ายที่จะสาดส่องเข้ามาภายในตัวห้อง และยังเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ในส่วนของระเบียงมากขึ้นด้วย
ส่วนของ Function : Bedroom 2 ด้วยความที่เป็นห้องนอน 2 ดังนั้นขนาดพื้นที่จะไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ดูลงตัว ซึ่งด้วยความที่มีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก ดังนั้นทางโครงการออกแบบส่วนของกระจกด้านข้างให้มีขนาดพื้นที่รับแสงให้กว้างขึ้น เลยช่วยให้การอยู่อาศัยใน Function ส่วนนี้ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด บอกเลยว่ากระจกรับแสงมีส่วนที่ช่วยได้เยอะครับ กับเรื่องของความรู้สึกโปร่งโล่งในการอยู่อาศัยของพื้นห้องที่มีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก
ส่วนของ Function : Bathroom บริเวณด้านนอกจะอยู่ใกล้กับ Function : Bedroom 2 โดยภายในส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะเป็นแบบ Shower และมีส่วนของฉากกั้นอาบน้ำเพื่อแยกส่วนของพื้นที่เปียกแห้ง ออกจากกันนะครับ
ส่วนของ Function : Master Bedroom อีกหนึ่ง Function ที่เป็นพระเอกรองมาจากส่วนของ Function : Living การออกแบบพื้นที่และใส่เฟรมกระจกเพื่อเพิ่มพื้นที่แสงถือว่าทำออกมาได้ดีเลยครับ เข้ามาภายในส่วนของ Function นี้แล้วได้ความรู้สึกโปร่งโล่งมากๆ
มีมุมด้านข้างบริเวณปลายเตียงที่อยู่ติดกับส่วนของหน้าต่างที่ทำเป็นเหมือนมุมโต๊ะเครื่องแป้ง สำหรับให้คุณผู้หญิงแต่งหน้า ทาครีมก่อนนอนก็ดูลงตัวและน่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้ดี
ส่วนของ Function : Master Bathroom ที่อยู่ในส่วนของห้องนอน จะมีในส่วนของอ่างอาบน้ำขนาดมาตราฐานเพิ่มเข้ามาทำให้ Bathroom นี้เป็นแบบ 4 Fixtures และมีส่วนของบานหน้าต่างที่เป็นกระจก สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ โดยรวมผมว่าสำหรับ Unit Plan ใน Segment นี้ เรื่องของ Master Bathroom เป็นสิ่งสำคัญนะครับ (เพราะถ้า Unit Plan ของโครงการไหนที่บอกว่า มี Master Bedroom แต่ไม่มีส่วนของ Bathroom แยกเป็นส่วนตัว มันเหมือนพูดว่า Master Bedroom ไม่ค่อยเต็มปากเท่าไรอะครับ )
Floor Plan :
Master Plan – Lobby Area , Shop , Mail Room , Public Restroom , The Condominium Juristic Person Office , Control Room , Generator Room , MDB Room , Parking Area
02 – 06 Floor – Parking Area , Social & Quiet Zone
07 Floor – Floating Lobby , Theater Pavillion , Tea Pavillion , Lobby Area , Garden , Pond , Residential Units
08 – 30 Floor – Residential Units
31 – 32 Floor – Swimming Pool , Sky Lounge , Sky Fitness , Sky Wellness , Spa , Sauna , Steam , Rooftop Garden
Facilities :
Welcome Foyer , Feature Mail Room , Chamchuri Outdoor Terrace , Multi Storey – Social & Quiet Zone , Grand Lobby , Tea Pavillion , Flexible Lobby , Theater Pavillion , Floating Garden , Sunken Seat , Swimming Pool , Sky Lounge , Sky Fitness , Sky Wellness Spa , Sauna , Steam , Rooftop Garden , Observation Deck , Rooftop Garden , Honeymoon Sunken Seat
Chamchuri Terrace
Multi – Storey : Social Zone
Multi – Storey : Quiet Zone
