Open House : The Tree Sukhumvit 71 by Pruksa
หลายครั้งที่มักจะมีคนมาถามผมว่า เราจะรู้ได้อย่างไงว่าโครงการคอนโดมิเนียม โครงการนั้น โครงการนี้ จะดีจริงเหมือนกับตอนที่เค้าทำโฆษณา ด้วยภาพ Tive สวยๆ ช่วงเปิดขาย Pre-Sale ? ตอบตามตรงเอาจริงๆแล้วก็ไม่มีใครรู้หรือกล้าฟันธงหรอกครับ ว่าเมื่อถึงตอนที่โครงการแล้วเสร็จ โครงการเหล่านั้นมันจะออกมาสวย ภาพตรงปก หรือ ตรงกับภาพตอนที่ทางโครงการเค้าทำโฆษณาไว้มั้ย หรือ อย่างบางโครงการของบางบริษัท ก็งานก่อสร้างล่าช้าเป็นปีๆจนเราลืม Mood and Tone ตอนที่เค้าทำโฆษณาไปจนหมดแล้วก็มี
แต่นั้นมันก็คงจะเป็นเสน่ห์ของอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมละมั้งครับ … คือตลอดระยะเวลาในงานก่อสร้างสำหรับใครที่ซื้อ ที่จองไว้ ก็เฝ้ารอวันที่โครงการจะแล้วเสร็จ ให้เราได้เข้าไปอยู่อาศัยจริงและได้ชื่นชมกับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการว่าเค้าจะพัฒนาจะออกมาให้สวยดูดีเหมือนภาพที่เราฝันไว้มั้ย?
และตั้งแต่ที่ผมเริ่มเปิดเพจ Inso Condo มาเมื่อ 3 ปีก่อน โครงการแรกๆที่ผมได้เริ่มเขียน Review และทำให้แฟนเพจหลายๆคนได้รู้จักเพจของผม หลายคนได้มาเป็นนักเรียน Inso Class จนสนิทกันมาจนถึงทุกวันนี้ นั้นก็คือโครงการ The Tree Sukhumvit 71 by Pruksa นั้นเอง โครงการที่ผมต้องบอกเลยว่าเป็นโครงการภายใต้แบรนด์ The Tree by Pruksa ที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่ผมได้ติดตามแบรนด์นี้มา
ดังนั้นเมื่อโครงการ The Tree Sukhumvit 71 by Pruksa ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ได้แล้วในวันนี้ ผมเลยรีบขอทางโครงการเข้าไปเก็บภาพพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ มาเขียนเป็นบทความ Open House : The Tree Sukhumvit 71 by Pruksa เพื่อให้ทุกคนที่สนใจหรือติดตามโครงการนี้ได้ชมกันในบทความนี้
โดยภายในบทความที่ทุกคนจะได้อ่านต่อจากนี้ ผมจะขอนำเสนอเรื่องของพื้นที่ส่วนกลาง และ ห้องตัวอย่างจริงๆ ที่อยู่ภายในโครงการ The Tree Sukhumvit 71 by Pruksa นี้ โดยจะขอเริ่มจากส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้กันก่อนเลยก็แล้วกันนะครับ
ในส่วนของ Front ด้านหน้าของโครงการ ส่วนที่เคยเป็นสำนักงานขายของโครงการที่ใช้เปิดขายช่วง Pre-Sale ปัจจุบันถูกปรับเป็นพื้นที่ของร้าน 7 Eleven ที่เตรียมจะเข้ามาเปิดให้บริการ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนที่อยู่อาศัยอาศัยภายในโครงการ The Tree Sukhumvit 71 by Pruksa แห่งนี้ รวมถึงคนที่อยู่อาศัยโดยรอบของโครงการนี้
