Project : MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC
ข้อดีอย่างหนึ่งที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนจากวงการอสังหาริมทรัพย์บ้านเรา นั้นก็คือวงการอสังหาริมทรัพย์บ้านเราเป็นวงการที่มีการแข่งขันและพัฒนากันอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดดมากๆตลอดช่วงเวลา 3 – 5 ปีที่ผ่านมา
โดยจะเห็นได้จากการพัฒนาโครงการใหม่ของ Developer แต่ละเจ้า ในปัจจุบันก็ล้วนแล้วแต่มีการพัฒนาโครงการของตัวเองให้มีความโดดเด่นทั้งเรื่องของงานสถาปัตยกรรมของตัวอาคาร งานออกแบบ Function Layout ในส่วนของ Unit Plan หรือกระทั้งในส่วนของงาน Landscape พื้นที่ส่วนกลางของตัวโครงการ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่ม Real Demand ในแต่ละ Segment ในแต่ละทำเลนั้นเอง
ซึ่งนอกจากการที่ Developer จะต้องใช้ความพยายามและใส่ใจในทุกรายละเอียดในการพัฒนาโครงการเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องของที่อยู่อาศัยของกลุ่ม Real Demand ของตนแล้ว ก็ยังปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าการพัฒนาโครงการในแต่ละโครงการทุกวันนี้ล้วนแล้วแต่จะมีราคาขายต่อตร.ม.ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเรื่องของ Segment ของโครงการจึงกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยหรือองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกซื้อของคนด้วยเช่นกัน
นอกเหนือจากเรื่องของราคาขายต่อตร.ม.ของโครงการใหม่ๆในปัจจุบันที่ดูจะสูงแตะความเป็นโครงการระดับ Luxury Residence ได้อย่างง่ายดายแล้ว [หลายโครงการใหม่ๆก็ต่างบัญญัติความเป็นโครงการระดับ Luxury กันไปทั่ว จนแยกไม่ออกแล้วว่าโครงการ Luxury จริงๆต้องหน้าตาแบบไหน? ] เรื่องของการออกแบบ Unit Plan จำนวนยูนิต และ เปอร์เซ็นต์ของที่จอดรถในแต่ละโครงการก็เป็นปัจจัยที่เป็นตัวชี้วัดความเป็นโครงการในระดับ Luxury Residence ได้นะครับ
ซึ่งโครงการที่ผมจะขอนำมาพูดถึงสำหรับบทความ Project : MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC ในครั้งนี้ คือหนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมที่มีความน่าสนใจทั้งในเรื่องของการออกแบบ Unit Plan ที่มีการใส่ใจในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยของคนในทุก Generation
จนผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าโครงการ MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC คือโครงการคอนโดมิเนียม The Super Luxury Intergeneration Residence ที่มีการออกแบบ Function Layout ของแต่ละ Unit Plan เพื่อให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทุก Generation และยังคงความเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในระดับ Luxury บนทำเลสุขุมวิทได้อย่างแท้จริง
โดยสำหรับบทความ Project : MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC ในครั้งนี้ ก่อนอื่นเลย … ผมก็ต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับ ด้วยความที่โครงการนี้มีรายละเอียดความน่าสนใจในการออกแบบ และพัฒนาโครงการที่เยอะมากๆครับ [จนผมอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสแวะไปชมโครงการด้วยตัวเองจริงๆนะครับ]
ซึ่งผมก็เกรงว่าในบทความนี้ผมอาจจะไม่สามารถพูดรายละเอียดความน่าสนใจได้อย่างครอบคลุมและทำให้ทุกคนเห็นภาพตามได้ทั้งหมด ของโครงการนี้ในมุมที่ผมถนัดดังนั้นผมจึงอยากจะขอเลือกนำเสนอความน่าสนใจของโครงการนี้ในมุมที่ผมถนัด นั้นก็คือเรื่องของการออกแบบในส่วนของ Unit Plan ของโครงการนี้นั้นเอง
ดังนั้นสำหรับบทความ Project : MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC ในครั้งนี้ ผมจึงจะขอเน้นที่จะลงรายละเอียดในส่วนของงานออกแบบ Function Layout ในแต่ละ Unit Plan ที่เป็นห้องตัวอย่างของโครงการนี้เป็นหลักนะครับ
Project Information :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : บน ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. [ 250 m. to BTS – Ekkamai Station ]
ขนาดที่ดิน : 2 – 2 – 1.2 ไร่
ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย High Rise 37 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนยูนิต : 287 ยูนิต
Unit Type : Universal Design , Fully Fitted , Floor To Ceiling 3 m.
1 Bedroom (144 Units) : ขนาดพื้นที่ 47 sq.m. – 56.5 sq.m.
2 Bedroom(136 Units) : ขนาดพื้นที่ 87 sq.m. – 135 sq.m.
3 Bedroom (2 Units) : ขนาดพื้นที่ 162 sq.m.
Duplex Penthouse (1 Unit) : ขนาดพื้นที่ 216.5 sq.m.
Penthouse (4 Units) : ขนาดพื้นที่ 180 sq.m. – 241.5 sq.m.
ในส่วนของห้องตัวอย่างของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 2 Type ด้วยกัน ซึ่งก็ต้องขอบอกเลยว่าทั้ง 2 Type โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าเป็น Unit Plan ที่ออกแบบ Function Layout ได้ดีมากๆและลงตัวในทุกรายละเอียดทั้งคู่
โดยการออกแบบ Unit Plan ของโครงการนี้ ทางโครงการจะเน้นเรื่องของ Space เป็นพิเศษนะครับ เพื่อให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนในหลายหลาย Generation และให้ความสำคัญกับเรื่องของ Universal Design อีกด้วย ดังนั้นทั้งเรื่องของ Space และ Function ของทุก Unit Plan ทางโครงการมีการออกแบบและจัดสรรพื้นที่ในแต่ละ Function มาให้อย่างลงตัวและสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้จริงทุกตร.ม.ของห้องเลยจริงๆนะครับ
1 Bedroom 1 Bathroom : ขนาดพื้นที่ 56.50 sq.m.
มาเริ่มในส่วนของบทวิเคราะห์ Function Layout ของ Unit Plan ห้องตัวอย่างของโครงการนี้กันนะครับ ผมจะขอเริ่มจากในส่วนของ Unit Plan : 1 Bedroom 1 Bathroom : ขนาดพื้นที่ 56.50 sq.m. ที่น่าจะตอบโจทย์สำหรับ Real Demand ที่เป็นคนโสด หรือ ครอบครัวเริ่มต้นนะครับ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนของ Function หลักของห้อง นั้นก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining + Kitchen เชื่อมต่อไปถึ่งส่วนของพื้นที่ Multi-Purpose ที่อยู่ชิดกับหน้าต่างของตัวห้อง
ส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen จะเป็น Function แบบครัวปิด เพื่อตัดปัญหาความกังวลใจในเรื่องของกลิ่นรบกวนเวลาที่เราประกอบอาหารและเพิ่มความเป็นสัดส่วนให้กับพื้นที่ในส่วนของ Function นี้
การใช้ผนังกั้นเป็นบานกระจกใสขนาดใหญ่ที่กั้นพื้นที่ในส่วน Function นี้กับส่วนของพื้นที่ Function อื่นๆ ก็เพื่อเป็นการช่วยในเรื่องของแสงสว่างภายในพื้นที่ Function นี้นั้นเอง ส่วนของเคาน์เตอร์ครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งส่วนของตู้เย็นและตู้อบไมโครเวฟทางโครงการจะทำการ Build In มาให้ตามแบบห้องตัวอย่างเลยนะครับ
ตำแหน่งการวางส่วนของ Function : Dining หรือโต๊ะทานข้าว จะอยู่บริเวณตำแหน่งกึ่งกลางของพื้นที่รวมของ Unit Plan นี้ ซึ่งเมื่อดูจากขนาดพื้นที่จริงแล้วเราสามารถจัดหาโต๊ะทานข้าวหรือโคมไฟสวยๆมาจัดวางได้อย่างลงตัว โดยที่สำคัญเวลาที่เรานั่งรับประทานอาหารก็จะไม่รู้สึกว่าแน่นหรืออึดอัดแต่อย่างใดครับ
ถัดจากส่วนของพื้นที่ Function : Dining ก็จะเป็นส่วนของพื้นที่ Function : Living โดยจุดเด่นของการออกแบบพื้นที่ Function นี้ คือการที่มีส่วนของพื้นที่ Function : Multi-Purpose ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่โดยรวมของพื้นที่ Function นี้ให้ดูโปร่งโล่งมากขึ้น และใช้งานได้จริงในทุกตร.ม.
