Project : De LAPIS Charan 81 by GRAND UNITY
เมื่อก่อนเวลาที่ใครมาถามผมถึงความน่าสนใจของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆที่อยู่ตามแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ว่าเหมาะมั้ย? สำหรับการลงทุน โดยเฉพาะกับการลงทุนที่ผู้ลงทุนแบบคาดหวังผลกำไรเป็น Capital Gain ในอนาคต ผมก็มันจะไม่ค่อยแนะนำหรือสนับสนุนสักเท่าไรนะครับ … เพราะหลายปีก่อนหลายๆโครงการของหลาย Dev ก็เคยฝากบาดแผลฝังใจใครหลายๆคน คือ รถไฟฟ้าอะมาจริงครับ แต่ Real Demand หรือ คนอยู่อาศัยจริงอะที่มาไม่ทันหรือไม่มาตามนัด
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ประกอบด้วยหลายๆปัจจัยนะครับ เช่น สินค้า หรือ ที่อยู่อาศัยเปรียบเทียบอื่นๆ อย่าง Town Home , Single Home ราคายังไม่มีความแตกต่างกับ ราคาต่อยูนิตของคอนโดมิเนียมมากนัก รวมถึงการมี Supply ที่เข้ามาในแต่ละทำเล ที่มีจำนวนมากเกินไป ทำให้เกิดการขายแบบตัดราคากันเอง ทั้งจาก Dev ด้วยกันเอง หรือ จะเป็นจากกลุ่มนักลงทุน เพื่อแย่งชิง Real Demand ที่ตอนนั้นต้องบอกเลยว่ายังมีจำนวนความต้องการไม่มากพอ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เป็นเพราะโครงการที่อยู่ในเมืองในหลายๆทำเล Real Demand ยังพอจะสู้ราคาไหวอยู่ หรือ อาจจะเปลี่ยนจากการซื้อเป็นการเช่าเพื่อการอยู่อาศัยไปก่อนนั้นเอง
แต่ถ้าเป็นวันนี้ ตอนนี้ล่ะ … ผมว่าส่วนตัวผมเองก็เริ่มต้องมองหาทางเลือกในการมองโครงการในทำเลอนาคตมากขึ้นแหละ มันถึงเวลาแล้วครับ … ส่วนหนึ่งเป็น เพราะ ความเจริญของทำเลต่างๆที่มีแผนในการพัฒนาที่แน่นอนมากขึ้น และ ความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อความเป็นเมืองเริ่มมีความเป็นรูปเป็นร่างจับต้องได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย
แต่นั้นอาจจะเป็นเพียงข้ออ้าง … ในการสร้างมุมมองที่เป็นบวกในการยอมรับทำเลของโครงการที่อยู่ตามแนวส่วนต่อรถไฟฟ้า ที่อยู่ไกลเมืองออกไปเรื่อยๆ ซึ่งในความจริงแล้ว เหตุผลที่ทำให้เกิดความน่าสนใจ และน่าจะสร้างการยอมรับให้กับโครงการเหล่านี้ จริงๆ แล้วมันคือเรื่องอะไร ทายกันถูกมั้ย ?