ทางเดินระหว่าง Drop Off ด้านหน้าโครงการ เข้าสู่ส่วนของพื้นที่ Lobby ด้านในของตัวโครงการ มีระยะห่างจากด้านหน้าโครงการอยู่พอสมควรนะครับ เพื่อเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัว และลดระดับความวุ่นวาย เสียงรบกวนจากถนนด้านหน้าโครงการ ทำให้ได้ความสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้นเวลาที่มีแขกหรือเพื่อน ญาติพี่น้อง มารอเราที่บริเวณส่วนของ Lobby โครงการแห่งนี้
หมายเหตุ : ตะแกรงที่อยู่ ซ้าย-ขวา ตลอด 2 ข้างทางจริงๆต้องมีงานหินมาใส่นะครับ แต่พื้นที่ในส่วนนี้มีงานปรับเปลี่ยนวัสดุ จึงยังไม่เสร็จสมบูรณ์ Complete นะครับ แต่ส่วนตัวแบบนี้ก็เท่ห์ไปอีกแบบนะ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในส่วนของ Lobby ของโครงการนี้ จากการเลือกใช้วัสดุในการตกแต่ง พื้นเป็นหินอ่อนแท้ทั้งหมด ดูสะอาดตา เฟรมสแตนเลสสีทองมันเงา และ โคมไฟที่ให้แสงสว่างแบบวอร์ม ช่วยลดความรู้สึกวุ่นวายจากภายนอกทำให้สามารถปรับรู้สึกของคนที่เข้ามาในพื้นที่ในส่วนนี้ ให้รู้สึกสงบผ่อนคลายได้ดีเลยนะครับ
โดยในส่วนของพื้นที่ Lobby นี้ ทางโครงการเค้าออกแบบมาให้เป็น Double Volume ดังนั้นเรื่องของความโปร่งโล่งของพื้นที่ในส่วนนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย ดังนั้นก็ต้องขอบอกเลยว่าการตกแต่งภาพรวมในส่วนของ Lobby ของโครงการนี้เค้าทำออกมาได้ดูหรูหราและดูดีมากๆเลยนะครับ
ทางเดินระหว่าง Lobby จะเข้าไปสู่บริเวณของโถง Lift บริเวณซ้าย-ขวาของทางเดินก็จะเป็นส่วนของพื้นที่ Mail Box ก็จะเน้นการตกแต่งพื้นที่ในส่วนนี้ล้อไปการตกแต่งของ พื้นที่ Lobby เป็น Mood And Tone เดียวกัน ดูดีเลยนะครับ
และบริเวณส่วนของทางออกด้านหลังของตัวโครงการก็ยังมีพื้นที่ในส่วนของ Library ให้สำหรับลูกบ้านสามารถเข้ามานั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานรอเพื่อนได้ ส่วนตัวแล้วผมชอบการจัดวาง พื้นที่ส่วนนี้มากๆนะครับ เพราะถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อย่างเช่น ผู้ปกครองนัดครูสอนพิเศษมาสอน บุตร-หลาน ที่โครงการ ก็สามารถมาใช้พื้นที่ส่วนนี้ได้โดยไม่ต้องขึ้นไปส่วนของที่พักอาศัย หรือ นัดเพื่อนๆ มาทำงานกลุ่มก็ใช้พื้นที่ในส่วนนี้ได้เช่นกัน ได้ทั้งความเป็นสัดส่วน และไม่วุ่นวายกับส่วนของ Lobby ด้วย
ในส่วนของด้านหลังที่อยู่ด้านนอกของตัวอาคาร จะมีส่วนของห้องซักผ้า ที่มีระบบ Application ในมือของเรา สำหรับการชำระค่าบริการในการซักผ้าแต่ละครั้ง เผื่อใครที่ไม่อยากพกเหรียญหรือต้องหาแลกเหรียญเพื่อมาใช้บริการในส่วนนี้ ถือว่าเพิ่มความสะดวกสบายและน่าจะตอบโจทย์การใช้งานจริงของผู้อยู่อาศัย
บริเวณของโถงรอ Lift พื้นขึ้นไปส่วนของที่พักอาศัย และ Sky Facilities ของโครงการ ก็ยังคง Concept การตกแต่งให้ล้อไปกับส่วนของ Lobby ซึ่งทำออกมาได้ดูดีเลยนะครับ
Co Working Space ของโครงการนี้จะอยู่บริเวณชั้น 7 ขนาดพื้นที่อาจไม่ใหญ่ แต่การจัดวางตำแหน่งของพื้นที่นี้ผมว่าทางโครงการนี้เค้าคิดมาดีเลยนะครับ คือ พื้นที่ Co Working Space นี้จะหันหน้าออกไปทางทิศตะวันออก หรือ ก็คือ ด้านหน้าของโครงการ ดังนั้น ลูกบ้านจะสามารถเข้ามานั่งทำงานในพื้นที่ส่วนนี้ได้ทั้งวัน ไม่ต้องกังวลว่าช่วงบ่ายจะร้อนแดด
อันนี้ผมต้องขอชื่นชมทางโครงการนี้เลยครับ คือเค้าคิดมาดีเก็บทุกรายละเอียดจริงๆนะครับ ด้วยความเป็นพื้นที่ Co Working Space ดังนั้นเค้าจึงมีการเพิ่มเครื่องถ่ายเอกสารเข้ามาให้บริการในพื้นที่ส่วนนี้พร้อมเลย เผื่อใครจะต้อง Print งาน หรือ ถ่ายเอกสาร ก็สามารถใช้ได้ สะดวกมากๆ ในส่วนค่าใช้จ่ายก็ทำการจ่ายผ่าน Application เช่นกัน
Sky Lounge ที่อยู่บริเวณ Sky Facilities ชั้น 33 ด้วยความเป็น Double Volume และการเลือกใช้วัสดุในการตกแต่งทีดูแล้วต้องบอกเลยว่าหรูหรามากๆ แล้วยิ่งถ้าใครมานั่งเล่นบริเวณนี้ก็สามารถนั่งชมวิวสุขุมวิทยามค่ำคืนได้ บอกเลยครับว่าวิวสวยมากๆสำหรับโครงการนี้
Sky Gym & Yoga Room อยู่ที่อยู่บริเวณ Sky Facilities ชั้น 33 จะหันหน้ารับวิว 2 ฝั่งด้วยกัน ด้านของลู่วิ่งจะหันหน้าออกทางทิศตะวันตกของโครงการ ซึ่งจะสามารถมองเห็นวิวเอกมัย ทองหล่อ และ ถ.เพชรบุรี ได้
ส่วนวิวอีกด้านจะเป็นวิวที่หันไปทางถ.พระราม 9 สี่แยกรามคำแหง Airport Link
พระเอกของ Sky Gym & Yoga Room ของโครงการนี้ คงไม่มีอะไรเด่นไปกว่าเครื่อง Nordictrack Cable machine รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นระบบแม่เหล็กไฟฟ้า ในการปรับน้ำหนักของเครื่องแทนการยกแผ่นเหล็กเพื่อเพิ่มน้ำหนักเวลาที่ออกกำลังกาย ซึ่งทางโครงการเค้าเครมว่าในประเทศไทยมีเครื่องรุ่นนี้ไม่น่าจะถึง 5 เครื่องเท่านั้น
อีกหนึ่งจุด Check Point ของโครงการนี้เลยก็ว่าได้สำหรับจุดชมวิว Observation Deck ที่พื้นเป็นกระจกใสสามารถมองทะลุไปถึงพื้นด้านล่าง จากตำแหน่งชั้น 33 มันก็จะได้อารมณ์หวิวๆกันละครับ (น่าเสียดาย จุดชมวิว Observation Deck น่าจะหันไปรับวิวเมืองฝั่งสุขุมวิทอะ ไม่งั้นคงเป็นอะไรที่อลังการมากๆ)
ส่วนของพื้นที่สระว่ายน้ำของโครงการที่อยู่ที่ชั้น 33 ของโครงการ ในส่วนของพื้นที่นี้ จะมีส่วนของ Sky Deck ที่เป็นอีกหนึ่งชุดชมวิวของโครงการนี้ และส่วนของสระว่ายน้ำจะเป็นระบบน้ำเกลือ และ วิวจากสระว่ายน้ำจะหันหน้าออกไปทางทิศใต้รับวิวส่วนของโซนสุขุมวิท
Sunken Garden ทางโครงการออกแบบพื้นที่ในส่วนนี้ ไว้สำหรับให้ลูกบ้านของโครงการมานั่งเล่นชมวิวเมือง ชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือ พระอาทิตย์ตก ได้จากมุมนี้เลยนะครับ แต่รอต้นไม้โตกว่านี้อีกหน่อยผมว่ามุมนี้จะสวยมากๆ
มาถึงส่วนพื้นที่สุดท้ายของ Facilities ของโครงการนี้กันแล้วนะครับ นั้นก็คือส่วนของพื้นที่ด้านหลังที่อยู่ติดกับส่วนของคลองแสนแสบด้านหลังโครงการ ทางโครงการก็ออกแบบให้เป็นสนามหญ้าสีเขียว บรรยากาศร่มรื่น ไว้สำหรับให้เป็นที่นั่งเล่น หรือ สนามเด็กเล่น นะครับ
ในส่วนของ Facilities ของโครงการ The Tree Sukhumvit 71 by Pruksa เป็นยังไงกันบ้างครับ …
ส่วนตัวผมมองว่าทางโครงการเค้าพัฒนาออกมาได้ดีเลยนะครับ ทำไมผมถึงใช้คำว่าพัฒนาออกมาได้ดี ? ก็เพราะผมจำได้ว่าตอนที่ทางโครงการนี้เค้าเปิดขาย Pre-Sale ทางโครงการไม่ได้นำเสนอหรือ Present ในหลาย Function หรือ Item คือไม่มีอยู่ในใบจองหรือสัญญาซื้อขาย แต่พอโครงการแล้วเสร็จทางโครงการเลือกจะใส่เพิ่มเติมเข้ามาให้ อันนี้ขอชื่นชมเลยครับ เพราะสุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์คือลูกบ้านของโครงการ ที่เค้าเชื่อมั่นในโครงการของคุณครับ
งั้นเราก็มาต่อกันในส่วนของห้องตัวอย่างของโครงการนี้กันนะครับ … ในส่วนของห้องตัวอย่างของโครงการนี้ ปัจจุบันทางโครงการได้มีการแต่งห้องตัวอย่างจากตำแหน่งห้องจริงภายในตัวโครงการเลยนะครับ ซึ่งจะประกอบไปด้วยห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 26.20 ตร.ม. และ 29.60 ตร.ม. กับ ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 56.10 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 26.20 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 29.60 ตร.ม.
1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 26.20 ตร.ม. และ 29.60 ตร.ม. : ในส่วนของการออกแบบและจัดวาง Function Layout ของทั้ง 2 ห้องนี้เหมือนกันนะครับ คือมีการแบบพื้นที่ Function : Living กับ Kitchen + Dining โดยฉากกั้นกระจกบานเลื่อน และส่วน Function : Bedroom เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยบานประตูทึบเปิดปิด ความสูง Floor To Ceiling 2.7 เมตร
อ้าวพี่… ถ้า Function มันเมือนกันแล้วจะจ่ายแพงกว่าทำไมละครับพี่ ?
ใจเย็นครับ ขนาดพื้นที่ ที่มีความต่างกัน 3.40 ตร.ม. คือความต่างกันในความลึกของตัวห้องครับ ซึ่งถ้าเราจ่ายแพงกว่าในการเลือกห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 29.60 ตร.ม. สิ่งที่เราจะได้เพิ่มมาคือขนาดของพื้นที่ในส่วนของ Function : Living + Bathroom ที่กว้างมากขึ้นนั้นเองครับ
2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 56.10 ตร.ม.
สำหรับห้อง 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 56.10 ตร.ม. ในส่วนของ Function Layout ภายในห้องจะเป็น แบบ 2 Bedroom + 2 Bathroom + Living + Dining + Kitchen
เมื่อเราเปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนที่เป็น Function : Dining + Kitchen ในส่วนของ Kitchen จะเป็นแบบครัวเปิด และ Dining จะเป็น แบบ 3 ที่นั่งนะครับ
ส่วนของ Function : Living จะอยู่บริเวณด้านในของห้อง ซึ่งจะอยู่ชิดกับส่วนของกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมต่อกับส่วนของพื้นที่ระเบียงของห้อง
ส่วนของ Function : Bathroom ด้านนอกบริเวณส่วนของ Function : Living จะมีส่วนของ Shower ให้ด้วยสำหรับสมาชิกครอบครัวที่อยู่อาศัยในส่วนของ Function : Bedroom
Function : Bedroom ด้วยที่ขนาดพื้นที่อาจไม่ใหญ่ ดังนั้นเหมาะสำหรับจัดวางเตียงนอนเป็นแบบเตียงเดี่ยวพอนะครับ จะดูลงตัวมากที่สุดนะครับ
Function : Master Bedroom ด้วยความที่ห้อง 2 Bedroom นี้เป็นตำแหน่งห้องมุม ดังนั้นในส่วนของพื้นที่ภายในห้องจะได้ความโปร่งโล่งจากกระจกเข้ามุมบริเวณส่วนของหัวเตียงทั้ง 2 ข้าง และเราจะเรียก Master Bedroom แบบเต็มปากไม่ได้เลยถ้าไม่มี Private Bathroom ภายในห้อง
ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 56.10 ตร.ม. ของโครงการนี้ น่าจะตอบโจทย์โดนใจใครหลายๆคนที่อยากได้ 2 Bedroom แบบที่มี Function Layout ที่เรียกได้ว่า 2 Bedroom จริงๆนะครับ
ก็จะประมาณนี้นะครับ สำหรับบทความ Open House : The Tree Sukhumvit 71 by Pruksa โครงการภายใต้แบรนด์ The Tree by Pruksa ที่ดีที่สุดในความคิดของผม ณ ตอนนี้นะ เพราะในอนาคตก็อยากให้ Developer พัฒนาโครงการให้ออกมาดียิ่งขึ้นเรื่อยๆนะครับ เพื่อให้ผู้บริโภค หรือ คนซื้อที่เค้าเชื่อมั่นโครงการของคุณทุกคนมีความสุขได้ที่อยู่อาศัยดีๆแบบโครงการนี้
แต่ก่อนจะจากกันไป … คนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ พวกคุณทุกคนไม่สงสัยกันบ้างเหรอครับ ว่าโครงการคอนโดมิเนียมที่ให้ส่วนกลางระดับนี้ ราคาขายเริ่มต้นตอนนี้ … ทางโครงการเค้าขายเท่าไร ?
โครงการ The Tree Sukhumvit 71 by Pruksa [ Ready To Move In]
แต่งเฟอร์นิเจอร์ครบ + ฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า คืออารมณ์พร้อมเข้าอยู่ได้เลย (ไม่ได้แต่งเหมือนห้องตัวอย่างนะครับ บอกไว้ก่อนนะ 555+)
พร้อมส่วนลดสูงสุด อีก 400,000 บาท *
ทั้งหมดนี้พร้อมส่วนกลางทั้งหมดที่คุณเห็นในบทความนี้ ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท เท่านั้นครับ
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : 1739
ขอบคุณสำหรับการติดตาม