Ciela Sripatum by Grand Unity [Ready To Move IN]

Open House : Ciela Sripatum by Grand Unity [Ready To Move IN]

ในความเป็นจริง … สำหรับบางโครงการช่วงที่โครงการเค้าเปิดขาย PreSale กัน ผมก็ไม่ได้มีโอกาสได้แวะเวียนไปชมห้องตัวอย่างหรือเขียนถึงก็อยู่หลายโครงการอยู่เหมือนกันนะ

ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะช่วงเวลานั้นผมอาจกำลังยุ่งหรือติดงานอื่นๆ จึงอาจต้องขอข้ามไปบ้างในบางโครงการ รวมถึงอาจเป็นเพราะด้วยความไม่อินกับทำเลที่ตั้งโครงการนั้นๆด้วย  ซึ่งผมเชื่อว่าประเด็นหลังเรื่องอินหรือความเข้าใจในทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นน่าจะเป็นประเด็นที่หลายคนก็น่าจะเข้าข่ายนี้กันเยอะ … ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้แปลกหรือแตกต่างอะไร

การไม่อินกับทำเลที่ตั้งของโครงการ … ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นเป็นทำเลใหม่ หรือ เป็นทำเลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีต่างๆที่กำลังอยู่ในระหว่างงานก่อสร้างในช่วงเวลาที่โครงการเปิดขาย PreSale

ซึ่งด้วยเหตุผลดังกล่าวมาทั้งหมดในตอนต้น จึงทำให้ผมพลาดโอกาสที่จะได้เขียนถึงหนึ่งในโครงการที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆในช่วงเปิดตัว PreSale หนึ่งในโครงการบนทำเลแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวฝั่งตอนเหนือทำเลโซนพหลโยธิน และ ยังเป็นโครงการที่อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยด้วย [ปัจจัยหลังคือส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงการนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดี]

ใช่ครับผม…กำลังจะขอพูดถึงโครงการ Ciela Sripatum by Grand Unity [Ready To Move IN] โครงการที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีศรีปทุม อยู่ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุมแบบเป๊ะๆเลย แถมยังเป็นโครงการที่ได้วิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของพื้นที่ราบ 11 ด้วย [น่าจะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ติดอันดับต้นๆของกรุงเทพเลยนะครับ]

ซึ่งทำให้โครงการ Ciela Sripatum by Grand Unity [Ready To Move IN] เป็นโครงการที่ผู้อยู่อาศัยจะได้รับประโยชน์จากทั้งเรื่องของการเดินทางที่สะดวกด้วยการที่โครงการตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าและอยู่ใกล้เส้นทางลัด [ถนนเลียบคลองบางเขน] ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ออกสู่ถนนวิภาวดีเข้าเมืองเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากๆ พร้อมยังได้เสพวิวของธรรมชาติพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของพื้นที่ราบ 11 และยังอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยทั้ง ม.ศรีปทุม และ ม.เกษตรศาสตร์ อีกด้วย

ทำไมตอนโครงการเปิดขายผมถึงมองข้ามโครงการนี้ไปซะได้ “โครงการดีทำเลเด่นขนาดนี้” … ไม่น่าเลย ยังโกรธตัวเองไม่หาย

ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมานั้น… จึงทำให้ผมมีความตั้งใจไว้ว่าเมื่อโครงการ Ciela Sripatum by Grand Unity [Ready To Move IN] ก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมให้เข้าอยู่เมื่อไร ผมจะหาเวลาไปแวะชมโครงการนี้เพื่อนำมาเขียนเป็นบทความให้แฟนเพจทุกท่านได้อ่านกัน

จึงเป็นที่มาของบทความ Open House : Ciela Sripatum by Grand Unity [Ready To Move IN] ซึ่งภายในบทความนี้ผมจะขอพาทุกท่านไปชมบรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางและห้องตัวอย่างของโครงการนี้

โดยในส่วนของห้องตัวอย่างทางโครงการมีการตกแต่งห้องตัวอย่างไว้ให้กับคนที่สนใจได้ชมโดยมีด้วยกันทั้งหมด 2 ห้อง ซึ่งผมจะมีการพูดถึงและทำการวิเคราะห์ในส่วนของ Function Layout ที่น่าสนใจ เผื่อไว้ให้กับใครที่กำลังสนใจโครงการนี้อยู่นำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้นะครับ