ใช่แล้วครับ … มันคือเรื่องของราคานั้นเอง เพราะวันนี้โครงการคอนโดมิเนียมในเมืองราคาแรงแซงกำลังซื้อของ Real Demand ที่กำลังมองหาโครงการในระดับราคาที่เป็น Middle ไปไกลมากแล้ว ดังนั้น ผมจึงบอกว่ามันถึงเวลาแล้วสำหรับโครงการใหม่ๆตามแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ที่ยังสามารถทำราคาขายต่อยูนิตให้จับต้องได้ สำหรับคนทั่วไปที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย และ ต้องการเรื่องของการเดินทางที่สะดวกในการเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟฟ้า
โดยโครงการที่ผมกำลังจะยกมาพูดถึงสำหรับบทความนี้ นั้นก็คือ Project : De LAPIS Charan 81 by GRAND UNITY โครงการที่มีจุดเด่นทั้งเรื่องของทำเลที่ตั้งโครงการ ที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT บางพลัด) ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน สะดวกเวลาเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง การออกแบบยูนิตการอยู่อาศัยที่มีความลงตัวมากๆกับราคาต่อยูนิตที่ต้องใช้คำว่ายังพอจะสามารถจับต้องได้ สำหรับคนทุกสายอาชีพ และที่โดดเด่นเหนืออื่นใด นั้นก็คือ พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ ในชั้น Roof Top ของโครงการยังได้เสพวิวโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกต่างหาก อะไรจะคุ้มค่าดีงามตอบโจทย์ขนาดนั้น งั้นก่อนอื่นเราไปดูในส่วนของ Information Project ของโครงการนี้กันก่อนเนอะ
Information Project :
ทำเลที่ตั้งโครงการ : ถนนจรัญสนิทวงศ์ ติดรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัด
โครงการอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญๆ เช่น
สถานพยาบาล และศูนย์การแพทย์เฉพาะทางใกล้ : โรงพยาบาลศิริราช , โรงพยาบาลวชิรพยาบาล , โรงพยาบาลเจ้าพระยา , โรงพยาบาลยันฮี
สำนักงาน: สรรพากรบางพลัด, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
สถาบันการศึกษา : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยสวนดุสิต,โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์, โรงเรียนเซนต์คาเบรียล,โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์, โรงเรียนทิวไผ่งาม, โรงเรียนวัดนายโรง,โรงเรียนบูรณวิทย์
ห้างสรรพสินค้า : ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า, ตั้ง ฮั่ว เส็ง, เมเจอร์ ปิ่นเกล้า
ขนาดที่ดิน : 3-1-3.7 ไร่
ลักษณะโครงการ : คอนโดมิเนียม High Rise 32 ชั้น จำนวน 1 อาคาร + อาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคาร
ยูนิตทั้งหมด : 635 ยูนิต + ร้านค้า 2 ยูนิต
รูปแบบห้องพักอาศัย : Studio , 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus , 1 Bedroom Conner และ 2 Bedroom
ขนาดพื้นที่ใช้สอย : Fully Fitted (design ร่วมกับ Chic Republic) , Floor to Ceiling 2.75 เมตร และบานกระจกที่ใช้ภายในส่วนต่างของแต่ละยูนิตยังเป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass ทั้ง กระจกกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ,ตู้เสื้อผ้า และ กระจกบานเลื่อนบริเวณระเบียง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการอยู่อาศัยในกรณีกระจกแตก จะทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือ เกิดอุบัติเหตุที่มาจากกระจกอีกด้วย