ในส่วนของ Facilities Area ที่จัดว่าเป็น Hi-light ของโครงการนี้ ก็คือส่วนที่เป็น Floating Lobby บริเวณชั้น 7 ที่จะพื้นที่สำหรับปรับอารมณ์ของการอยู่อาศัยภายในโครงการนี้ ให้เหมือนกับว่าผู้อยู่อาศัยกำลังได้พักผ่อนในพื้นที่สวนส่วนตัว อารมณ์คล้ายกับชานบ้าน
Flexible Lobby
พื้นที่บริเวณนี้จะถูกออกแบบโดยจำลองบรรยากาศของชานบ้าน ที่จะทำให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติของต้นไม้ ใบไม้สีเขียว และ เสียงของน้ำไหลผ่าน ถือว่าเป็นมุมพักผ่อนก่อนขึ้นห้องที่ให้อารมณ์ความรู้สึกของการอยู่อาศัยแบบบ้านได้ดีเลยนะครับ
Tea Pavillion
Grand Feature Lobby
Theater Pavillion
Triplex Rooftop Facilities
Aquarium Tunnel
Active & Private Fitness
Wellness Spa
Sky Lounge
360 – Degree Infinity Edge Pool & Honeymoon Seat
Observation Deck
Rooftop Garden
จำนวนที่จอดรถ : 67% + EV Charger 2 Slots
ค่าส่วนกลางและค่ากองทุน : 55 / 500 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 6.5 ล้านบาท* (ราคาเริ่ม 185,000 บาทต่อตร.ม.)
ก็จะประมาณนี้นะครับ กับบทความ Project : Rhythm Ekkamai Estate by AP การกลับมาของโครงการ Rhythm by AP บนทำเลที่ต้องบอกเลยว่า AP คุ้นเคยมากๆเพราะที่ผ่านมา AP ก็เคยเปิดโครงการในทำเลนี้มาหลายโครงการแล้วซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีเสมอมา
ดังนั้นสำหรับการยกระดับโครงการ Rhythm by AP ในครั้ง ผมมองว่าไม่ใช่แต่เพียงเรื่องของราคาต่อตร.ม.ที่สูงขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าดูจากเรื่องของรายละเอียดการออกแบบในส่วนของ Concept ของโครงการ , Facilities Area และ Function Layout ของ Unit Plan ในแต่ละ Type
โดยส่วนตัวแล้วสำหรับผมโครงการ Rhythm Ekkamai Estate by AP เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ผมเห็นและสัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการออกแบบและพัฒนาโครงการนี้ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลนี้
กับโครงการ Rhythm Ekkamai Estate by AP โครงการที่โดดเด่นทั้งเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอารมณ์เหมือนเราอยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยว และความแตกต่างในเรื่องของการออกแบบ Function Layout ของ Unit Plan โดยเฉพาะ Unit Plan ตั้งแต่ 2 Bedroom ขึ้นไป ที่มีการออกแบบ Unit Plan ให้มีความพิเศษแตกต่างกันในแต่ละ Type ส่วน Unit Plan : 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ก็มีการออกแบบตัวห้องมีความเป็นห้องแบบหน้ากว้าง และ เพิ่มความโปร่งโล่งในการอยู่อาศัย ด้วยกระจกรับแสงสว่างขนาดใหญ่เพิ่มเข้ามาอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจโครงการนี้แล้วอยากจะแลกเปลี่ยนมุมมองหรืออยากจะสอบถามขอคำแนะนำเกี่ยวกับตำแหน่งห้องไหนที่มีความน่าสนใจก็สามารถพิมพิ์ หรือ Inbox เข้ามาพูดคุยกับผมได้เช่นเคยนะครับ
เพิ่มเติม …
ทางโครงการ Rhythm Ekkamai Estate by AP มีกำหนดเปิดตัวแบบ Exclusive launch ตั้งแต่ 21 – 24 มีนาคมนี้ ที่ชั้น 1 แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน
ราคาห้องเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท*
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษสูงสุด 300,000 บาท ได้ที่ >>> https://bit.ly/2tLrkHJ
หรือ สอบถามข้อมูลโครงการ 1623
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม