Project : The Tree Sukhumvit 64 by Pruksa [Ready to move In]
เข็มนาฬิกาและเวลา มันมักจะเดินเร็วเสมอ … โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise 7 – 8 ชั้น เพราะเผลอแปบเดียวโครงการก็ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้แหละ โดยทั่วไปหากนับตั้งแต่วันที่เริ่มตอกเสาเข็ม จนก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้เวลาในการก่อสร้างกันอยู่ที่ประมาณ 12-18 เดือน ตามแต่ความยากง่ายในรายละเอียดของแต่ละโครงการ
ดังนั้นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise จึงดูแล้วจะไม่ใช่คำตอบ หรือ เป็นที่นิยมชมชอบสำหรับใครที่กำลังมองหาโครงการคอนโดมิเนียมในการลงทุนโดยการคาดหวัง Capital Gain จากการขายใบจองซักเท่าไรอะเนอะ เพราะ ด้วยระยะเวลาของการก่อสร้างที่สั้นตามที่บอกไปในตอนต้นนั้นเอง
แต่ถ้าสำหรับ Real Demand ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองแล้ว โครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ในหลายๆทำเล ก็ดูจะเป็นอะไรที่น่าจะถูกอกถูกใจของใครหลายๆคน ทั้งเรื่องของระยะเวลาในการก่อสร้าง คือ สร้างเสร็จเร็วทันใจ ไม่ต้องยื้อผ่อนดาว์นกันเป็นระยะเวลานานๆ หรืออีกอย่างหนึ่งที่ต้องบอกเลยว่าเป็นเสน่ห์ที่มัดใจและกระชากเงินในกระเป๋าเราๆท่านๆได้ไม่ยาก นั้นก็คือเรื่องของราคาต่อตร.ม. ซึ่งหากเทียบโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise กับโครงการอื่นๆใกล้เคียง ที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ที่อยู่ติดถนนใหญ่แล้ว ราคาจะถูกกว่ามากเลยนะครับ … ได้ที่อยู่อาศัยในทำเลดีๆสบายๆกระเป๋ากันไป
และด้วยความที่งานก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เร็ว ดังนั้น มันก็จะเป็นเวลาที่เราจะได้พิสูจน์ความดีงามของโครงการที่แล้วเสร็จ ว่าโครงการเมื่อเสร็จออกมาแล้วจะออกมา ดูดี คุ้มค่า สมราคาค่าตัวต่อตร.ม.มั้ย? แถมเผลอๆบางโครงการก็ยังจะมีโปรโมชั่น Ready to move in เพื่อมาช่วยเร่งการตัดสินใจเข้าไปอีก ดังนั้นการตัดสินใจซื้อในช่วงเวลานี้จึงถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง (สูตรการซื้อในช่วงเวลา Ready to move in แบบนี้ น้องสาวผมใช้บ่อยนะ 5555+)
โดยหลักการซื้อโครงการคอนโดมิเนียม ในช่วงเวลาที่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ (Ready to move in) ข้อดีมีอะไรบ้าง?
– ได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกซื้อยูนิตการอยู่อาศัยจากตำแหน่งยูนิตจริง วิวจริงของโครงการ
– สามารถพิจารณาความคุ้มค่าของราคา กับคุณภาพของโครงการงาน ทั้งคุณภาพ ก่อสร้าง การเก็บงานภายในห้อง และ พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
– ได้เห็นสังคมการอยู่อาศัยจริงภายในโครงการ ว่าเพื่อนบ้าน หรือ คนข้างห้องของเราเป็นใคร แนวไหน
– ค่าใช้จ่ายในจองเป็นเจ้าของยูนิตง่ายๆไม่ต้องใช้เงินสดเยอะ ไม่ต้องผ่อนดาวน์ เพราะ สามารถจองแล้วทำการโอนฯ เข้าสู่รูปแบบของสินเชื่อกับธนาคารได้เลย
ที่กล่าวมานั้น คือ ส่วนของข้อดีในการเลือกซื้อโครงการที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบสร้างเสร็จก่อนขาย (สถาบัน LH สอนมานะครับ) หรือ โครงการที่พร้อมเข้าอยู่ (Ready to move in) นะครับ
แต่พอมาวันนี้ พอจะพูดถึงโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ก็ดูเหมือนจะมีให้เลือกกันอยู่ หลายหลายโครงการ หลากหลายทำเล มากมาย ซะเหลือเกิน แล้วแบบนี้โครงการไหนละที่ดีพร้อมและน่าอยู่อาศัยจริง ? นั้นแหละครับ คือ ที่มาของบทความในครั้งนี้
โดยโครงการที่ผมจะนำมาพูดถึงและจะขอมาแนะนำสำหรับในบทความนี้ นั้นก็คือ โครงการ The Tree Sukhumvit 64 by Pruksa [Ready to move in] ซึ่งจากการที่ผมได้แวะเข้าไปเยี่ยมชมโครงการ ต้องบอกเลยว่า ผมขอยกโครงการนี้ให้เป็น โครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของปีนี้เลย อะไรที่ทำให้ผมคิดแบบนั้น ตามอ่านในบทความนี้ได้เลยครับ แต่ก่อนอื่นไปดูในส่วนของ Information Project ของโครงการนี้กันก่อนเนอะ
Information Project :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : สุขุมวิท 64 (ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี เพียง 300 เมตร และ สามารถเดินทางขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ได้เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น)
โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้กับสถานที่สำคัญๆหลายแห่ง โดนเฉพาะ แหล่งของกิน และ Lifestyle ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้จริง แต่สถานที่สำคัญที่ดูจะน่าสนใจสำหรับผม ผมมอง 2 จุดใหญ่ๆ คือ
– ปิยะรมณ์ ที่อนาคตจะมีโครงการ Mix Use ขนาดใหญ่ ที่จะมาเปลี่ยนหน้าตาของทำเลโซนนี้ให้ดูน่าสนใจและมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต อย่างโครงการ Whizdom101 และอนาคตยังมีโครงการ Bangkok Mall ที่เตรียมจะมาเปิดเพิ่มบริเวณสี่แยกบางนาเพิ่มเข้ามาอีกด้วย
– โรงเรียน Anglo Singapore International School
ขนาดที่ดิน : 1-1-43 ไร่
ลักษณะโครงการ : คอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
ยูนิตทั้งหมด : 149 ยูนิต (ถ้าเทียบยูนิตต่อไร่ ถือว่าน้อยมากครับ)
รูปแบบห้องพักอาศัย : 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus , 2 Bedroom 2 Baths , Duplex – Function 2 Bedrooms
ขนาดพื้นที่ใช้สอย : Floor to Ceiling 2.55 เมตร
1 Bedroom ( 27.60 ตร.ม. – 41.50 ตร.ม. )
สำหรับโครงการนี้ทางโครงการวางสัดส่วนจำนวนยูนิต และ ขนาดพื้นที่การอยู่อาศัยภายในแต่ละยูนิต ให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยเองเป็นหลัก ดังนั้นสำหรับ Unit Plan ขนาดเริ่มต้นของโครงการที่เป็นรูปแบบ 1 Bedroom จึงได้ขนาดของพื้นที่เริ่มต้นที่ 27.60 ตร.ม. จนไปถึงขนาด 41.50 ตร.ม.