Studio ( 26.00 ตร.ม. )
สำหรับ Studio ของโครงการนี้ หากดูจากขนาดของพื้นที่ยูนิต ที่มีขนาด 26 ตร.ม. ต้องบอกเลยว่าจัดเป็นยูนิต Studio ที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ใช้ได้เลย เมื่อรวมกับความสูง Floor to Ceiling : 2.75 เมตร ในส่วนของ Function : Living ที่เชื่อมต่อกับ Bedroom จะยิ่งทำให้ห้องดูมีความโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น ทำให้ Layout ของยูนิตนี้ ดูดีและแตกต่างจากความเป็น ยูนิต Studio ของโครงการอื่นๆ และอีก Function ที่ผมชอบและขอชมคนออกแบบ Layout ของ Unit Plan นี้ นั้นคือจากจัดวางในส่วนของตำแหน่งการวางพื้นที่ระเบียง และ Function ของตู้เสื้อผ้า ให้ความเป็น Walk in closet ที่ได้ความสว่างจากบานกระจกตรงบริเวณของระเบียงห้อง (ดูดีและส่วนตัวผมชอบนะ)
ภาพบรรยากาศจริง จากห้องตัวอย่างที่สำนักงานโครงการ
1 Bedroom ( 26.00 ตร.ม. )
Unit Plan : 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. แม้ขนาดพื้นที่ของยูนิตจะไม่แตกต่างกับยูนิตแบบ Studio แต่สำหรับใครที่อาจจะอยากได้ยูนิตการอยู่อาศัยที่มีความเป็น 1 Bedroom การออกแบบ Layout โดยการใช้กระจกบานเลื่อนเป็นตัวแบ่ง Function : Living กับ Bedroom ก็ให้ความเป็นสัดส่วน ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่อยากได้ยูนิตการอยู่อาศัยในรูปแบบ Unit Plan : 1 Bedroom และการที่ใช้ฉากกันเป็นกระจกบานเลื่อนก็ช่วยเรื่องของการรับแสงสว่างภายในพื้นที่ส่วนของ Function : Living ได้ดีอีกด้วย
ภาพบรรยากาศจริง จากห้องตัวอย่างที่สำนักงานโครงการ
1 Bedroom Plus ( 34.50 ตร.ม. )
สำหรับยูนิต 1 Bedroom Plus ( 34.50 ตร.ม. ) ของโครงการนี้ จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ นั้นก็คือในส่วนของ 1 Bedroom Plus แบบธรรมดา กับ 1 Bedroom Plus แบบที่เป็นห้องมุม ซึ่งทั้ง 2 แบบมีขนาดพื้นที่เท่ากันนะครับ แต่โดยส่วนตัวผมแล้ว ขอบอกตามตรงเลยว่าสำหรับ 1 Bedroom Plus ที่เป็นห้องมุมของโครงการนี้ Layout โคตรว้าว… โดนใจผมมากเลยครับ
1 Bedroom Plus แบบธรรมดา ด้วยความที่ขนาดของพื้นที่ห้องที่มีขนาด 34.50 ตร.ม. ทำให้การแบ่งสัดส่วน Function ในแต่ละส่วนถือว่าทำออกมาได้ลงตัว และ มีความเป็นสัดส่วนมากๆ
ภาพบรรยากาศจริง จากห้องตัวอย่างที่สำนักงานโครงการ
สำหรับ 1 Bedroom Plus แบบที่เป็นห้องมุม สำหรับผมผมขอยกให้เป็น Rare Unit สำหรับโครงการนี้เลยครับ (ทั้งโครงการจะมียูนิต 1 Bedroom Plus Conner แบบที่เป็นตำหน่งเฉพาะห้องมุม มีแค่เพียง 26 ยูนิตเท่านั้น) โดยความว้าว… ของ Unit Plan นี้ นั้นก็คือบานกระจก ตลอดแนวเชื่อมต่อจาก Function : Living + Bedroom โดยในส่วนของ Bedroom ยังได้ความเป็นกระจกเข้ามุมบานใหญ่อีกด้วย … ถ้าเลือกตำแหน่งระดับความสูงที่มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ต้องคิดถึงเลยว่าจะเป็นตำแหน่งที่มีคนแย่งกันมากแค่ไหนตอนเปิดจอง (โดยโครงการนี้เค้าจะมีการเปิดให้จองในวันที่ 19-20 พ.ค.2561)
2 Bedroom ( 60.00 ตร.ม. )
สำหรับ Unit Plan : 2 Bedroom ขนาด 60.00 ตร.ม. จะเป็น Function แบบ 2 ฺBathrooms โดยในส่วนของ Master Bedroom จะได้ความเป็นส่วนตัว เพราะจะมีห้องน้ำส่วนตัว และความน่าสนใจสำหรับ Unit Plan : 2 Bedroom นั้นก็คือส่วนที่เป็น Family Area นั้นก็คือส่วนของ Function : Living + Dining + Kitchen ซึ่งจะได้เป็นพื้นที่รวมขนาดใหญ่ และเปิดกว้างด้วยบานกระจกเชื่อมต่อกันตลอดแนว