ผมขอเริ่มต้นด้วยการพาชมพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้กันก่อนเลยก็แล้วกันนะครับ โดยพื้นที่บริเวณด้านหน้าอาคารพักอาศัยจะเป็นส่วนของพื้นที่ Function : Pocket Garden มีการจัดโต๊ะสำหรับไว้นั่งเล่น ให้เราสามารถออกมานั่งเล่นท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้และพื้นที่สีเขียว มุมนี้แอบมีความน่ารักและดูร่มรื่มด้วยเงาตึกและต้นไม้รอบข้างนะครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Lobby ของโครงการนี้จะได้ความแกรนด์จากความโปร่งโล่งของ Floor To Ceiling แบบ Double Volume และ Mood & Tone ในการตกแต่งที่เน้นการใช้สีโทนขาวสะอาดตา ตัดด้วยสีของโซฟาสีน้ำเงินเข้ม และ สีเขียวของต้นไม้ที่อยู่โดยรอบของโครงการดูเรียบหรูลงตัวมากๆ

การจัดวางชุดเฟอร์นิเจอร์สำหรับรองรับเวลาที่เรามีเพื่อนหรือญาติพี่น้องมาเยี่ยมเยียนก็สามารถให้นั่งรอได้ที่บริเวณนี้ โดยตำแหน่งในการจัดวางจะแยกเป็นมุมตามช่องว่างของเสาตัวอาคาร เพื่อให้เวลาที่มีเราหรือใครมานั่งอยู่ในบริเวณนี้จะได้รับแสงสว่างที่เพียงพอและได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติต้นไม้สีเขียวจากบริเวณด้านนอกนั่นเอง

นอกเหนือจากความแกรนด์ของพื้นที่ Function : Lobby แล้วอีกหนึ่ง Function ที่ผมมองว่าโครงการนี้เค้าออกแบบและจัดสรรพื้นที่นี้ออกมาได้ดี และ น่าจะตอบโจทย์ผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการนี้ โดยเฉพาะกลุ่มน้องๆนักเรียน นักศึกษา [โครงการอยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยขนาดนี้…ก็ต้องเน้นออกแบบ Facilities ให้ตอบโจทย์ตรงกลุ่มอะเนอะ ]

นั่นก็คือส่วนของพื้นที่ Function : Co-Working Space ที่เน้นการตกแต่งโดยคุม Mood & Tone ให้ล้องไปกับพื้นที่ส่วนของ Function : Lobby

ภายในพื้นที่ส่วนของ Function : Co – Working Space ของโครงการนี้ มีการจัดวางในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ไว้รองรับในหลายหลายรูปแบบ

เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้เป็นพื้นที่ทำงานของแต่ละบุคคล มีทั้งรูปแบบของโต๊ะยาวที่สามารถรองรับการทำงานแบบกลุ่ม 4 – 6 คน หรือ โต๊ะแบบเคาน์เตอร์ ที่น่าจะตอบโจทย์การนั่งทำงานแบบ 1 – 2 คนและต้องการพื้นที่ความเป็นส่วนตัว

สำหรับใครที่อยากจะใช้พื้นที่ในส่วนของ Function นี้ เป็นมุมนั่งเล่น หรือ นั่งอ่านหนังสือแบบสบายๆ ทางโครงการเค้าก็มีการคิดและจัดเตรียมมาให้พร้อมเลยนะครับ กับชุดโซฟาที่จัดเตรียมไว้สำหรับใครที่อยากจะได้มุมสงบ และ Relax

ส่วนในบางครั้งที่เราอาจจะต้องการพื้นที่ในการ Brainstorm ประชุม หรือทำงานกลุ่มกับเพื่อนๆ และจะต้องมีการใช้เสียงดังในการพูดคุยแลกเปลี่ยน Idea กันในกลุ่ม

ภายในพื้นที่ Function : Co – Working  Space นี้ ก็ยังมีส่วนของพื้นที่ห้องประชุมแยกไว้สำหรับรองรับการทำงานหรือการประชุมที่ต้องการใช้เสียงอีกด้วยนะครับ

ส่วนของพื้นที่ Sky Facilities ของโครงการนี้จะอยู่ที่บริเวณชั้น 28 โดย Facilities ที่อยู่ในชั้นนี้ ผมจะขอเริ่มพูดถึงในส่วนของพื้นที่ Function : Sky Lounge ก่อนเลยนะครับ

ภายในของพื้นที่ส่วน Function นี้ รูปแบบการตกแต่งทางโครงการก็ยังเน้น Mood & Tone เดียวกับพื้นที่ในส่วนอื่นๆ และเพิ่มเติมความหรูหราให้กับ Function : Sky Lounge นี้ด้วยการมีส่วนพื้นที่ที่เป็น Double Volume และติดตั้งในส่วนของโคมไฟ Chandelier ขนาดใหญ่อลังการมากๆ