โดยรูปแบบ Layout โหมดหลักของโครงการ จะเป็นรูปแบบเดียวกับ Unit Plan ที่ผมนำมาโชว์ไว้ด้านบน โดยความต่างระหว่าง Unit Plan แบบ A กับ B นอกจากจะเป็นเรื่องของขนาดพื้นที่ในแต่ละยูนิตแล้ว ส่วนที่แตกต่างแบบเห็นได้ชัดเจน คือการแบ่ง Function ของห้องในส่วนของการแบ่ง Function : Living กับ Bedroom โดยแบบ A จะใช้เป็นฉากกันบานเลื่อนกระจก 3 ตอน และ แบบ B จะใช้เป็นผนังทึบ บานประตู ซึ่งมีดีมีด้อยแตกต่างกัน และ แต่มุมมองและการชอบของแต่ละคนนะครับ
แต่ถ้าสำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom 2 แบบนี้ ส่วนตัวผมชอบแบบ A มากกว่านะ มันดูเพิ่มความโปร่งโล่งภายในส่วนของ Living ได้ดีกว่าอะครับ
1 Bedroom Plus ( 40.80 ตร.ม. – 41.80 ตร.ม. )
Unit Plan : 1 Bedroom Plus ขนาด 40.80 ตร.ม. – 41.80 ตร.ม. สำหรับ Unit Plan นี้สำหรับผมเลยนะ ตอนสมัยที่โครงการนี้ทำห้องตัวอย่างเปิดขายตอน PreSale แอบบอกตามตรงว่าโคตรไม่ชอบเลยครับ ตอนนั้นโครงการแต่งห้องตัวอย่างออกมาแบบ ดูอึดอัด และมืดหน่อยๆในส่วนของ Function : Kitchen เลยแอบมองข้ามแบบนอกสายตาสุดๆ
แต่พอได้กลับมาดูของจริงตอนโครงการสร้างเสร็จแล้วอีกครั้ง … โอ้ย!! สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom Plus ขนาด 40.80 ตร.ม. – 41.80 ตร.ม. ทำไมมันช่าง สวยดูดี และ Function ดูลงตัว น่าอยู่อาศัยจริงมากๆเลยครับ
ผมเลยถ่ายสภาพห้องเปล่า ที่พร้อมส่งมอบมาให้ดูกัน เพื่อให้เห็นในส่วนของพื้นที่ และ Function ภายในห้อง (อยากถ่ายให้เห็นถึงคุณภาพ ความเนียบของงานที่ส่งมอบ มาให้ดูด้วยกันนะครับ คือ งานเนียบดีงามเกินราคาจริงๆ)
Kitchen : ฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบเข้ามุม
ห้องอเนกประสงค์ที่เชื่อมต่อกับส่วนของระเบียง โดยแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนกับส่วนของ Living ด้วยฉากกันบานเลื่อน 2 ตอน
Bedroom มีความเป็นกระจกเข้ามุมหน่อยๆ เปิดมุมมองของห้องให้โปร่งโล่งมากขึ้น (ตำแหน่ง ห้องนี้ยังว่างอยู่นะครับ สำหรับใครสนใจ Unit Plan : 1 Bedroom Plus ผมขอแนะนำตำแหน่งนี้เลยนะครับ ^^)
Bathroom : มีส่วนของฉากกันอาบน้ำ เพื่อเป็นแบ่งพื้นที่ในส่วนเปียก-แห้ง
Function สำหรับ Unit Plan : 1 Bedroom Plus ขนาด 40.80 ตร.ม. – 41.80 ตร.ม.ดูคุ้นตากันมั้ยครับ ใช่แล้ว… มันคือ Unit Plan เดียวกับที่ทางโครงการแต่เป็นห้องตัวอย่างให้ชมกัน ที่โครงการนั้นเอง และ คือ Unit Plan เดียวกับที่ผมโพสต์ห้องตัวอย่างของโครงการนี้ให้ชมกันตอนต้นด้วยเช่นกัน
2 Bedroom 2 Baths ( 50.10 ตร.ม. – 54.50 ตร.ม. )
Duplex – Function 2 Bedrooms ( 80 ตร.ม. )
สำหรับ Unit Plan แบบ 2 Bedroom ของโครงการนี้จะมีด้วยกัน 2 แบบ แต่ถ้าจะให้เรียกว่า Rare Unit สำหรับโครงการนี้เลยก็ต้องยกให้ห้อง Duplex – Function 2 Bedrooms ( 80 ตร.ม. ) เพราะว่าทั้งโครงการมีแค่เพียง 3 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 7 ตำแหน่งมุม ได้วิวในส่วนของ ทิศตะวันออก และทิศเหนือของโครงการ
(แอบเสียดายที่ยูนิตนี้มีคนจองไปแล้ว ผมเลยไม่มีโอกาสได้เข้าไปดูนะ)
Floor Plan : จำนวนยูนิตการพักอาศัย สูงสุด 23 ยูนิตต่อชั้น
Facilities :