Floor Plan :
Ground Fl.: Lobby ขนาด 235 ตร.ม. Double Volume (High Ceiling 9 เมตร) พร้อมชั้นลอย Co-working space , อาคารจอดรถด้านหลัง ความสูง 8 ชั้น
Fl.02-30 : ยูนิตพักอาศัย
Roof Top : Infinity Edge Swimming Pool ขนาด 5.7*20 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็กขนาด 3.5*3 เมตร ลึก 30 เซนติเมตร , Sky Fitness , Sky Lounge ที่สามารถมองเห็นวิวมุมสูงของแม่น้ำเจ้าพระยา และ วิวของกรุงเทพชั้นในได้อีกด้วย
Facilities :
จำนวนที่จอดรถ : 260 คัน หรือประมาณ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
ค่าส่วนกลาง / เงินกองทุน : 60 / 500 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 2.49 ล้านบาท*** (สำหรับห้อง 1 Bedroom)
” โห… ถ้าโครงการ De LAPIS Charan 81 by GRAND UNITY มันจะดีขนาดนี้ ทำไมพี่ไม่เขียน Unit Recommended ถึงโครงการนี้ไปเลยละครับ? ” แฟนเพจท่านหนึ่ง พูดกับผมตอนที่รู้ว่าผมได้มีโอกาสแวะไปชมห้องตัวอย่างที่โครงการนี้ และ รู้ว่าผมกำลังจะเขียนถึงโครงการนี้ให้แฟนเพจได้อ่านกัน
เออ … สารภาพตามตรง ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเขียน แต่จะให้ผมเขียนยังไงอะครับ ในเมื่อการออกแบบ Layout ของแต่ละ Unit Plan ของโครงการนี้ มันมีความโดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล แบบว่าลงตัวและแทบจะไม่มีข้อติ หรือ มีพื้นที่ที่ไร้ประโยชน์อะไรเลย แถมส่วนตัวผมก็จะไปประทับใจกับเรื่องการทำความสูง Floor to ceiling ที่ทำได้สูงถึง 2.75 เมตร (แม้ว่าบาง function ภายในแต่ละยูนิต อาจมีการลดความสูงลงบ้างเนื่องจากเป็นตำแหน่งของงานระบบต่างๆของแต่ละยูนิต) และหาให้พูดถึงตำแหน่งของวิวในแต่ละยูนิต ยิ่งทำให้เลือกเจาะจง Unit Recommended ยากเข้าไปอีก ยังไงอะ? ดูได้จากภาพประกอบด้านล่างกันเลยครับ T-T
นั้นแหละครับ … ที่ผมบอกว่าจะให้เลือก Unit Recommended ของโครงการนี้ แบบให้เจาะจงตำแหน่งเลยมันก็จะยากหน่อยๆนะ เพราะ ตำแหน่งที่ดินที่ตั้งของโครงการ และแนวการวางในส่วนของอาคาร มันทำให้เกิน 50% ของยูนิตในโครงการนี้สามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา แบบเต็มๆ
ดังนั้นหากจะให้เลือกตำแหน่ง Unit Recommended มันก็อยู่ที่ความชอบและงบประมาณในการเลือกซื้อของแต่ละคนแล้วละครับแบบนี้ แต่ถ้าถามว่าผมส่วนตัวชอบยูนิตไหนตำแหน่งอะไร …
ผมมันพวกเลือก Unit จากความดีงามของ Unit Plan ด้วยซิ ดังนั้นก็แน่นอนว่าผมชอบ …
แต่ผมจะเลือกชั้นไหนยังไง ขอรอดูราคาจริงตอนโครงการเค้าเปิดให้จองก่อนก็แล้วกันเนอะ …
ย้ำกันอีกครั้ง … โครงการ De LAPIS Charan 81 by GRAND UNITY เค้าจะเปิดให้จอง ในวันที่ 19 – 20 พ.ค. 2561 โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุดถึง 250,000 บาท ได้ที่ https://goo.gl/Ft6KWR
และสำหรับใครที่สนใจโครงการนี้ และอยากจะแวะเข้าไปดูห้องตัวอย่างจริงที่โครงการ ก็สามารถแวะเข้าไปชมกันได้ ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายนนี้เป็นต้นไป ณ สำนักงานขายของโครงการ หรือ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 652 4000
ขอบคุณสำหรับการติดตาม