ส่วนของพื้นที่ Function : Sky Fitness ในส่วนของอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆนั้นไม่ต้องพูดถึงครับ ทางโครงการใส่มาแบบจัดเต็มมาครบจริงๆ ส่วนวิวเวลาที่เรามาใช้พื้นที่ออกกำลังการวิวที่คุณจะได้จะเป็นวิวที่หันออกไปทาง City View ส่วนของฝั่งรัชโยธินนั้นเอง [ภาพ City View ฝั่งรัชโยธิน ผมนำมาแปะไว้ให้ชมท้ายบทความนี้นะครับ]

ส่วนของพื้นที่ Function : Sky Pool นอกจากเรื่องของขนาดพื้นที่ของตัวสระว่ายน้ำที่ทอดยาวแล้ว [ 25 x 4 เมตร ] ตัวสระว่ายน้ำของโครงการนี้ยังมีความเป็น Infinity Edge Pool อีกด้วย ทำให้เวลาที่เรามาออกกำลังกายหรือมาว่ายน้ำในสระก็ยังสามารถจะมองวิวที่เปิดกว้างแตะขอบฟ้ากันเลยทีเดียว [หรือจะรอชมเครื่องบินขึ้นก็สามารถเห็นได้ชัดเจนอยู่นะครับ]

ก็จะประมาณนี้นะครับในส่วนของพื้นที่ Facilities Area ของโครงการนี้ ซึ่งผมอาจจะไม่ได้นำมาเสนอแบบครบทั้งหมดทุก Function ของโครงการนี้ เพราะปัจจุบันทางโครงการเองเริ่มมีผู้เข้าอยู่อาศัยกันบางแล้วบางส่วน

ซึ่งผมเองก็เกรงใจ ไม่อยากรบกวนผู้อยู่อาศัยของโครงการเค้าอะครับ เลยขอเลือกเก็บภาพเฉพาะมุมเด่นๆของ Function ที่น่าสนใจของโครงการนี้มาฝากทุกคนแทนนะครับ ^^

มาต่อกันด้วยส่วนของบทวิเคราะห์ในส่วนของห้องตัวอย่างทั้ง 2 แบบ ของโครงการนี้กันนะครับ โดยทางโครงการเลือก Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 60 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 31.5 ตร.ม. มาแต่งเป็นห้องตัวอย่างให้สำหรับใครที่สนใจโครงการนี้ได้ชมกัน ซึ่ง Unit Plan ทั้ง 2 แบบนี้ทางโครงการกำลังทำโปรโมชั่น “ห้องสวยหลุดโอน กับราคาที่น่าสนใจ พร้อมฟรี! ทุกค่าใช้จ่าย” อยู่ตอนนี้นั้นเอง

โดยผมจะเริ่มการวิเคราะห์จาก Unit Plan ที่ผมมีความชื่นชอบในโครงการนี้มากที่สุดก่อนก็แล้วกันนะครับ นั้นก็คือ Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 60 ตร.ม.

บทวิเคราะห์ Function Layout ห้องตัวอย่าง Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 60 ตร.ม.

เหตุผลที่ผมชอบ Unit Plan : 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 60 ตร.ม. ก็เป็นเพราะการออกแบบและจัดวาง Function Layout ของห้องนั้น ทางโครงการทำออกมาได้ลงตัวในทุกๆ Function เลยก็ว่าได้ และ ตำแหน่งของตัวห้อง 2 Bedroom เองก็ถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งที่ได้วิวที่สวยและน่าสนใจมากๆนั้นเองครับ

เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen ที่เชื่อมต่อกับส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining ซึ่งพื้นที่ในส่วนของ Function : Kitchen จะเป็น Function แบบครัวเปิด และ มีพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก … เพราะทางโครงการน่าจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ Function : Living + Dining มากกว่านั้นเอง

การออกแบบและจัดวาง Function Layout ของห้องโดยเน้นในส่วนของพื้นที่ Function : Living + Dining คือการมองเรื่องของการอยู่อาศัยในรูปแบบของครอบครัว ซึ่งสำหรับ Unit Plan นี้ที่เป็นแบบ 2 Bedroom ก็น่าจะตอบโจทย์โดนใจสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวอย่างแน่นอนนะครับ

ส่วนของตำแหน่งพื้นที่ระเบียงที่อยู่นอกตัวห้องจะอยู่บริเวณฝั่งของ Function : Dining ซึ่งผมมองว่าตำแหน่งการวางพื้นที่ระเบียงตำแหน่งนี้จัดวางได้ลงตัวดีนะครับ

ส่วนของทางเดินที่ภายในห้องที่เดินจากส่วนของ Function : Living เข้าสู่พื้นที่เป็น Private Zone หรือส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom ทั้ง 2 ห้องด้านใน ด้านข้างจะเป็นตำแหน่งของ Function : Bathroom ที่ไว้สำหรับรับรองแขกและสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในส่วนของ Function : Bedroom นั้นเอง

ส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom ขนาดพื้นที่อาจไม่ใหญ่มาก แต่การมีช่องหน้าต่างขนาดถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่ดูกำลังลงตัวก็ช่วยให้บรรยากาศภายในพื้นที่ Function นี้ดูสว่างและโปร่งโล่งไม่รู้สึกว่าอึดอัดแต่อย่างใด

ส่วนของพื้นที่ Function : Master Bedroom จะอยู่บริเวณด้านในสุดของตัวห้อง โดยตำแหน่งการวางพื้นที่ Function นี้จะอยู่บริเวณตำแหน่งของมุมตึก ดังนั้นจะได้กระจกแบบ Full Height ทั้ง 2 ด้าน คือดีมากๆ ทำให้เวลาอยู่อาศัยได้ทั้งเรื่องของความโปร่งโล่ง และ การรับวิวที่เปิดกว้างมากๆ

และอย่างที่แฟนเพจหลายๆคนจะรู้กันดีว่าถ้าผมจะเรียกพื้นที่ Function ไหนว่าเป็น  … Function : Master Bedroom ภายในพื้นที่ในส่วนนี้จะต้องมีส่วนของ Function : Private Bathroom ซึ่งสำหรับ Unit Plan นี้ก็จะมีส่วนของ Function : Private Bathroom เช่นกัน แม้ว่าภายในจะจัดวาง Function เป็นแบบ 3 Fixtures เมื่อกับ Function : Bathroom ด้านนอกก็ตามนะครับ … แต่ที่อยู่อาศัยในทำเลนี้การได้แบบ 3 Fixtures ก็น่าจะตอบเรื่องของการใช้พื้นที่ได้ลงตัวแล้วเนอะ

บทวิเคราะห์ Function Layout ห้องตัวอย่าง Unit Plan : 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 31.5 ตร.ม.

เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับส่วนของพื้นที่ Function : Living ก่อนเลยนะครับ โดยห้องตัวอย่างของโครงการมีการแต่งพื้นที่ Function นี้โดยการเลือกใช้เป็นโซฟายาวเต็มพื้นที่เลย ส่วนตัวมองว่าแอบทำให้ห้องดูแน่นไปสักหน่อย แต่ในมุมของการใช้งานจริงก็ดูลงตัวดีนะครับ เพราะการจัดวางตำแหน่งโซฟาทรงนี้ เค้าตั้งใจจะสื่อว่าโต๊ะกลางเป็น Function : Dining ไปในตัวเลยนั้นเองครับ

ส่วนถ้าใครที่เห็นภาพด้านบนแล้วสงสัยว่าทำไมส่วนของฉากกั้นกระจกบานเลือนที่กั้นส่วนของพื้นที่ Function : Living กับ Bedroom ทำไมเค้าถึงไม่ให้เป็นฉากกั้นแบบเต็มๆไปเลย ทำไมต้องมีผนังปูนกินพื้นที่เข้ามาหน่อยหนึ่ง

คำตอบ คือ เพราะทางโครงการอยากให้ความสำคัญกับความ Private ในส่วนของพื้นที่ Function : Bedroom นั้นเองครับ ซึ่งผมมองว่าบางคนชอบนะ ส่วนตัวผมว่าก็โอเคอยู่นะครับแม้ห้องอาจจะดูไม่โปร่งโล่งแต่ได้ความเป็นสัดส่วนของพื้นที่ที่มากขึ้นก็รับได้นะครับ 

ส่วนของพื้นที่ Function : ห้องอเนกประสงค์ ที่เป็นส่วนของ Function ที่เป็นการ Plus พื้นที่เพิ่มมา ในมุมของการอยู่อาศัยแบบคนโสด … การแต่พื้นที่ Function นี้เป็นห้องทำงานแบบห้องตัวอย่างก็ดูลงตัวมากๆเลยครับ และพื้นที่ส่วนนี้การจัดวางเรื่องของขนาดของพื้นที่ทำออกมาได้ดีลงตัวมากๆครับ ชอบๆ

มุมมองของพื้นที่ Function : ห้องอเนกประสงค์ มองจากฝั่งของพื้นที่ระเบียงด้านนอก … เหมาะกับการใช้เป็นห้องทำงานจริงๆครับ เพราะแสงสว่างเข้าถึงตัวห้อง แบบที่พอเพียงกับการอ่านหนังสือหรือนั่งทำงานดีเลยครับ

ส่วนของพื้นที่ Function : Kitchen จะเป็นรูปแบบเคาน์เตอร์บาร์ ขนาดไม่ใหญ่มากนักนะครับ ซึ่งผมว่ามีขนาดประมาณนี้ลงตัวแล้วครับ ตำแหน่งการวางจะอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าส่วนของ Function : Bathroom ของห้อง

ส่วนของพื้นที่ Function : Bathroom จะเป็นรูปแบบ 3 Fixtures แบบเดียวกันกับ Unit Plan ขนาดอื่นๆของโครงการนี้นะครับ มีการกั้นส่วนของพื้นที่เปียก-แห้ง ด้ายฉากกั้นกระจกแบบกระทุ้งนะครับ ตามภาพประกอบด้านล่างเลย

ในส่วนของ 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 31.5 ตร.ม. ผมมองว่าจริงๆแล้วในส่วนของพื้นที่ Function : ห้องอเนกประสงค์ ก็สามารถปรับเป็นส่วนของพื้นที่ห้องนอน 2 ได้นะครับ เพราะขนาดพื้นที่ของ Function นี้ ใกล้เคียงคับพื้นที่ของ Function : Bedroom เลยนะครับ … สายปล่อยเช่าน่าจะชอบนะครับ สำหรับ Unit Plan นี้

สำหรับบทความ Open House : Ciela Sripatum by Grand Unity [Ready To Move IN] ในครั้งนี้ ก็จะประมาณนี้นะครับ ส่วนตัวแล้วผมมองว่าโครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการในทำเลกรุงเทพโซนเหนือที่ดูมีความน่าสนใจ ทั้งสำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลนี้เพื่อการอยู่อาศัยจริง หรือ สำหรับใครที่เป็นสายลงทุนปล่อยเช่า ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งของโครงการนี้ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า BTS และ อยู่ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุมเลย ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ หรือ โรงเรียนสาธิตฯ นะครับ

สุดท้ายนี้สำหรับใครที่กำลังสนใจโครงการนี้ ผมแนะนำให้ลองแวะเข้าไปชมโครงการจริง ดูตำแหน่งห้องจริง วิวจริงกันดูนะครับ บอกเลยว่าฝั่ง City View ก็ดูสวยอยู่นะครับ … และหากใครมีข้อสงสัยหรืออยากจะเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับโครงการนี้ก็สามารถพิมพ์เข้ามาพูดคุยกับผมทาง Inbox ได้เช่นเคยนะครับ

Project Information :

ทำเลที่ตั้งโครงการ : ถนนพหลโยธิน ติดสถานีรถไฟฟ้า ศรีปทุม 0 เมตร

ขนาดที่ดิน : 6 – 1 – 17.30 ไร่

ลักษณะโครงการ : อาคารชุดพักอาศัย High Rise 28 ชั้น 1 อาคาร + อาคารจอดรถ 1 อาคาร

จำนวนยูนิต : 900 ยูนิต + ร้านค้า 3 ยูนิต

Unit Type : Floor To Ceiling 2.6 m. + Fully Fitted

Studio ขนาดพื้นที่ 21.5 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 26.5 ตร.ม.

1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 31.5 ตร.ม.

1 Bedroom Suit A & B ขนาดพื้นที่ 33.5 – 34.5 ตร.ม.

2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 60 ตร.ม.

Floor Plan :

Master Plan

02 – 27 Fl : ยูนิตพักอาศัย

28 Fl : Sky Facilities

Facilities : Lobby, Co – Working Space, Meeting Room, Pocket Garden, Sky Garden, Sky Lounge, Sky Fitness, Kid Pool, Swimming Pool [Infinity Edge], Sunset Seat,  Drop – Off

ที่จอดรถ : ประมาณ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)

ค่าส่วนกลาง / เงินกองทุน : 55 / 500 บาทต่อตร.ม.

ราคาเริ่มต้น : 3.49 ล้านบาท*

เพิ่มเติม…

ขอบคุณสำหรับการติดตาม