The Tree Charan 30 by Pruksa

Unit Recommended : The Tree Charan 30 by Pruksa

ช่วงนี้คอนโดมิเนียมเตรียมเปิดใหม่กันเยอะเลยนะครับ แถมราคาก็ดูจะร้อนแรงสวนสภาพอากาศบ้านเราที่ฝนตกจริงตกจังตกมันทุกวันแบบนี้ ยังไงก็ฝากให้แฟนเพจดูแลสุขภาพกันด้วยครับ จะได้ไม่ป่วยไม่ไข้กันเนอะทุกคน โครงการเปิดใหม่เยอะแบบนี้ แถมหลากหลายทำเล หลากหลาย Segment แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่หลายๆคน คงจะคิดเหมือนๆกัน คือ ทำไมราคามันสูงจัง

เสียงบ่นเรื่องของราคาที่ดูจะแพงซะเหลือเกิน แต่ละโครงการที่เปิดใหม่ต่างก็ทำราคา New High ของแต่ละทำเลกันเป็นว่าเล่น อย่างที่รู้กัน ราคาจะไม่แพงขึ้นได้ไงครับ ก็ราคาที่ดินมันไม่เคยลดราคาลงเลยนิ ใช้มาแล้วหมดไป แบบนี้ราคาของที่ดินแปลงที่เหลือ เจ้าของที่ดินมีหรือที่ใครจะยอมขายถูกละจริงมั้ยครับ ใครขายถูกก็โง่แล้วอะ และถึงแม้ว่าเราจะเห็นโครงการเปิดๆกันเยอะแถมราคาแพง

แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ อ้าวววว… ไหนบ่นว่าแพงๆกัน แต่ทำไม Sold Out แย่งกันจะเป็นจะตาย มันดูขัดแย้งกันมั้ยอะ? … หรือจริงๆแล้วไอ้คำว่า แพง มันแค่คำอ้างของคนที่ไม่ได้สนใจหรือมีความต้องการโครงการนั้นจริงๆ อันนี้ก็อยู่ที่คนมองแล้วแต่นะครับ แพงไม่ ไม่แพงไม่รู้แต่สำหรับ Real Demand สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความคุ้มค่า แพงแต่ทำเลดี อยากจะซื้อเพราะทำเล แพงเพราะ Concept โครงการดี ส่วนกลางสวยอลังการ หรือแม่แต่ Detail เล็กๆอย่างเรื่อง Spec วัสดุที่ใช้ภายในของแต่ละยูนิต ผมว่าสิ่งเหล่านี้มันช่วยลดระดับความร้อนแรงของราคาได้ดีเลยครับ

ซึ่งวันนี้โครงการที่ผมจะนำมาทำ Unit Recommended ในครั้งนี้ก็ คือ Unit Recommended : The Tree Charan 30 by Pruksa จุดที่น่าสนใจของโครงการนี้ เริ่มต้นสำหรับผมเลยก็คือ นี้คือภาคต่อของโครงการที่ผมชอบและมองว่าเป็นโครงการที่ดีในราคาที่สามารถจับต้องได้สำหรับปีนี้เลย อย่างโครงการ The Tree Sukhumvit 71 ณ วันนั้นผมมองว่าของที่ให้กับราคาที่จ่ายต่อตร.ม.ถือว่าไม่แพงเลย เลยสนใจอยากจะติดตาม Brand นี้ต่อ ว่าตัวที่ 2 ของ SBU นี้จะเป็นยังไง …

ก็เหมือนแบบที่เคย Post ไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าเวลาที่ใครมาถามผมว่าโครงการคอนโดมิเนียมใน Segment ประมาณ 100,000 บาทต่อตร.ม. +-  ว่าโครงการนี้ดีมั้ย? โครงการนั้นดีรึเปล่า? ผมก็มักจะใช้โครงการของ The Tree Sukhumvit 71 เนี้ยแหละเป็นมาตราฐาน ตัวเปรียบเทียบ … ดังนั้นพอมีโครงการใหม่ของ SBU ออกมาอีก โดยเปลี่ยนทำเล เปลี่ยน Target เลยต้องมาดูซะหน่อยเนอะ …

ซึ่งเอาจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยจะชินกับทำเลนี้ซักเท่าไร … ก็ได้มุมมองจาก แฟนเพจที่มาเรียนใน Inso Class เพิ่มเติมมาบ้าง … ทำให้พอทราบว่าทำเลฝั่งธน ราคาแพคมีความสำคัญต่อการตัดสินใจ ในการเลือกซื้อของคนในทำเลนี้ แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพละ … เท่าที่ไปวนดูโครงการใกล้เคียงและกลับมาดูห้องตัวอย่างของโครงการนี้ ผมกล้าการันตี เลยว่าโครงการนี้ Spec ของที่เค้าให้ถือว่าดีกว่าโครงการอื่นๆในระดับ Segment เดียวกันในทำเลแถวนั้นเลย แต่หากใครจะมองว่า แต่โครงการนี้มันแพงกว่านะ ใช่ … แพงกว่า ด้วย Spec ที่ดีกว่า แพงกว่า ด้วยส่วนกลางที่ดีกว่า แพงกว่า ด้วยความหนาแน่นที่น้อยกว่า … ความหนาแน่นที่น้อยกว่า ก็คือ จำนวนยูนิตการอยู่อาศัยในโครงการที่น้อย อันนี้ผมชอบนะและสำหรับผม ผมยอมจ่าย (ประมาณ 150 Unit ต่อไร สัดส่วนนี้ปัจจุบัน บางโครงการในเมืองที่ขายกันตร.ม.ละ 200,000 บาทต่อตร.ม. +- ยังทำไม่ได้เลย) ดังนั้นสำหรับ Real Demand ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ ราคานี้กับของที่ได้ผมว่าตอบโจทย์ความคุ้มค่าได้แน่นอน

จึงเป็นที่มาของการเลือก Unit Recommended : The Tree Charan 30 by Pruksa ให้กับโครงการนี้ โดยผมจะขอโฟกัสที่กลุ่มคนที่เป็น Real Demand ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองเป็นหลักนะครับ งั้นเรามาเริ่มกันด้วยรายละเอียดของโครงการนี้กันก่อนเลยเนอะ

Project Information :

ทำเลที่ตั้งโครงการ : ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย กทม. (ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าแยกไฟฉายกับสถานีบางขุนนนท์ประมาณ 500 ม.)

ใกล้ รพ.ศิริราช ดูจะเป็นจุดขายที่น่าสนใจ และ อยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี ทำเลแถวนั้นเรื่องของกินการดำรงชีวิต สบายมากๆ ของกินหาง่ายครับเพราะใกล้ทั้งตลาด และ Super Market และถ้านับการเดินทางโดยเรือข้ามฝากก็ถือว่าใกล้มหาลัยใหญ่ๆ 2 แห่ง ทั้ง ม.ธรรมศาสตร์ และ ม.ศิลปากร

ขนาดที่ดิน : 1-3-79 ไร่

ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย High Rise 22 ชั้น 1 อาคาร (อาคาร A) , อาคารชุดพักอาศัย Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร และ ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น

จำนวนยูนิต : 305 ยูนิต และ ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ จำนวน 2 ยูนิต (ประมาณ 150 Unit ต่อไร่เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมากๆแล้ว)

Unit Type :

1 Bedroom : 23.6 – 41.1 sq.m.

เมื่อดูจาก Unit Plan จะเห็นได้ว่าการแบ่งสัดส่วนของ Function ต่างๆภายในแต่ละยูนิต เค้าจะเน้นการแบบสัดส่วนที่ชัดเจนไปเลย ห้องนอนเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่นเป็นห้องนั่งเล่น ก็ได้ความเป็นสัดเป็นส่วนและตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวภายในห้องได้ดีเลย