ขออธิบายเพิ่มเติมในส่วนของความดีงามของพื้นที่ Function : Multi-Purpose เพิ่มเติมอีกสักหน่อยนะครับ … คือพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ทางโครงการไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นอารมณ์เหมือนห้องอเนกประสงค์ปรับแต่งการใช้งานของแต่ละคนแบบโครงการอื่นๆทั่วไป
แต่ยังเป็นส่วนของพื้นที่ซักล้างได้เหมือนกับพื้นที่ระเบียงของ Unit Plan ทั่วๆไปอีกด้วย ด้วยการเตรียมในส่วนของท่อสำหรับต่อก๊อกน้ำ และท่อระบายน้ำไว้รองรับการใช้งานของพื้นที่ Function นี้
[คนเอเชียส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ ยังคงให้ความสำคัญกับการพื้นที่ระเบียงสำหรับตากผ้า ทางโครงการก็ยังใส่ใจและไม่มองข้ามพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนกลุ่มนี้นะครับ เยี่ยมเลยครับ]
ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom การกั้นสัดส่วนให้กับพื้นที่ในส่วนของ Function : Bedroom กับ Living จะใช้เป็นผนังทึบนะครับ เพื่อเพิ่มทั้งความเป็นส่วนตัว และเผื่อสำหรับใครที่อยู่อาศัยแบบครอบครัว คู่รัก ที่อาจเข้านอนไม่พร้อมกัน ก็จะไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของกันและกัน
โดยพื้นที่ในส่วนนี้บานกระจกจะไม่ได้เป็นแบบ Full Height เหมือนกับบานกระจกของพื้นที่ Function : Living นะครับ เพื่อเพิ่มในส่วนของความรู้สึกปลอดภัยนั้นเองครับ
บริเวณทางเข้าด้านหน้าส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom จะเป็นพื้นที่รองรับสำหรับการจัดวาง Function : Walk In Closet ซึ่งบอกเลยว่าพื้นที่ดูลงตัวมากครับ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป จัดสรรออกแบบพื้นที่มาได้ดีในทุกรายละเอียดจริงๆ
ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom ตำแหน่งการวางจะอยู่บริเวณพื้นที่ด้านในสุดของพื้นที่ Function : Bedroom ภายในจะจัดวางมาเป็นแบบ Function : 4 Fixtures ผมชอบการออกแบบและจัดวาง Function Layout แบบนี้นะครับ จริงอยู่ว่าการออกแบบให้มีกระจก Sexy Bath จะช่วยเรื่องของแสงสว่างให้กับพื้นที่ในส่วนนี้ แต่ในชีวิตจริงของการอยู่อาศัยมันดูไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไรนะครับ
บทสรุปเพิ่มเติมในส่วนของ Function : Unit Plan ของห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 1 Bathroom : ขนาดพื้นที่ 56.50 sq.m.
ผมมองว่าจุดเด่นที่น่าสนใจจากการออกแบบ Function Layout ของ Unit Plan นี้ คือเรื่องของ Space ในแต่ละพื้นที่ Function Layout ที่ตอบโจทย์ทั้งความโปร่งโล่งในการอยู่อาศัย และใช้งานพื้นที่แต่ละ Function Layout ได้จริงในทุกตร.ม.
ซึ่งสำหรับ 1 Bedroom 1 Bathroom : ขนาดพื้นที่ 56.50 sq.m. นี้น่าจะตอบโจทย์สำหรับ Real Demand ที่เป็นคนโสด และ กลุ่มครอบครัวเริ่มต้น อารมณ์คู่รักนะครับ
2 Master Bedrooms 3 Bathrooms : ขนาดพื้นที่ 114.00 sq.m.
ในส่วนของห้องตัวอย่างแบบ 2 Master Bedrooms 3 Bathrooms : ขนาดพื้นที่ 114.00 sq.m.ของโครงการนี้ โดยส่วนตัวแล้วผมก็ต้องขอบอกเลยว่า Unit Plan นี้บ่งบอกความเป็นตัวตนในการออกแบบ Unit Plan ของโครงการนี้ได้อย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนมากๆ
ขอโทษด้วยครับผมลืมกล่าวถึงไปในส่วนของการวิเคราะห์ Function Layout : 1 Bedroom 1 Bathroom : ขนาดพื้นที่ 56.50 sq.m. บริเวณด้านหน้าของประตูห้องหลักของแต่ละ Unit Plan นอกเหนือจากความดีงามในส่วนของขนาดทางเดินของ Corridor ที่กว้าง 1.8 เมตร [ไม่นับพื้นที่เว้าด้านหน้าของแต่ละห้อง]
ทางโครงการจะมีการ Build In ในส่วนของ Extra Storage เพิ่มเติมเข้ามาให้ด้วยนะครับ ส่วนงานระบบทั้งหมดของแต่ละห้องจะอยู่ด้านนอกตัวห้องทั้งหมด ดังนั้นเวลาที่มีการซ่อมบำรุงช่างจะสามารถแก้ไขงานต่างๆได้จากด้านนอกทั้งหมด
เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาสะดุดตาก่อนเลยครับ กับพื้นที่ Function : Kitchen ขนาดใหญ่ แบบออกแบบ Function มาแบบจริงจังจัดเต็มสุดๆครับ เพราะการอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่เรื่องของ Function : Kitchen เป็นสิ่งสำคัญ
แต่หลังๆจะเห็นว่าในการออกแบบ Unit Plan ของหลายๆโครงการก็ดูเหมือนจะมองข้ามพื้นที่ Function ในส่วนนี้ไป ซึ่งจริงๆแล้วมันสำคัญไม่แพ้พื้นที่ Function อื่นๆของห้องนะครับ
การจัดสรรพื้นที่ในส่วนของ Function : Kitchen ของ Unit Plan นี้ ด้วยความที่ทางโครงการให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่นี้ และต้องการให้คง Concept : Universal Design ดังนั้นเรื่องของขนาดพื้นที่จริงเป็นสิ่งสำคัญ … ส่วนฉากกั้นพื้นที่เพื่อเพิ่มความเป็นสัดส่วนให้กับพื้นที่ Function นี้ ทางโครงการก็เลือกใช้เป็นกระจกบานเลื่อน เพื่อช่วยเรื่องของแสงสว่างให้กับพื้นที่ และยังช่วยป้องกันกลิ่นจากการทำอาหารได้อีกด้วยนะครับ
ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในพื้นที่ Function : Kitchen ทางโครงการก็มีการออกแบบและทำการ Build In มาให้ตามแบบที่อยู่ในห้องตัวอย่างเลยนะครับ หรูหราดูดีมากๆครับ
ส่วนของพื้นที่ Function : Powder Room ที่มีจัดสรรพื้นที่ไว้อยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามของพื้นที่ Function : Kitchen ซึ่งไว้รองรับการใช้งานของแขกหรือเพื่อนที่แวะเวียนมาเยี่ยมบ้าน โดยไม่ต้องเข้าไปใช้ส่วนของ Function : Bathroom ที่อยู่ในพื้นที่โซน Private ของห้องนั้นเองครับ
มาต่อกันด้วยส่วนที่เป็นพื้นที่ Function Hilight ของ Unit Plan นี้อย่างแท้จริงครับ และทำให้ผมมองข้ามขนาดพื้นที่ของพื้นที่ส่วน Function : Kitchen ไปเลย ด้วยขนาดของพื้นที่ Function : Living + Dining + พื้นที่ Multi-Purpose นอกจากกระจกแบบ Full Height บานใหญ่และความกว้างของพื้นที่ในส่วนของ Function นี้ที่มีความกว้างมากกว่า 7 เมตร [ประมาณ 7.5 เมตร] มันช่างตอบโจทย์ความหรูหราและแกรนด์มากๆจริงๆครับ
ตำแหน่งการวางพื้นที่ Function : Dining จะถูกจัดวางไว้ตำแหน่งตรงกลางของพื้นที่ในส่วนนี้ ซึ่งข้อดีอย่างหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ ถ้าเราวางตำแหน่งโต๊ะทานข้าวไว้ในตำแหน่งนี้ ตำแหน่งของโคมไฟที่ถูกติดตั้งจะอยู่บริเวณใจกลางของห้อง ดังนั้นการหาโคมไฟสวยๆมาประดับก็ช่วยเพิ่ม Mood & Tone ของห้องให้ออกมาหรูหราหรือเท่ห์ได้จากตำแหน่งนี้เลยครับ
ตำแหน่งการวางส่วนของ Function : Living ขนาดพื้นที่อาจไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นขนาดพื้นที่ที่กำลังลงตัวเลยนะครับ โดยจะหันหน้าเข้าผนังที่เป็นตำแหน่งชั้นวางทีวีนั้นเอง
ส่วนของพื้นที่ Private Zone ของ Unit Plan นี้ นั้นก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า สำหรับ Unit Plan นี้ผมขอจัดให้เป็น Function : Master Bedroom ทั้ง 2 ห้องเลยนะครับ ในส่วนของ Function การใช้งานแล้วเหมือนกันทั้ง 2 ห้อง แต่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดพื้นที่เท่านั้น
ส่วนของพื้นที่ Function : Walk In Closet ของพื้นที่ Function : Second Master Bedroom ที่อยู่ด้านหน้าของพื้นที่ Function : Bathroom จะมีขนาดเท่ากันกับ Function : Walk In Closet ของ Unit Plan : 1 Bedroom นะครับ ซึ่งถือว่าลงตัวแล้วครับ
พื้นที่ Function : Bathroom ที่อยู่ภายในพื้นที่ Function : Second Master Bedroom รูปแบบและ Function การใช้งานจะเหมือนกับ Function : Bathroom ของ Unit Plan : 1 Bedroom เช่นกันนะครับ
ในส่วนของ Function : Master Bedroom ขนาดของพื้นที่ในส่วนนี้จะมีขนาดที่มากกว่าพื้นที่ของ Function : Second Master Bedroom แบบว่ารู้สึกได้ และ ในส่วนของบานกระจกจะได้เป็นแบบเข้ามุม เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับผู้ที่อยู่อาศัยภายในพื้นที่ Function นี้ได้มากขึ้น
ส่วนของพื้นที่ Function : Walk In Closet จะมีขนาดของพื้นที่ ที่ใหญ่มากขึ้นกว่า Function : Walk In Closet ของ Unit Plan ทั่วไปในโครงการนี้นะครับ ซึ่งสำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายน่าจะชื่นชอบสำหรับการออกแบบพื้นที่ Function ในส่วนนี้
ส่วนของ Function : Bathroom ที่อยู่ภายในพื้นที่ Function : Master Bedroom จะดูมีความหรูหรา โปร่งโล่ง และพิเศษมากๆ ด้วยขนาดของพื้นที่ การแบ่งพื้นที่ Function อย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน และ การมีบานกระจก ที่ช่วยเรื่องของการรับแสงสว่างทำให้พื้นที่ Function นี้ดูสว่างและโปร่งโล่งมากๆนั้นเอง
บทสรุปเพิ่มเติมในส่วนของ Function : Unit Plan ของห้องตัวอย่าง 2 Bedrooms 3 Bathrooms : ขนาดพื้นที่ 114.00 sq.m.
โดยส่วนตัวแล้วผมบอกเลยว่าผมประทับใจในส่วนของงานออกแบบ Function Layout ของ Unit Plan นี้มากๆครับ เพราะทางโครงการมีความเข้าใจในส่วนของ Function การอยู่อาศัยของคนในระดับ Segment นี้อย่างแท้จริงครับ
กับการให้ความสำคัญกับพื้นที่ Function ต่างๆที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัว ทั้งส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ , พื้นที่ Function : Living ที่เปิดโล่ง หรูหรา ตอบโจทย์ความแกรนด์ของตัวห้อง รองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวได้จริง และ สุดท้าย คือ การออกแบบ Function : Second Master Bedroom เพราะในความเป็นจริงของการอยู่อาศัยของ Real Demand ในระดับ Segment นี้ ก็คงอยากได้ Function การใช้งานใกล้เคียงกัน
ทั้งหมดนี้จากห้องตัวอย่างของโครงการนี้ทั้ง 2 Type ทำให้ผมเข้าใจเลยครับ ว่าการที่ทางโครงการมีการสื่อสารผ่านสื่อโฆษณาต่างๆว่าโครงการนี้เน้นการออกแบบพื้นที่การอยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนในทุก Generation ไม่ใช่คำโฆษณาเกินจริงแต่อย่างใดเลยนะครับ
Floor Plan : 
เพิ่มเติม … ความน่าสนใจของการออกแบบ Floor Plan ในส่วนของชั้นที่เป็นการพักอาศัยของโครงการนี้ นั้นก็คือการวางตำแหน่งของคอลิฟท์ ไว้ตรงตำแหน่ง Center ในแต่ละชั้นนั้นเองครับ ซึ่งลิฟท์โดยสารทั้ง 4 ตัวจะถูกแบ่งการใช้งานแยกโซนกันชัดเจน
ดังนั้นในแต่ละชั้นเมื่อเราออกจากลิฟท์มาจะเจอยูนิตการพักอาศัยสูงสุดเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งเป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ที่อยู่อาศัยในแต่ละชั้นนั้นเองครับ [การออกแบบของโครงการนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในทุกรายละเอียดจริงๆครับ]
ในส่วนของตำแหน่งลิฟท์ขนส่ง จะอยู่ในตำแหน่งตรงกลางไว้รองรับการใช้งานร่วมกันของทั้ง 2 โซนนะครับ