The Boutique Leisure Pool (Swimming Pool) สระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร (Roof Top)
The Boutique Gym (Fitness) จะวางอยู่บริเวณชั้น 7 ตำแหน่งวิวสวนส่วนกลาง Boutique Courtyard โครงการ
The Boutique Lobby & Lounge (Double volume lobby + Multi purpose) หล่อมากๆ ตกแต่งออกมาได้ดูดีและหรูหราเกินราคาโครงการมากๆ
The Boutique Courtyard บรรยากาศดูร่มรื่น และ ให้ความรู้สึกสงบน่าอยู่อาศัยมากๆ โดยพื้นที่สีเขียวในส่วนนี้จะวางอยู่ด้านในของโครงการ โดยตำแหน่งการวางยูนิต 50% ของโครงการจะได้วิวนี้เลยครับ
Wi-Fi บริเวณ Lobby , กล้องวงจรปิด และ ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงพร้อม Proximity Card
จำนวนที่จอดรถ : 69 คัน (นับเฉพาะในส่วนที่จอดในช่องจอด) ที่จอดรถภายในอาคาร และ ชั้นใต้ดิน
ค่าส่วนกลาง / เงินกองทุน : 55 / 600 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 3.29 ล้านบาท*** ( Ready to move in)
เป็นไงกันบ้างครับ… กับโครงการ The Tree Sukhumvit 64 by Pruksa โครงการที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลาง ที่ให้ความรู้สึกในการอยู่อาศัยที่หรูหรา และ ดูดีมากๆเลยใช่มั้ยครับ นอกเหนือจากเรื่องของการตกแต่งและการจัดวางพื้นที่ส่วนกลางที่ดูหรูหรามากๆแล้ว อีกเรื่องที่ผมต้องขอชื่นชมโครงการนี้ ซึ่งจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ นั้นก็คือการจัดวางสัดส่วนของ Unit Plan ของโครงการนี้
โดยเฉพาะอย่างที่บอกไปในส่วนของการอธิบาย Information Project ในส่วนของ Unit Plan : 1 Bedroom Plus ของโครงการนี้ ต้องถือว่าดีงามมากๆ ด้วยการออกแบบจัดวาง Layout ที่ทำออกมาได้มีความลงตัวน่าอยู่อาศัยมากๆ บอกเลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยขนาด ประมาณ 40-45 ตร.ม. (ซึ่งเดียวนี้ Unit Plan ขนาดประมาณนี้ หายากมากๆแล้วครับ โดยเฉพาะกับยูนิตของโครงการในระดับราคานี้) ผมขอแนะนำเลยว่าให้เข้ามาชมห้องตัวอย่าง และ ชมห้องจริงตำแหน่งจริงที่โครงการนี้ รับรองว่าคุณจะต้องชอบ Unit Plan : 1 Bedroom Plus ขนาด 40.80 ตร.ม. เหมือนผมแน่นอน
” สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น “ สำหรับใครที่มีความชื่นชอบโครงการคอนโดมิเนียมประเภท Low Rise โครงการที่เน้นให้ความสำคัญกับเรื่องของการตกแต่งและจัดวางพื้นที่ส่วนกลางเพื่อเพิ่มความน่าอยู่อาศัยให้กับตัวโครงการ และ กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลอย่างสุขุมวิท ตอนปลาย (สุขุมวิท 64) ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS ผมแนะนำว่าคุณๆต้องลองแวะไปชมโครงการ The Tree Sukhumvit 64 by Pruksa นี้ ไปพิสูจน์กันดูนะครับว่า ทำไมผมถึงยกโครงการนี้ให้เป็น “โครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของปีนี้เลย”
สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไป ลงทะเบียน หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://goo.gl/QmGYeF
โทรสอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติม : 1739
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