โดยภาพ Tive คือภาพของห้องตัวอย่างที่โครงการ โดยเป็น Unit Plan 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 31 sq.m. นะครับ

2 Bedroom 2 Bathrooms : 43.95 – 45.85 sq.m.

Unit Plan นี้เป็นแบบเดียวกับห้องตัวอย่างที่โครงการนะครับ ส่วนตัวแล้วผมชอบ Layout นี้นะครับ Living ได้สัดส่วนพื้นที่ใหญ่ซะใจดีครับ และ เป็น แบบ 2 Bathroom ด้วย ห้องนอนเล็กสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน ก็ถือว่าลงตัว และที่สำคัญ ส่วนของ Master Bedroom มีการ Build ส่วนของตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วย ซึ่งจะช่วยเก็บมุมเสาภายในห้องได้อย่างลงตัว อันนี้ผมว่าทางโครงการลงรายละเอียดมาได้ดีเลยครับ ห้องกลัวเป็นสัดเป็นส่วน มีฉากกันเพื่อช่วยเรื่องของกลิ่นเวลาทำอาหาร เสียดายที่ทางโครงการวางสัดส่วน Unit Plan นี้ไม่เยอะ ใครที่สนใจอยากได้ก็คงต้องแย่งกันหน่อยนะ ทั้งโครงากรมี 2 Bedroom ไม่ถึง 30 Unit นะครับ (แอบหวังจะซื้อ Unit Type นี้ไว้ลงทุนเหมือนกัน … แต่ราคาแพคดูจะตึงไปหน่อยสำหรับผมอะ T-T)

โดยภาพ Tive คือภาพของห้องตัวอย่างที่โครงการ โดยเป็น Unit Plan 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 43.95 sq.m. ตามแบบ Unit Plan ด้านบนเลยครับ

Floor Plan :

Tower A : 2 – 22 Floor Plan , Tower B : 4 – 8 Floor Plan

Facilities :

Tower A : The prime lobby , Elegant lift hall & Precious mailbox ชั้น 1 , Exclusive working space & Private meeting room ชั้น 3  Finest sky lounge ชั้น 22 Crystalline Sky Pool , Sky Steaming Room แยกชาย/หญิง , Sky view courtyard & Leisure sky scene ชั้น Rooftop

Tower B : Hideaway garden & Garden view gym ชั้น 4

Other : Wifi สำหรับ Main Lobby, Exclusive working space, Private meeting room, Finest sky lounge, Hideaway garden, Garden view gym, Crystalline Sky Pool กล้องวงจรปิด และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ Key Card

ที่จอดรถ : ประมาณ  43 % (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)

ค่าส่วนกลาง / เงินกองทุน : 55 / 500 บาทต่อตร.ม.

ราคาเริ่ม : 1.99 ล้านบาท *

และก็มาต่อกันด้วย Unit Recommended : The Tree Charan 30 by Pruksa อย่าลืมนะครับว่า ในการเลือกของผม Unit Recommended ของโครงการนี้ ผมจะเน้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่ม Real Demand เพื่อการอยู่อาศัยเองเป็นหลักนะครับ

Unit Recommended : Option A
ผมขอเลือก ฺ1 Bedroom : ขนาด ตร.ม. ( ตำแหน่ง 04 อาคาร A) ทิศเหนือ ระดับชั้นความสูงแนะนำชั้น 14 ขึ้นไป เน้นเรื่องของทิศ และ วิว

ข้อดี
-ตำแหน่งยูนิตนี้ มุมมองจะมองตรงออกไปทางทิศเหนือ ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องของแดด ไม่ร้อนแดดทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายเลยครับ และ วิวก็ถือว่าดีเยี่ยม เพราะวิวเปิดโล่ง มองเห็นไฟสะพานพระราม 8 ยามค่ำคืน สวยมากๆ 

– Unit Plan ขนาด 26.45 sq.m. ถือว่าเป็น Unit Plan วางสัดส่วน Function ได้ลงตัว และราคาถือว่ากำลังดี 

-ตำแหน่งอยู่ใกล้ Lift สะดวกเวลา ซื้อของกลับเข้าห้อง แต่จริงๆ ผมชอบ Floor Plan ของที่นี้นะ เพราะ ในหนึ่งชั้นมี Unit ต่อชั้น แค่ 12 Units เท่านั้น คือส่วนตัวมากๆ

ข้อเสีย
-สำหรับใครที่อยากได้ Unit Plan ที่ให้ความสำคัญกับ Function ของ Living Room แบบของกว้างๆ โล่งๆ อาจรู้สึกอึดอัดหน่อยๆ เนื่องจากการที่เค้าแยกเอาส่วนของโต๊ทานข้าวไปไว้ในส่วนของ Function ครัว ทำ Living Room ดูเล็กๆไปหน่อยอะเนอะ แต่พออยู่จริงผมว่าไม่ได้แย่ขนาดนันดูแอบจะลงตัวด้วยนะ อันนี้แล้วแต่คนชอบแล้วกันครับ เพราะถ้าอยากให้ความสำคัญกับ Living Room ลองดู Unit Plan 23.6 sq.m. อาจตอบโจทย์ได้มากกว่านะครับ แถมยังได้ Living Room ที่ติดกับกระจกระเบียงด้วย น่าจะได้ความโปร่งโล่งได้มากกว่า

-สำหรับคนที่มีความเชื่อเรื่องหัวนอนตะวันตก  ตำแหน่ง Unit นี้หัวนอนจะหักไปทางตะวันตกนะครับ ดังนั้นก็ต้องชั่งน้ำหนักกันเอานะครับ ว่าจะเชื่อความเชื่อ หรือจะเลือก วิว สวยๆ สะพานพระราม 8 (ส่วนตัวผมเลือก … ไม่ต้องบอกก็รู้เนอะ อิอิ )

-อันนี้ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบนะ เพราะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับส่วนของ Function ครัวและส่วนของโต๊ะทานอาหาร ผมว่าเค้าเผื่อพื้นที่ไว้เยอะไปหน่อย เข้าใจว่าอยากวางโต๊ะทานข้าวและเหลือพื้นที่เดินได้ … แต่ส่วนตัวอยากได้พื้นที่ Function Living Room มากกว่าอะ >////<

Unit Recommended : Option B
ผมขอเลือก ฺ1 Bedroom : ขนาด  ตร.ม. ( ตำแหน่ง 09 อาคาร B) ทิศใต้ ระดับชั้นความสูงแนะนำชั้น 5-6 วิว สวน พื้นที่สีเขียว ส่วนกลางของโครงการ

ข้อดี
-ตำแหน่ง Unit Recommended : Option B นี้ ผมเลือกให้กับ คนฝั่งธนฯ ที่ชอบความเป็น Low Rise เลยครับ เพื่อนผมคนหนึ่งอยากได้คอนโดมิเนียมไว้อยู่เองเคยบอกผมว่า คนฝั่งธนบุรี หลายคนคอนโด Low Rise มากกว่า High Rise ผมเลยเลือก Option นี้ให้เพื่อนผมคนนั้นเลยดีกว่า

-ตำแหน่งหัวนอนเป็นตำแหน่ง ทิศตะวันออก และมองย้อนเข้าพื้นที่สวนด้านในโครงการ แต่ระดับความสูงต้องอยู่ที่ ชั้น 5-6 เท่านั้นนะครับ เพื่อให้สามารถ มองเห็นวิวยอดไม้ และพื้นที่สีเขียวได้จากบนเตียงนอนได้เลย

-ตำแหน่งนี้แม้จะอยู่ในระดับชั้นไม่สูง แต่การได้วิวสวน พื้นที่สีเขียว ด้านในโครงการ ทำให้มุมมองของวิวมีระยะห่างจะที่ดินข้างๆอยู่เยอะเลยครับ ดังนั้นไม่ต้องไปสนว่าวันหน้า ที่ดินข้างๆจะมีอะไรขึ้นมาบัง เพราะเวลาเลือกโครงการ Low Rise วิวสวนด้านใน ถือว่าเป็นวิวที่ดีที่สุดแล้วอะเนอะ 

-เนื่องจาก Tower B ชั้นล่างๆ เป็นส่วนของที่จอดรถของโครงการ ดังนั้นจะสะดวกมากเวลาที่กลับมาแล้วจอดรถ ขึ้น Lift มาถึงห้องเลย สะดวกแน่นอน

ข้อเสีย
-เนื่องจาก Unit Plan ในตำแหน่งนี้ เป็น Unit Plan 1 Bedroom ขนาด 31 ตร.ม. ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องราคาเลยครับ แพงกว่า 1 Bedroom ทั่วไปในโครงการแน่นอน ยังไงใครที่สนใจตำแหน่งนี้ก็ลองชั่งใจ ตัดสินใจกันดูนะครับ 

หมายเหตุ : แต่ถ้าใครอยากลุ้นตำแหน่ง Unit ที่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ผมไม่ฟันธงนะครับ ว่าจะเห็นจริงๆแล้วจะสวยมั้ย แต่ถ้าอยากลอง ก็ลองตัดสินใจกันดู Tower A ตำแหน่ง 10 น่าจะพอได้ลุ้น ดูจากมุมเบี่ยงของตึก  หรือ เอาสบายใจก็ขึ้นไปชมวิวยามเย็นที่ The prime lobby ชั้น Rooftop เลยก็ชัวร์สุด น่าจะสวยแน่นอน

ก็ประมาณนี้นะครับสำหรับ Unit Recommended : The Tree Charan 30 by Pruksa เป็นไงกันบ้างมีตำแหน่งไหนตรงใจใครบ้างหรือเปล่าครับ หรือ อยากจะแชร์หรือไม่แน่ใจตำแหน่งไหนก็พิมพ์ IB เข้ามาพูดคุยกับผมได้นะครับ แต่ถ้ายังจะถามว่าโครงการนี้ดีมั้ย? คุ้มมั้ย? อันนี้ผมแนะนำว่าให้ไปดูห้องตัวอย่างที่โครงการก่อนจะดีกว่านะครับ เพราะให้ผมบอกว่าดีแค่ไหน หากไม่เคยไปดูห้องตัวอย่าง ก็คงไม่เชื่อผมกันอยู่ดีละมั้งเนอะ ยังไงลองดูครับ สำหรับชาวฝั่งธนฯ ที่กำลังมองหาโครงการคอนโดมิเนียม Concept โครงการดีๆ จำนวนยูนิตในโครงการไม่เยอะ Spec วัสดุดีเยี่ยม เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยเอง ผมแนะนำว่าโครงการนี้น่าสนใจและคุณๆจะชอบแบบผมแน่นอน

โดยปัจจุบันโครงการเปิดให้สามารถเข้าชมห้องตัวอย่างได้ที่สำนักงานขายแล้วนะครับ

และทางโครงการจะมีกิจกรรมเปิดขายรอบ Pre-Sale ในวันที่ 24-25 มิ.ย.นี้ … กับราคายูนิตเริ่มต้น 1.99 ลบ.* ผ่อนเพียง 2,900 บาท/เดือน*

ใครที่สนใจยังไงก็เข้าไปคลิกลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท* กันที่ Link ลงทะเบียนนี้นะครับ  http://thetreecondo.pruksa.com/pre-sale/713-charansanitwong-30#home

ขอบคุณที่สนใจและติดตามนะครับ