Facilities :
1st FL & BF – Mulberry’s Greeting Gallery , Cave Giver’s Office , Gourmet Courtyard , English Courtyard , Intergeneration Courtyard , EV Charger , Driver’s Lounge , Autonomous Garage Technology (Auto Parking)
2nd FL – Private Study Studio , The Mulberry’s Library , Children’s Room
32nd FL & 33rd FL – Infinity Sky Pool , Thermal Pool , Hydrotherapy Pool , Children’s Pool , Sky – High Gym Studio , Private Spa , Private Style Atelier , Private Sky – High Onsen , Sauna , Yoga Suite , Ballet Suite , Patio Gym , Golf Simulator & Entertainment Room , Family Cabana , Sky-high Sun Deck
37th FL – Grand Private Living & Dining Room , BBQ Garden , Residence Lounge , Family Living Room , Game Room & Pool Table , Children’s Play Room , Observation Patio
Other Service : Concierge Receptionist , Wellness Manager , 24 hrs. Caregiver Service , Home Automation with Mobile Application Command , Security Robot with AI Technology and Complimentary Afternoon Tea
ที่จอดรถ : 100% [Auto Parking + Conventional Parking]
ค่าส่วนกลาง / เงินกองทุน : 95 / 1,000 บาทต่อตร.ม.
สำหรับบทความ Project : MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC ก็จะประมาณนี้นะครับ กับการวิเคราะห์ในส่วนของ Function Layout ของ Unit Plan ห้องตัวอย่างของโครงการนี้ ซึ่งผมขอยอมรับเลยว่า Unit Plan ของโครงการนี้มีความน่าสนใจมากๆ และน่าจะตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนในหลากหลาย Generation ได้อย่างแท้จริง
และก็อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ตั้งแต่ตอนต้น ว่าโครงการ MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC นอกเหนือจากเรื่องของการออกแบบ Unit Plan ที่มีความดีงามและน่าสนใจมากๆแล้ว ในส่วนของ Concept และ การออกแบบของตัวโครงการเองก็ยังมีรายละเอียดความน่าสนใจอื่นๆในมุมต่างๆอีกเยอะเลยนะครับ
ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของ Spec วัสดุต่างๆที่ทางโครงการคัดสรรมาไว้ใช้สำหรับโครงการนี้ทั้งที่อยู่ภายในยูนิตการพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง หรือ จะเป็นเรื่องของการออกแบบจัดสรรพื้นที่ส่วนกลาง Facilities Area ให้ตอบโจทย์ Lifestyle ของคนทุกเพศทุกวัย ไปกระทั้งเรื่องของ Service การรับประกันต่างๆของโครงการนี้
สำหรับในส่วนของการรับประกัน หรือ การันตี ของโครงการนี้ ก็ต้องบอกเลยว่าทางโครงการเขามีการรับประกันทั้งในส่วนของตัวโครงสร้างอาคารและงานระบบภายในของโครงการตลอดระยะเวลา 30 ปีกันเลยนะครับ ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นผู้อยู่อาศัยภายในโครงการนี้ก็อุ่นกายสบายใจกันได้หายห่วงได้เลยครับ
ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาหรือให้ความสนใจกับโครงการที่อยู่อาศัยในระดับ Segment นี้ ทำเลใจกลางเมือง โครงการ MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC คือโครงการที่ผมขอแนะนำว่าคุณไม่ควรพลาดที่จะต้องหาเวลาแวะเข้าไปชมกันให้ได้นะครับ
เพิ่มเติม …
MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC
ราคาเริ่มต้น 175,XXX บาท / ตารางเมตร
พร้อมพรีเซลล์ 1-2 กุมภาพันธ์ ศกนี้
ณ. สำนักงานขาย โครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท
โดยภายในงานจะมีส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 900,000 บาท
สำหรับห้อง 1 Bedroom และโปรโมชั่นอื่นๆ มากมาย
ผู้ที่สนใจสามารถถลงทะเบียนได้ที่ : http://bit.ly/2RJEqkc
หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร : 084 244 2456
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม
